- 15 ต.ค. 2568
ตำรวจท่องเที่ยว พร้อมเจ้าหน้าที่กรมการท่องเที่ยว บุกค้นบริษัททัวร์ ย่านร่มเกล้า หลังไกด์เถื่อนต่างชาติ บังคับให้นักท่องเที่ยวซื้อสินค้า
ตำรวจท่องเที่ยว พร้อมเจ้าหน้าที่กรมการท่องเที่ยว บุกค้นบริษัททัวร์ ย่านร่มเกล้า หลังไกด์เถื่อนต่างชาติ บังคับให้นักท่องเที่ยวซื้อสินค้า ก่อนประกาศกร้าว หากไม่ซื้อจะไม่ยอมให้กลับเมืองจีน
จากกรณีที่สื่อสังคมออนไลน์เผยแพร่คลิปฉาวชายชาวจีนคนหนึ่ง ซึ่งเป็นไกด์เถื่อนต่างชาติกำลังถือไมค์โวยวายนักท่องเที่ยวชาวจีนบนรถบัส ว่าทำไมไม่ซื้อสินค้าที่ร้าน ซึ่งไม่ให้เกียรติไกด์ พร้อมทั้งข่มขู่นักท่องเที่ยวทั้งคันรถว่า จะทำให้กลับเมืองจีนไม่ได้ ก่อนที่ไกด์เถื่อนต่างชาติรายนี้จะหันไปเห็นว่ามีคนเอาโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายคลิปเอาไว้ พร้อมทั้งบังคับให้ลบคลิปดังกล่าวทิ้ง ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้นักท่องเที่ยวรู้สึกว่าเมืองไทยไม่ปลอดภัย และยังเป็นแหล่งอาชญากรรม ตามที่มีข่าวไปก่อนหน้านี้
ล่าสุด วันนี้ (14 ต.ค.68) เจ้าหน้ากองทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ กรมการท่องเที่ยวร่วมกับตำรวจท่องเที่ยว นำกำลังเข้าตรวจสอบบริษัท เฟงรุ้น ทราเวล แอนด์เทรดดิ้ง จำกัด ภายในหมู่บ้านปรีชา ร่มเกล้า กรุงเทพฯ พบว่า บริษัท เฟงรุ้นฯ มีใบอนุญาตถูกต้อง และได้ใช้รถบัสนำนักท่องเที่ยวจากบริษัทสยามเจมส์ ตามโปรแกรม กรุงเทพฯ-พัทยา-กรุงเทพฯ 5 คืน 6 วัน นักท่องเที่ยวจำนวน 24 คน และมีผู้นำเที่ยวมากับกรุ๊ปจำนวน 2 คน ร่วมเดินทางมาพร้อมกัน 26 คน ตามลิสต์รายชื่อ และบริษัทได้จัดทำประกันการเดินทางให้กับทุกคน มีนาย อาเย แขมือ ทำหน้าที่เป็นมัคคุเทศก์ของไทย และได้ให้ข้อมูลว่า เหตุการณ์ตามคลิป เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม ที่ผ่านมา บนรถบัสนำเที่ยว หน้าร้านจิวเวอรี่ RED 88 บางพระ ขากลับเข้ากรุงเทพฯ เป็นการโต้เถียงระหว่าง Mr. Zhang Bo อายุ 38 ปี ผู้นำเที่ยวของบริษัท Huiyou ซึ่งเป็นบริษัทนำเที่ยวจากประเทศจีน กับนักท่องเที่ยวชาวจีน แต่เป็นช่วงเวลาสั้น ๆ หลังจบทริปการเดินทาง นักท่องเที่ยวได้เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพทุกคน เมื่อเวลา 17.41 น. วานนี้ (13 ต.ค.68) ที่สนามบินดอนเมือง ไปเมืองซีอาน ประเทศจีน
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบการประกอบธุรกิจนำเที่ยว ของบริษัท เฟงรุ้น ทราเวล แอนเทรดดิ้ง จำกัด อาจเข้าข่าย “ขายรายการนำเที่ยวต่ำกว่าทุน” เจ้าหน้าที่จึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย โดยอาจมีความผิดตามมาตรา 31 และมีโทษตามมาตรา 84 “จำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน ห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” โดยกรมการท่องเที่ยว จะพิจารณาร้องทุกข์กล่าวโทษกรณีดังกล่าว อย่างไรก็ตาม พฤติกรรมของ Mr.Zhang Bo ยังไม่เข้าลักษณะการทำหน้าที่ไกด์เถื่อน ซึ่งทางบริษัทเฟงรุ้นฯ จะประสานให้บริษัท Huiyou ว่ากล่าวตักเตือน และลงโทษ Mr.Zhang Bo ต่อไป.
ขณะที่ กลุ่มมัคคุเทศก์ไทยตั้งข้อสังเกตว่า บริษัททัวร์จะให้การเป็นเท็จ เรื่อง หัวหน้าทัวร์ หรือทัวร์หลีดเดอร์หรือไม่ เนื่องจากหัวหน้าทัวร์ที่นำนักท่องเที่ยวมานั้น จะมีคนเดียว ถ้ามี 2 คน บริษัททัวร์จะมีค่าใช้จ่ายเยอะเกินความจำเป็น เช่น ค่าอาหาร ค่าที่พัก และค่าตั๋วเครื่องบิน
นอกจากนี้ คนจีนที่ข่มขู่นักท่องเที่ยว แล้วอ้างตัวว่าเป็นหัวหน้าทัวร์นั้น ได้เดินทางเข้า-ออกเวลาเดียวกับกรุ๊ปหรือไม่ ถ้าไม่ใช่ ก็แสดงว่าเป็นให้ข้อมูลเท็จต่อเจ้าหน้าที่ และถ้าไม่ได้เข้า-ออกวันเดียวกับกรุ๊ป แล้ว บุคคลดังกล่าวอยู่ในประเทศไทยกี่วัน
สำหรับหัวหน้าทัวร์นั้น ปกติจะไม่มีส่วนร่วมรับผิดชอบต้นทุนค่าทัวร์ ดังนั้นลูกทัวร์จะซื้อสินค้า และบริการที่ไกด์นำเสนอหรือไม่ ก็ไม่น่าจะโมโหขนาดนั้น ส่วนกรณีที่บุคคลดังกล่าวอ้างว่าเป็นหัวหน้าทัวร์ นั้น มีชื่อในเอกสารบัญชีรายชื่อหรือไม่ และข้อสำคัญ มีการจัดให้มีประกันภัยเช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวหรือไม่
ทั้งนี้ กลุ่มมัคคุเทศก์ไทยตั้งข้อสังเกตสุดท้ายว่า ถ้าเป็นหัวหน้าทัวร์จริง จะไม่กล้าก้าวร้าวกับนักท่องเที่ยว เพราะต้องเดินทางกลับพร้อมนักท่องเที่ยว แน่นอนว่านักท่องเที่ยวขณะอยู่ในเมืองไทย อาจจะเกรงกลัว แต่ถ้ากลับถึงสนามบินที่จีนแล้ว อาจจะโดนรุมทำร้าย หรือแจ้งตำรวจจับที่สนามบินเลย






