- 15 ต.ค. 2568
ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนบ่อย หลายพื้นที่ฝนตกชุกต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ชื่นชอบกิจกรรมแคมป์ปิ้ง เดินป่า หรือเล่นน้ำตามธรรมชาติ ควรเพิ่มความระมัดระวัง “ไข้รากสาด” โรคติดเชื้อที่มากับแมลงและเห็บไรจากสัตว์ป่า อาจแฝงตัวเข้ามาทำร้ายโดยไม่รู้ตัว
ในช่วงหน้าฝนแบบนี้ “ไข้รากสาด” หรือที่รู้จักกันในชื่อ “Scrub Typhus” กำลังเป็นอีกหนึ่งโรคที่ต้องระวัง โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่ชื่นชอบการตั้งแคมป์ เดินป่า หรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง เนื่องจากโรคนี้เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Orientia tsutsugamushi ซึ่งถูกส่งต่อผ่านการกัดของตัวไรอ่อน (Chigger) ที่มักอาศัยอยู่ตามพื้นหญ้าและบริเวณที่มีสัตว์ฟันแทะ เช่น หนูป่า
เมื่อถูกตัวไรอ่อนกัด เชื้อจะเข้าสู่ร่างกายและเริ่มฟักตัวภายใน 6–21 วัน ผู้ป่วยมักมีอาการไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตัว คลื่นไส้ หรือมีผื่นขึ้นตามตัว โดยจุดสังเกตสำคัญคือ “แผลดำคล้ายสะเก็ดแผลยุงกัด” ตรงจุดที่ถูกกัด ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนของโรคนี้ หากไม่ได้รับการรักษา อาจลุกลามจนมีอาการแทรกซ้อน เช่น ปอดอักเสบ ไตวาย หรือสมองอักเสบ
วิธีป้องกันโรคไข้รากสาดมีดังนี้
สวมเสื้อผ้าแขนยาว กางเกงขายาวเมื่อต้องเดินป่าหรือเข้าเขตธรรมชาติ
หลีกเลี่ยงการนั่งหรือนอนบนพื้นหญ้าโดยตรง
ใช้ยาทากันแมลงที่มีสาร DEET ก่อนออกกิจกรรมกลางแจ้ง
ซักเสื้อผ้าและอาบน้ำทันทีหลังจากกลับจากพื้นที่เสี่ยง
หากกลับจากแคมป์แล้วมีไข้สูงเรื้อรัง หรือพบรอยแผลคล้ายสะเก็ดแผลยุงกัด ควรรีบพบแพทย์ทันที เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกวิธี เพราะไข้รากสาดหากตรวจพบเร็ว สามารถรักษาให้หายได้ด้วยยาปฏิชีวนะในเวลาไม่นาน






