- 19 ต.ค. 2568
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม และ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) รวบมิจฉาชีพหลอกลงทุนคริปโตฯผ่านไลน์ สูญเงินกว่า 22 ล้านบาท
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม และ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก., พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.สอท. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.นิเวศน์ อาภาวศิน รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.อรุษ แสงจันทร์ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ชัชปัณกาณฑ์ คล้ายคลึง รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.พัฒนศักดิ์ บุปผาสุวรรณ ผบก.ป., พล.ต.ต.ศิลา กาญจน์รักษ์ ผบก.สอท.5, พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.ณัฐวุฒิ ชมเชย รอง ผบก.สอท.5, พ.ต.อ.บัญชา ศรีสุข รอง ผบก.สอท.5, พ.ต.อ.เอกวีร์ พงศ์สร้อยเพชร รอง ผบก.สอท.5, พ.ต.อ.รชตโชค ลีวาณิชคุณ รอง ผบก.สอท.5, ว่าที่ พ.ต.อ.เนติวิทย์ ธนาสิทธิ์นิติกุล ผกก.2 บก.ป., พ.ต.ท.มนต์ชัย เพ็งเลิศ, พ.ต.ท.พงศกร ต้นอารีย์, พ.ต.ท.สิทธิพร มีอาษา, พ.ต.ท.ปรัชญ์ แม้นเดช รอง ผกก.2 บก.ป., พ.ต.อ.สุทธิชัย เทียนโพธิ์ ผกก.3 บก.สอท.5, พ.ต.ท.ปฐมพงศ์ มีอยู่ รอง ผกก.3 บก.สอท.5
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.วรัท เสริมสุจริต สว.กก.2 บก.ป., ร.ต.ต.วิเชียร ใจทา รอง สว.(ป.)กก.2 บก.ป., ด.ต.เชวงศักดิ์ แสงอรุณ ผบ.หมู่ กก.2 บก.ป., ด.ต.เอกชัย หอมจันทร์ ผบ.หมู่ กก.2 บก.ป.,
ด.ต.จิรศักดิ์ มั่งคั่ง ผบ.หมู่ กก.2 บก.ป.,จ.ส.ต.สาทิส พากเพียร ผบ.หมู่ กก.2 บก.ป.
เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.สอท.5 นำโดย พ.ต.ต.หญิงเกียรติสุดา แก้วชนะ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ
บก.สอท.5ปรก.สว.กก.3 บก.สอท.5, ร.ต.อ.วชิรวัตติ์ กิจธนเจริญฤทธิ์ รอง สว.กก.3 บก.สอท.5, จ.ส.ต.วีรวิชญ์ หมื่นยงค์ ผบ.หมู่ กก.3 บก.สอท.2
ร่วมกันจับกุม นาย สิทธิชัยฯ ตามหมายจับ ศาลอาญาธนบุรี ที่ 915/2568 ลงวันที่ 24 กันยายน 2568
โดยต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง”
สถานที่จับกุม บริเวณภายในห้างย่านสุขุมวิท แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร
พฤติการณ์ ผู้เสียหายได้รู้จักและสนทนากับคนร้ายผ่านทางแอปพลิเคชันไลน์ ต่อมาคนร้ายได้ให้ไอดีไลน์มา และได้ชักชวนผู้เสียหายลงทุนในคริปโตฯ พร้อมได้ส่งลิงก์ http;//www.pkexce.com มาให้ผู้เสียหายโหลด และสอนวิธีการเล่นและเติมเงินให้ผู้เสียหายติดต่อ Customer service เพื่อเติมเงิน และแปลงสกุลเงินบาทเป็น USDT จากนั้น Customer service มีการให้เลขบัญชี ชื่อเจ้าของบัญชี และจำนวนเงินที่จะต้องโอนมาให้ เมื่อผู้เสียหายโอนเงินเสร็จคนร้ายให้ส่งใบโอนเงินไปให้ Customer service หลังจากนั้นเงินจึงเข้าระบบ platform pkex คนร้ายได้สอนวิธีการเทรดคริปโตฯ โดยส่งเวลาในการซื้อขาย เปอร์เซ็นต์กำไรที่จะได้ ผู้เสียหายจึงได้ลงทุนไปจำนวนหลายครั้ง รวมเป็นจำนวนเงิน 22,050,929 บาท
ต่อมาผู้เสียหายได้ ถอนเงินออกจากระบบ หลังจากถอนเงินแล้วได้รับข้อความแจ้งว่าผู้เสียหายถอนเงินบ่อยครั้ง ฝ่ายควบคุมของการแลกเปลี่ยนจึงประเมินว่าบัญชีของผู้เสียหายถูกสงสัยว่าเป็นเงินสดจากการฟอกเงินที่เป็นอันตราย และระงับเงินทั้งหมดในบัญชีชั่วคราว และทาง Customer service แจ้งว่า จะดำเนินการระงับบัญชีของผู้เสียหาย จนกว่าผู้เสียหายจะเพิ่มเงินจำนวน 1 เท่า ของยอดทั้งหมด ผู้เสียหายจึงเชื่อว่าถูกหลอกให้ได้รับความเสียหาย จึงมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีกับคนร้าย และผู้ที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายจนกว่าคดีจะถึงที่สุด
จากการลงพื้นที่ตรวจสอบและสืบสวนเพิ่มเติม เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหารายดังกล่าวได้
ทราบชื่อภายหลัง คือนายสิทธิชัยฯ อายุ 32 ปี นายสิทธิชัยฯ ให้การอ้างว่า ตนเปิดบัญชีธนาคารไว้ เพื่อใช้สมัครงาน ไม่ทราบว่าจะถูกนำไปใช้ในทางผิดกฎหมายเอาไปหลอกลวงประชาชน
จากการตรวจสอบประวัติพบว่า นายสิทธิชัยฯ เคยถูกจับกุมในคดีลักษณะเดียวกันนี้มาแล้วในท้องที่
สน.เตาปูน และยังมีคดีที่รอดำเนินการอยู่อีกหลายท้องที่ เบื้องต้นเจ้าหน้าตำรวจชุดจับกุมได้แจ้งข้อกล่าวหาและแจ้งสิทธิตามหมายจับที่เกี่ยวข้อง และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.สอท.1 เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การปฎิเสธตลอดข้อกล่าวหา
เตือนภัย ⚠️ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอเตือนประชาชน
• อย่าหลงเชื่อผู้ที่ชักชวนลงทุนผ่านไลน์หรือโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะแพลตฟอร์มที่ไม่รู้จัก
• ตรวจสอบเว็บไซต์และบัญชีธนาคารทุกครั้งก่อนโอนเงิน
• หากสงสัยว่าเป็นมิจฉาชีพ สามารถตรวจสอบบัญชีต้องสงสัยได้ที่
• 👉 www.thaipoliceonline.com หรือโทร สายด่วน 1441
หากพบเห็นพฤติกรรมลักษณะดังกล่าว หรือสงสัยว่าเป็นการหลอกลวงสามารถแจ้งเบาะแสได้ที่
📞 สายด่วนกองปราบปราม 1195 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจสอบและป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายต่อประชาชน “รู้เท่าทัน ป้องกันภัย ใส่ใจสังคม”
ช่องทางการติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม พ.ต.ต.วรัท เสริมสุจริต สว.กก.2 บก.ป. หมายเลขโทรศัพท์ 061-587-4224
“การเผยแพร่ข่าวเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะของประชาชน
ให้รู้เท่าทันภัยอันตรายรูปแบบต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อสร้างการตระหนักรู้เป็นวงกว้าง
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด
ดังนั้น สำหรับการเผยแพร่ข่าวของสื่อมวลชน ขอให้พิจารณาถึงประโยชน์และสิทธิของผู้ต้องหาข้างต้น”






