ใครจะคิด อาการล่าสุด "มเหสี" หลังโดนย้ายมาเลี้ยงที่ บึงฉวาก

จากกรณี "มเหสี" สิงโตของอินฟลูเอนเซอร์รายหนึ่ง หลังหลุดจากบ้าน ขย้ำเด็กวัย 11 ขวบ และชาวบ้านบาดเจ็บ ก่อนที่จะถูกเคลื่อนย้ายไปดูแลที่ศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก จ.สุพรรณบุรี ก่อนหน้านี้ เพจกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชโพสต์ภาพพร้อมระบุข้อความว่า

 

"ศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวากรายงานความคืบหน้าการดูแล "มเหสี" สิงโตเพศเมียอายุ 1 ปี 2 เดือน หลังถูกอายัดมาจากกรณีทำร้ายคนจนได้รับบาดเจ็บ โดยพบว่าตัวสัตว์ปรับตัวได้ดีและพร้อมออกจากกรงกักโรคแล้ว

 

โดย "สิงโตมเหสี" หมายเลขไมโครชิพ 900115004392995 ที่รับมอบจากส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) มีพัฒนาการและสัญญาณดี สามารถเข้ากันได้กับคน โดยมเหสีไม่ตื่นกลัวทีมพี่เลี้ยงและสร้างความคุ้นเคยได้ดี แสดงถึงการปรับตัวในสภาพแวดล้อมใหม่ 

กินอาหารได้ปกติ โดยกินอาหารได้เต็มที่วันละ 3.6 กิโลกรัม ประกอบด้วยเนื้อวัว 1 กก. , อกไก่ 2 กก. และโครงไก่ 0.6 กก. สุขภาพโดยรวมแข็งแรง ไม่พบความผิดปกติ ทีมสัตวแพทย์คอยเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง

ปัจจุบัน "มเหสี" กักโรคในกรงเลี้ยงมาครบ 7 วันตามมาตรฐานแล้ว กำลังจะได้รับอนุญาตให้ออกจากกรงและเดินเล่นในโซนคอก (สนาม) เป็นครั้งแรก ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการฟื้นฟูและให้โอกาสเจ้าสิงโตสาวได้มีชีวิตที่ดีขึ้นภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งทางศูนย์ฯ ยืนยันจะติดตามดูแลอย่างต่อเนื่องและรายงานผลต่อสัตวแพทย์ทันทีหากพบความผิดปกติใดๆ เพื่อความปลอดภัยของทั้งตัวสัตว์และเจ้าหน้าที่

ล่าสุด สพ.ญ.ณฐนน ปานเพ็ชร นายสัตวแพทย์ชำนาญการหัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวาก และศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก รายงานว่า มเหสี เข้ากันได้กับทีมพี่เลี้ยง จดจำชื่อได้ พี่เลี้ยงสามารถเรียกและสิงโตมเหสีเดินมาหาพี่เลี้ยงได้ กินอาหารได้ ทั้งหมด 4.5 กก. ได้แก่  เนื้อวัว จำนวน 1 กก. อกไก่ จำนวน 2 กก.  และ โครงไก่ 1.5 กก. 

ทีมพี่เลี้ยงได้ทำการเปิดสแลนที่ล้อมรอบกรงทั้งหมด เพื่อสังเกตพฤติกรรมว่ามีความตื่นตกใจสิ่งแวดล้อมและผู้คนอื่นๆหรือไม่ พบว่า สิงโตมเหสีไม่มีความตื่นตระหนก หรือ ตื่นตกใจแต่อย่างใด และในวันพรุ่งนี้ทีมพี่เลี้ยงจะทำการให้สิงโตมเหสีได้อยู่ในคอกสนามร่วมด้วย 

ทีมสัตวแพทย์ จะต้องทำการวางโปรแกรมวัคซีน โปรแกรมการถ่ายพยาธิ และโปรแกรมการตรวจสุขภาพอื่นๆเพิ่มเติมของสิงโตมเหสี ตามระบบการตรวจและดูแลสุขภาพของศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก"

ภาพจาก กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช