เปิดความจริงห้องฉุกเฉิน ลำดับรักษาคนไข้ ไม่ใช่มาก่อนรักษาก่อน

สาวแชร์ประสบการณ์เฉียดตายกลางดึก แน่นหน้าอกหายใจไม่ออก ย้ำห้องฉุกเฉินไม่มีคิว ไม่ใช่มาก่อนจะได้รักษาก่อน

เป็นประเด็นที่ได้รับความสรใจอย่างมาก จากกรณีเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “ณัฎฐา ศรีสังข์” ได้โพสต์เล่าเหตุการณ์จริง พร้อมติดแฮชแท็ก #เรื่องเล่าที่ห้องฉุกเฉิน เพื่อสะท้อนมุมมองเกี่ยวกับการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ และสร้างความเข้าใจต่อระบบการคัดแยกผู้ป่วยฉุกเฉินที่หลายคนมักเข้าใจผิด 

 

เปิดความจริงห้องฉุกเฉิน ลำดับรักษาคนไข้ ไม่ใช่มาก่อนรักษาก่อน

เรื่องเล่าที่ห้องฉุกเฉิน ห้องฉุกเฉินไม่มีคิว ไม่ใช่ว่าคุณมาก่อนแล้วจะได้รับการรักษาก่อน คนไข้ที่จะได้รับการรักษาก่อน คือคนที่หมอประเมินแล้วว่าวิกฤตกว่าฉุกเฉิน

คืนหนึ่งเมื่อ 4–5 ปีที่แล้ว ประมาณสองทุ่ม ขณะที่ป้านั่งบีบอาลัวอยู่ จู่ ๆ ก็รู้สึกแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก และมึนหัว ป้าหยุดมือแล้วไปหายาดม ยาอม ยาหม่องต่าง ๆ ลุกขึ้นมาก็มึน ๆ บ้านหมุนเบา นั่งพักสักพักก็รู้สึกดีขึ้นบ้าง ใจหนึ่งก็คิดว่าจะบีบอาลัวให้เสร็จก่อนแล้วค่อยไปหาหมอ แต่ระหว่างนั้นอาการก็ยังไม่ดีขึ้น เพราะขนมต้องส่งลูกค้า ป้าทนทำจนเสร็จ ประมาณเที่ยงคืนจึงขับรถไปหาหมอที่โรงพยาบาลรามคำแหง เพราะใกล้ที่สุด ตอนนั้นเลือกขับรถเองเพราะคิดว่าจะไปถึงเร็วที่สุด ไม่ได้คิดถึงความปลอดภัย

เปิดความจริงห้องฉุกเฉิน ลำดับรักษาคนไข้ ไม่ใช่มาก่อนรักษาก่อน

เมื่อถึงโรงพยาบาล แจ้งตรงเคาน์เตอร์ว่ามีอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก มึนหัว ตั้งแต่สองทุ่ม เจ้าหน้าที่นำรถมาให้ป้านั่งและเข็นไปห้องฉุกเฉิน นี่คือครั้งแรกที่มาห้องฉุกเฉิน พยาบาลและหมอทำงานประสานกันรวดเร็ว หลังซักประวัติ ก็เริ่มวัดความดัน ปรากฏว่าความดันทะลุ 200 ในครั้งแรก จากนั้นวัดไข้พบเกือบ 40 องศา วัดความดันอีกครั้งลดลงเหลือ 190 กว่า หมอถามว่ากินอะไรบ้าง ท้องอืดหรือมีกรดหรือไม่ #อาการเหมือนกรดไหลย้อน แต่หมอขอตรวจก่อน

หมอสั่งวัดคลื่นหัวใจ และเตรียมฉีดยาอะไรบางอย่าง เวลาน่าจะประมาณตีหนึ่งกว่า พยาบาลกำลังติดเครื่องวัดคลื่นหัวใจและเข็ม บอกว่า “คุณหมอสั่งให้ติดไว้เผื่อกรณีฉุกเฉินหลังจากฉีดยา ไม่ต้องตกใจนะคะ” ป้าพยักหน้า ตอนนั้นก็ยังมึน ๆ
 

จู่ ๆ มีเสียงคนเข้ามาในห้องฉุกเฉินดังขึ้น
“เค้าล้มครับ ผมไม่ใช่ญาติ เป็นคนข้างบ้าน แม่เค้าขอร้องให้ผมช่วยมาส่ง แม่กำลังตามมาครับ นี่กระเป๋าสตางค์เค้าครับ”

พยาบาลที่กำลังติดเข็มให้ป้าแจ้งว่า “คนไข้รอคุณหมอสักครู่นะคะ” แล้วเลื่อนผ้าม่านปิดเตียงของป้า ปล่อยไว้กับเครื่องมือที่ติดไว้แต่ยังไม่ได้ดำเนินการ

เสียงหมอและพยาบาลช่วยเหลือคนไข้เคสนั้นดังขึ้น คุณหมอสั่งให้รีบตามญาติ เพราะตอนนี้ คนไข้ไม่มีลมหายใจแล้ว เสียงปั๊มหัวใจดังประมาณ 20 กว่านาที ขณะนั้นป้าก็มีอาการแน่นหน้าอกขึ้นมาอีก พยาบาลเดินมาบอก “คุณหมอต้องขอโทษคนไข้ที่ให้รอ และขอให้รออีกสักครู่นะคะ” ป้าพยักหน้าเข้าใจ

  • ตอนนั้นป้ายังไม่รู้ว่าอะไรคือ เคสแดง เคสดำ แต่คิดว่า ตัวเองแค่หายใจไม่ออก แต่คนไข้เตียงนั้นไม่หายใจแล้ว ขอให้คุณหมอช่วยเค้าให้ได้นะคะ ป้าหลับตาฟังเสียงต่าง ๆ อย่างตั้งใจ

เวลาผ่านไปเกือบชั่วโมง ประมาณตีสองกว่า ญาติซึ่งเป็นแม่ของคนไข้ก็มาถึง เสียงการช่วยเหลือเงียบลง ได้ยินคุณหมอขานเวลาและให้เจ้าหน้าที่จัดเอกสารการเสียชีวิต รวมถึงคำว่า “เตรียมผ้าขาว” ทุกอย่างดำเนินไปอย่างเงียบ ๆ

คุณหมอกลับมาที่เตียงป้าพร้อมขอโทษที่ต้องไปดูแลคนไข้ก่อน เริ่มตรวจวัดหัวใจป้า ไม่มีความผิดปกติ ฉีดยาให้ และป้าพักอีกประมาณ 1 ชั่วโมง หายใจดีขึ้น ไข้ลดเล็กน้อย คุณหมอขอให้แอดมิทเพื่อพบหมอเฉพาะทางตอนเช้า แต่ป้าแจ้งว่า งานด่วนมากจริง ๆ ขอไปทำงานก่อนแล้วจะกลับมา คุณหมออนุญาต ตอนบ่ายป้ากลับไปพบหมอเฉพาะทางเกี่ยวกับ #โรคกรดไหลย้อน

ทุกคนที่ป่วยมักคิดว่าตัวเองฉุกเฉิน เข้าใจได้ แต่จะฉุกเฉินหรือไม่ หมอต้องเป็นผู้ประเมิน ขอให้ญาติเข้าใจตรงนี้ด้วย

เปิดความจริงห้องฉุกเฉิน ลำดับรักษาคนไข้ ไม่ใช่มาก่อนรักษาก่อน

ขอบคุณ ณัฎฐา ศรีสังข์