- 19 ต.ค. 2568
ใกล้แล้ว เทศกาลกินเจ 2568 จัดเต็ม 9 วัน (21-29 ต.ค.) พร้อมเปิดเหตุผลว่า "กินเจไปทำไม?" และ มีผัก 5 ชนิด ที่ควรเลี่ยงในช่วงเทศกาลกินเจ
ใกล้แล้ว เทศกาลกินเจ 2568 จัดเต็ม 9 วัน (21-29 ต.ค.) พร้อมเปิดเหตุผลว่า "กินเจไปทำไม?"
เทศกาลถือศีลกินเจ ใกล้เข้ามาแล้ว โดยปีนี้จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21 – 29 ตุลาคม 2568 การกินเจไม่ใช่แค่การงดอาหาร แต่คือการชำระล้างและยกระดับชีวิตตามหลักพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน
คำว่า "เจ" (祭) ในภาษาจีนหมายถึง "อุโบสถ" ซึ่งคือการรักษาศีล ดังนั้นการกินเจจึงรวมถึงการรักษา ความบริสุทธิ์และสะอาดทางกาย วาจา และใจ ควบคู่กันไป
การกินเจ ไม่ใช่แค่เรื่องงดเนื้อสัตว์ แต่คือการดูแลชีวิต
หลายคนเลือกกินเจตลอด 3 วัน, 5 วัน หรือ 9 วัน ไม่ใช่เพียงเพราะความเชื่อ แต่เพราะมีประโยชน์รอบด้าน ดังนี้
1. ประโยชน์ต่อสุขภาพ: ฟื้นฟูและปรับสมดุลร่างกาย
ปรับสมดุล: อาหารเจส่วนใหญ่เน้นผักและธัญพืช ทำให้ย่อยง่าย ช่วยปรับสมดุลระบบภายในร่างกาย
ขับของเสีย: ช่วยให้ระบบต่าง ๆ ได้ฟื้นฟูและทำงานดีขึ้น รวมถึงช่วยขับของเสียที่สะสม
ลดความเสี่ยงโรค: การงดเนื้อสัตว์ช่วยลดความเสี่ยงของโรคไม่ติดต่อเรื้อรังบางชนิด เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด
2. ประโยชน์ทางจิตวิญญาณ: ชำระล้างจิตใจและลดกรรม
รักษาศีลและเมตตา: เป็นการฝึกจิตใจให้สะอาดบริสุทธิ์ มีเมตตาต่อทุกชีวิต และละเว้นการเบียดเบียน (ลดกรรม)
ปฏิบัติธรรม: เป็นการปฏิบัติธรรมตามหลักศีล 8 ในนิกายมหายาน
สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์: เพื่อสักการะพระพุทธเจ้า 7 พระองค์ และพระมหาโพธิสัตว์อีก 2 พระองค์ (รวม 9 พระองค์)
เทศกาลกินเจจึงเป็นโอกาสสำคัญที่ร่างกายจะได้พักจากการบริโภคเนื้อสัตว์ และเป็นช่วงเวลาดีที่สุดในการ "ทำบุญด้วยการถือศีล" เพื่อความสุขความเจริญตลอดปี
ก่อนจะกินเจควรรู้ มีผัก 5 ชนิด ที่ควรเลี่ยงในช่วงเทศกาลกินเจ
อย่างที่ทราบกันดีว่า “เทศกาลกินเจ” เป็นการงดเว้นเนื้อสัตว์ มุ่งบริโภคผักเป็นหลัก แต่รู้หรือไม่ว่า? มีผักบางชนิดที่ห้ามรับประทาน อย่างเจ้าผักที่มีรสหนัก มีกลิ่นฉุนแรง ซึ่งมีทั้งหมด 5 ชนิดด้วยกัน ได้แก่
1. กระเทียม (หัวกระเทียม, ต้นกระเทียม)
ห้ามกินกระเทียม ทั้งส่วนหัว และต้นของกระเทียม เพราะจะส่งผลต่อ ธาตุไฟ ทำให้เข้าไปทำลายระบบธาตุไฟในร่างกาย ซึ่งจะทำให้หัวใจทำงานผิดปกติ
2. หัวหอม พืชตระกูลหอม หัวหอมใหญ่ หอมแดง ต้นหอม และผักชี
ห้ามกินหอมทุกชนิดและผักชี (ยกเว้นผักชีฝรั่ง) ในช่วงที่กินเจ แพทย์แผนจีนมีความเชื่อว่าหอมทุกชนิดจะส่งผลกระทบต่อ ธาตุน้ำ ภายในร่างกาย ซึ่งจะเข้าไปทำลายการทำงานของไต ส่งผลให้ไตทำงานได้ไม่ปกติ
3. หลักเกียว หรือ กระเทียมโทนจีน
ห้ามกินหลักเกียว หรือที่เรียกกันว่า กระเทียมโทนจีน เพราะจะส่งผลต่อระบบของ ธาตุดิน ในร่างกาย การทำลายธาตุดิน จะทำให้การทำงานของม้ามไม่ปกติ
4. กุยช่าย
ห้ามกินกุยช่าย ผักใบเขียวเล็กๆ แต่มีกลิ่นรุนแรง เป็นผักอีกหนึ่งชนิดที่ห้ามกิน เพราะจะมีผลกระทบต่อ ธาตุไม้ ซึ่งถ้าทำลายธาตุไม้ในร่างกาย จะทำให้ตับทำงานได้ไม่ปกติ
5. ใบยาสูบ (บุหรี่, ยาเส้น, ของเสพติดมึนเมา)
ละเว้นใบยาสูบ ไม่ว่าจะเป็นสูบบุหรี่ ยาเส้น หรือของเสพติดมึนเมาต่างๆ เพราะจะทำให้เข้าไปทำลาย ธาตุโลหะ หรือจะส่งผลกระทบต่อการทำงานของปอด ทำให้ปอดทำงานได้ไม่ปกติ
นอกจากนี้ยังเชื่อว่าในพืชผักทั้ง 5 ชนิดนี้ มีสารพิษที่จะเข้าไปทำลายพลังธาตุทั้ง 5 ของร่างกาย ทำให้อวัยวะหลักสำคัญภายในร่างกายทำงานไม่ปกติ ซึ่งผู้ที่ไม่ควรกินอย่างยิ่ง คือ ผู้ที่ปฏิบัติสมาธิกรรมฐาน หรือผู้ที่กำลังฝึกการทำสมาธิ เพราะพืชผักต้องห้ามทั้งหลายนั้นมีฤทธิ์กระตุ้นจิตใจ ทำให้รู้สึกหงุดหงิด อารมณ์ร้อน โกรธง่าย และยังส่งต่อพลังธาตุในร่างกายรวมตัวกันไม่ติดอีกด้วย






