- 18 ต.ค. 2568
ปฏิบัติการกลางขุนเขา จับแรงงานต่างด้าวทำสวนส้มเถื่อน เชื่อว่าเบื้องหลังเป็นเครือข่ายผู้มีอิทธิพล “นายทุนบุกรุกป่า”เร่งขยายผลเชิงลึก
ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการกลางขุนเขา จับแรงงานต่างด้าวทำสวนส้มเถื่อน พร้อมรวบอีก 5 ราย พกปืนบุกพื้นที่ต้องห้ามร่วมกันจับกุม ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าขุนแม่ลาย บ้านกองลอย หมู่ 4 ต.บ่อสลี อ.ฮอด จ.เชียงใหม่
1.นายสามห้าฯ สัญชาติเมียนมา อายุ 52 ปี ไม่มีหนังสือเดินทางหรือใบอนุญาตทำงาน
2.นายณัฐชัยฯ อายุ 31 ปี พบปืนยาวขนาด .22 พร้อมกระสุน 5 นัด
3.นายวีรชัยฯ อายุ 39 ปี พบปืนลูกซองยาวพร้อมกระสุน 22 นัด
4.นายอภิชัยฯ อายุ 21 ปี พบปืนแก๊ปยาวซุกในกระสอบ
5.นายธงชัยฯ อายุ 38 ปี พบปืนลูกซองยาวพร้อมกระสุน 17 นัด
โดยกล่าวหาว่า “บุกรุกและทำลายป่าสงวนแห่งชาติ, ประกอบกิจการน้ำบาดาลโดยไม่ได้รับอนุญาต, ครอบครองและเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1, คนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองและทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต“
สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปทส. ร่วมกับกรมป่าไม้ และฝ่ายปกครอง อ.ฮอด ลุยตรวจป่าสงวนแห่งชาติป่าขุนแม่ลาย หลังได้รับแจ้งว่ามีกลุ่มบุคคลลอบแผ้วถางและยึดพื้นที่ป่าสงวนปลูก “สวนส้มเถื่อน” กลางภูเขา
เมื่อเข้าตรวจสอบ พบพื้นที่ป่ากว่า 21 ไร่ ถูกแผ้วถางหมดสิ้น มีการปลูกส้มเขียวหวานเป็นแถวเป็นแนว พร้อมระบบน้ำสปริงเกอร์และบ่อบาดาลขนาดใหญ่
ภายในกระท่อมกลางสวนพบ นายสามห้าฯชาวเมียนมา ตรวจพบว่าไม่มีหนังสือเดินทางหรือใบอนุญาตทำงาน และพบ ยาเสพติด 6 เม็ดพร้อมอุปกรณ์ และมีผลตรวจปัสสาวะเป็นบวก
โดยนายสามห้าฯ สารภาพว่าตนทำงานเฝ้าสวนให้ “นายจ้าง” โดยได้รับค่าจ้างเดือนละ 5,000 บาท เจ้าหน้าที่เชื่อว่าเบื้องหลังเป็นเครือข่าย “นายทุนบุกรุกป่า” เนื่องจากพบร่องรอยการลงทุนสูง และการปลูกพืชเชิงพาณิชย์อย่างเป็นระบบ โดยพบนามต้องสงสัยว่า นางกั้งฯ และบุตรชาย ซึ่งถูกระบุว่าเป็นผู้ว่าจ้างและเจ้าของสวน
ขณะเจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการตรวจสอบในพื้นที่อยู่นั้น ได้มีชายหลายรายขับรถจักรยานยนต์เข้ามาในบริเวณสวนส้ม โดยมีท่าทีพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงเรียกตรวจค้น พบอาวุธปืน 4 กระบอกพร้อมกระสุน ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพว่าอาวุธเป็นของตนเอง และไม่มีใบอนุญาตครอบครองแต่อย่างใด
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ่อหลวง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ขณะเดียวกันได้รายงานต่อ บก.ปทส. เพื่อขยายผลตรวจสอบเชิงลึกหาตัวผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลังการบุกรุกป่าครั้งนี้






