- 21 ต.ค. 2568
จ่าคิงส์ พาหญิง ผอ. ซี 8 ร้องกองปราบฯ โดนเพื่อนเอามือถือไปกู้เงินผ่านแอปเถื่อน ดูดข้อมูล-ประจานรูป ด่าแรง สูญเงินกว่า 3 แสน
เวลา 10.30 น. วันที่ 21 ต.ค. 68 น.ส.ออย (นามสมมติ) อายุ 50 ปี ข้าราชการระดับ ผอ. ซี 8 ได้เข้ายื่นเรื่องขอความเป็นธรรมและขอความช่วยเหลือจาก จ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่ อดีต สห. ทอ. และทีมงาน ภายหลังตกเป็นเหยื่อของ "แอปพลิเคชันสินเชื่อเถื่อน" ที่ชื่อว่า "App ทรัพย์พลัส 32 App" จนเกือบคิดสั้นเพราะความอับอายขายหน้า
น.ส.ออย เปิดเผยว่า ตนเป็น ผอ. ในกระทรวงหนึ่ง ปัจจุบันอยู่กับคุณแม่วัย 80 ปี เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ตนถูกเพื่อนสนิทขอร้องให้ช่วยกู้เงินผ่านแอปพลิเคชันดังกล่าว ด้วยความสงสารและไว้ใจ เนื่องจากตนทำไม่เป็น เพื่อนจึงเอาโทรศัพท์ของตนไปดำเนินการให้ และนำเงินที่กู้ได้จำนวนประมาณ 180,000 บาท ไป สุดท้ายเพื่อนกลับบล็อกเบอร์และหนีหายไป ทำให้ตนต้องรับภาระหนี้สินเอง
ปัญหาคือ App ทรัพย์พลัส 32 App เป็นแอปฯ เถื่อนที่ต้องชำระหนี้ทุก 7 วัน ซึ่งขณะนี้ตนได้จ่ายเงินไปแล้วรวมกว่า 300,000 บาท แต่แอปฯ ยังคงตามทวงหนี้อย่างต่อเนื่อง โดยมีบุคคลที่ใช้ภาษาไม่ชัดเจน คล้ายคนกัมพูชา โทรศัพท์มาข่มขู่คนรู้จักตนทุกเบอร์ อีกทั้งยังมีการ "ดูดข้อมูล" ในโทรศัพท์มือถือของตนไปทั้งหมด ทั้งรายชื่อ, รูปภาพ, ข้อมูลในเฟซบุ๊กและไลน์
จุดที่ทำให้ น.ส.ออย รู้สึกอับอายจนไม่อยากมีชีวิตอยู่ คือการที่มิจฉาชีพได้นำข้อมูลที่ดูดไปโพสต์ประจาน ที่หน้าเฟซบุ๊กของเพื่อนหลายคน โดยใช้ถ้อยคำหยาบคาย ด่าทอตนว่า "ต่ำ" และ "เป็นกะหรี่" ทำให้ตนซึ่งไม่เคยเป็นหนี้ใครและมีตำแหน่งหน้าที่การงานดี ต้องเสื่อมเสียชื่อเสียงอย่างร้ายแรง
“คนที่ไม่เข้าใจ ก็มากล่าวหาว่าตนไปกู้ยืมเงินมาเปย์ผู้ชาย ซึ่งไม่เป็นเรื่องจริง สาเหตุมาจากเพื่อนตัวแสบคนดังกล่าวที่รู้จักกันมาตั้งแต่สมัยเป็นเด็ก ๆ มาหลอกลวง ตนอยู่กับคุณแม่วัยชราอายุกว่า 80 ปี ไม่เคยมีเรื่องเสื่อมเสียเกี่ยวกับผู้ชาย เลยเสียใจเสียความรู้สึกมากจนเครียด“
น.ส.ออย กล่าวด้วยน้ำตาว่า ตนพลาดเพราะรักและเชื่อใจเพื่อน จึงวิงวอนขอให้ จ่าคิงส์ ช่วยประสานพามายังกองปราบปราม เพื่อให้สามารถผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปได้
ด้าน อาจารย์มานพ สีเหลือง นักบัญชีและกฎหมาย ได้ออกมาเตือนถึงอันตรายจาก "แอปพลิเคชันสินเชื่อเถื่อน" ว่า ปัญหาหลักคือการได้เงินไม่ตรงยอดกู้ และการถูกหลอกให้ "ให้สิทธิเข้าถึงข้อมูล" ในโทรศัพท์ ซึ่งมิจฉาชีพจะนำไปใช้ในการทวงหนี้ที่รุนแรง ด้วยการข่มขู่และประจาน จนเคยนำไปสู่โศกนาฏกรรมดังเช่นกรณีหนุ่มโรงงานผูกคอตายมาแล้ว
การกระทำเช่นนี้เข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA), พ.ร.บ. การทวงถามหนี้ และกฎหมายอาญาฐานหมิ่นประมาท ผู้เสียหายจึงต้องดำเนินการทางกฎหมายทันที
คำแนะนำเร่งด่วนสำหรับเหยื่อ
- รวบรวมหลักฐาน แคปหน้าจอแอป, สลิปโอนเงิน, ข้อความข่มขู่ และหลักฐานการประจานทั้งหมด
- ระงับการเข้าถึง ลบแอปทิ้งทันที และยกเลิกสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลในการตั้งค่าโทรศัพท์ เพื่อหยุดการล้วงข้อมูล
- แจ้งความ ติดต่อ ตำรวจไซเบอร์ (สายด่วน 1441) หรือเว็บไซต์แจ้งความออนไลน์ทันที เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
- ขอความช่วยเหลือ ติดต่อ ศูนย์ดำรงธรรม (1567) หรือ ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน (1213) เพื่อขอคำปรึกษาและแก้ไขปัญหาหนี้สิน
หลังเข้าพบพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม พบว่าแอปฯ ดังกล่าวเป็นแอปเถื่อนที่ทำมาจากประเทศเพื่อนบ้าน ก่อนให้คำแนะนำว่าไม่ต้องไปจ่ายเงินตามที่ทวงมาอีก อย่าไปสนใจสิ่งที่เขาโพสต์ประจานซึ่งเป็นเรื่องผิดกฎหมาย ส่วนเงินที่เสียไปแนะนำให้ติดตามหาเพื่อนคนที่มาใช้มือถือไปกู้ยืมเงินคืนมาได้บางส่วน






