- 16 ต.ค. 2568
โครงการคนละครึ่งพลัส 2568 เตือน มิจฉาชีพ ระบาด โครงการของรัฐไม่มีนโยบายส่งลิงก์ลงทะเบียนผ่าน SMS หรือข้อความแปลกปลอมเด็ดขาด
โครงการคนละครึ่งพลัส 2568 เป็นโครงการที่เกิดขึ้นตามนโยบายของรัฐบาล โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย ภาครัฐจะร่วมจ่ายค่าสินค้าและบริการบางประเภทให้กับประชาชนที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อช่วยลดรายจ่าย สร้างกำลังซื้อ และเพิ่มรายได้ให้กับร้านค้ารายย่อย การลงทะเบียนสำหรับประชาชนจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 20 ถึง 26 ตุลาคม 2568 และสามารถเริ่มใช้สิทธิ์ได้ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม ถึง 31 ธันวาคม 2568 โดยการใช้สิทธิ์จะต้องทำผ่านแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" เท่านั้น
คุณสมบัติของผู้เข้าร่วมโครงการจะต้องเป็นผู้มีสัญชาติไทย มีอายุตั้งแต่ 16 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ลงทะเบียน และมีบัตรประจำตัวประชาชน อย่างไรก็ตาม มี 3 กลุ่มหลักที่จะไม่ได้รับสิทธิ์ ได้แก่ ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (ตามฐานข้อมูล ณ วันที่ 1 ตุลาคม 2568), ผู้ที่ถูกระงับสิทธิ์หรือถูกเรียกเงินคืน ในโครงการของรัฐบาลก่อนหน้า (เช่น โครงการคนละครึ่ง เฟส 1-5), และ ผู้ที่ไม่มีสมาร์ทโฟน สำหรับสิทธิ์ที่ประชาชนจะได้รับนั้นมีสองระดับ คือ 2,400 บาท สำหรับผู้ที่เคยยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด. 90, 91, หรือ 95) ของปีภาษี 2567 ตามฐานข้อมูลกรมสรรพากร ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2568 และ 2,000 บาท สำหรับประชาชนที่ไม่ได้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีดังกล่าว
ขั้นตอนการลงทะเบียนสำหรับประชาชนนั้นแบ่งเป็น "ผู้ที่เคยรับสิทธิ์" โครงการคนละครึ่งเฟส 5 และ "ผู้ที่ไม่เคยรับสิทธิ์" โดยทั้งสองกลุ่มต้องอัปเดตแอปฯ "เป๋าตัง" ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด และเปิดใช้งาน G Wallet จากนั้นเข้าแอปฯ แล้วกดแบนเนอร์ "โครงการคนละครึ่งพลัส" เพื่อยอมรับข้อตกลงและยืนยันการลงทะเบียน ส่วนร้านค้าสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการได้ผ่านแอปพลิเคชัน "ถุงเงิน" ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม ถึง 19 ธันวาคม 2568 ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการได้แก่ ร้านอาหาร เครื่องดื่ม สินค้าทั่วไป บริการนวด สปา ทำเล็บ ทำผม และบริการขนส่งสาธารณะ ร้านค้าใหม่จะต้องเตรียมบัตรประชาชนและรูปถ่ายเจ้าของขณะประกอบกิจการ พร้อมนำแบบฟอร์มไปติดต่อเจ้าหน้าที่รัฐหรือธนาคารกรุงไทยเพื่อยืนยันกิจการ
เนื่องจากใกล้ช่วงเวลาลงทะเบียน จึงมีคำเตือนภัยจากมิจฉาชีพที่แอบอ้างโครงการ “คนละครึ่งพลัส” ประชาชนและร้านค้าควรระมัดระวังเป็นพิเศษ โดย โครงการของรัฐไม่มีนโยบายส่งลิงก์ลงทะเบียนผ่าน SMS หรือโทรศัพท์ไปขอรหัส OTP หรือขอให้โอนเงินเด็ดขาด การลงทะเบียนที่ถูกต้องทำได้เฉพาะผ่านแอปฯ "เป๋าตัง" และ "ถุงเงิน" เท่านั้น ในส่วนของร้านค้าที่เคยร่วมโครงการเฟส 5 บางรายที่ประสบปัญหาไม่พบแบนเนอร์คนละครึ่งพลัสในแอปฯ "ถุงเงิน" นั้น ธนาคารกรุงไทยแนะนำให้ดำเนินการอัปเดตแอปฯ ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด (version 5.43.0) หรือหากไม่พบข้อมูลยืนยันการประกอบกิจการในฐานข้อมูลรัฐ ก็จะต้องดำเนินการสมัครใหม่โดยยื่นเอกสารเพื่อยืนยันกิจการกับเจ้าหน้าที่รัฐกระทรวงมหาดไทยหรือธนาคารกรุงไทย






