เกมแล้ว หนุ่มใหญ่โกง 10 ล้าน กบดานหนี 8 หมาย สุดท้ายไม่รอด

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ปิดเกมหนุ่มใหญ่สุดแสบ หลอกลงทุนคริปโตเสียหายร่วม 10 ล้าน กบดานหลบหนี 8 หมายจับ สุดท้ายไม่รอด

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมนำโดย ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา นายธนัชพงศ์ฯ อายุ 59 ปี ต้องหาตามหมายจับศาลอาญามีนบุรี ที่ 298/2568 ลงวันที่ 22 เมษายน 2568 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง” หลอกลงทุนคริปโตเสียหายร่วม 10 ล้าน กบดานหลบหนี 8 หมายจับ

 

เกมแล้ว หนุ่มใหญ่โกง 10 ล้าน กบดานหนี 8 หมาย สุดท้ายไม่รอด

เกมแล้ว หนุ่มใหญ่โกง 10 ล้าน กบดานหนี 8 หมาย สุดท้ายไม่รอด

 

พฤติการณ์ เนื่องด้วยในช่วงปี 2565-2567 กลุ่มผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนในหลายท้องที่ว่า นายธนัชพงศ์ฯ มีพฤติการณ์ในการแอบอ้างว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล ตามช่องทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ โดยอ้างว่ากำลังเปิดบริษัทด้านการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล และส่งภาพสำนักงานรวมทั้งที่อยู่บริษัท จากนั้นนัดผู้เสียหายไปดูสถานที่จริงเพื่อให้เกิดความไว้วางใจ โดยภายในสถานที่มีบุคคลอ้างตนเป็นผู้บริหารและมีภาพนายทหารติดอยู่บนผนัง อ้างว่าเป็นที่ปรึกษาของบริษัท ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อว่าบริษัทมีอยู่จริง

 

เกมแล้ว หนุ่มใหญ่โกง 10 ล้าน กบดานหนี 8 หมาย สุดท้ายไม่รอด

 

เมื่อผู้เสียหายไว้วางใจแล้ว ได้ชักชวนให้ผู้เสียหายโอนเงินระดมทุนลงทุนในทรัพย์สินดิจิทัลกับนายธนัชพงศ์ฯ โดยให้โอนเงินให้นายธนัชพงศ์ฯ ใช้เทรดคริปโตเคอร์เรนซี โดยเสนอผลตอบแทนสูงถึงร้อยละ 20-25 ต่อเดือน และยังมีการจ่ายปันผลให้กับผู้ร่วมระดมทุนทุก ๆ เดือน โดยมีการส่งสัญญาปลอมให้กับผู้เสียหายเพื่อให้ดูน่าเชื่อถือ โดยเมื่อผู้เสียหายโอนเงินไปร่วมระดมทุนแล้วก็ได้รับเงินปันผลคืนในเดือนแรก

เมื่อผู้เสียหายเชื่อว่าลงทุนแล้วได้ผลตอบแทนจริง ได้มีการเสนอ “โปรโมชั่นพิเศษ” ให้กับผู้เสียหาย โดยเป็นการลงทุนในเหรียญ “Baby Doge Zilla (BDZ)” ซึ่งเป็นเหรียญคริปโตเคอร์เรนซีใหม่ กำลังจะถูกนำเข้าสู่กระดานซื้อขายเหรียญสกุลเงินดิจิทัล (Exchange) ชั้นนำของต่างประเทศภายในไม่กี่สัปดาห์ ซึ่งเมื่อเหรียญถูกนำเข้าซื้อขายแล้ว ราคาจะพุ่งสูงขึ้นหลายเท่าอย่างแน่นอน

เกมแล้ว หนุ่มใหญ่โกง 10 ล้าน กบดานหนี 8 หมาย สุดท้ายไม่รอด

 

นายธนัชพงศ์ฯ มีการรับประกันว่าถ้าลงทุนในเหรียญดังกล่าว 100,000 บาท แล้วต่อมาเมื่อเหรียญถูกนำเข้าสู่กระดานซื้อขาย จะมีมูลค่าเพิ่มเป็น 10 ล้านบาท ภายในไม่กี่สัปดาห์ พร้อมทั้งอ้างว่ามีบุคคลผู้มีชื่อเสียงทางการเมืองและนักธุรกิจรายใหญ่คอยให้การสนับสนุน และยังรับประกันว่าจะซื้อคืนหากเกิดปัญหา ผู้เสียหายหลายรายจึงหลงเชื่อและโอนเงินและเหรียญดิจิทัล USDT ให้นายธนัชพงศ์ฯ เพื่อลงทุน แต่เมื่อถึงกำหนดการเข้ากระดานซื้อขายตามที่อ้าง กลับถูกบ่ายเบี่ยงและเลื่อนออกไปเรื่อย ๆ และสุดท้ายไม่สามารถขายหรือแลกเปลี่ยนได้จริง

 

เกมแล้ว หนุ่มใหญ่โกง 10 ล้าน กบดานหนี 8 หมาย สุดท้ายไม่รอด

 

ต่อมา พนักงานสอบสวน สน.สายไหม ได้ดำเนินคดีกับนายธนัชพงศ์ฯ และศาลอาญามีนบุรีมีคำพิพากษาลงโทษจำคุกเป็นเวลา 30 เดือน ภายหลังนายธนัชพงศ์ฯ ได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวเพื่อสู้คดี แต่เมื่อได้รับการอนุญาตแล้วกลับไม่มารายงานตัวต่อศาลตามกำหนดนัด เป็นเหตุให้ศาลออกหมายจับเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรม

จากการสืบสวนติดตามตัว พบว่านายธนัชพงศ์ฯ ได้หลบหนีออกจากภูมิลำเนาเดิมในพื้นที่ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ไปกบดานอยู่ที่บ้านเช่าแห่งหนึ่งใน อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย ลักษณะบ้านปิดประตูหน้าต่างมิดชิด เจ้าตัวเก็บตัวเงียบไม่สุงสิงกับผู้ใด อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการสืบสวนเฝ้าติดตามอย่างต่อเนื่อง กระทั่งในช่วงเช้ามืดวันที่ 25 ต.ค. 68 พบตัวนายธนัชพงศ์ฯ ออกจากบ้านหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงเข้าจับกุมตัวได้ และนำส่งศาลอาญามีนบุรีเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

เกมแล้ว หนุ่มใหญ่โกง 10 ล้าน กบดานหนี 8 หมาย สุดท้ายไม่รอด

 

จากการตรวจสอบประวัติ พบว่านายธนัชพงศ์ฯ เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับรวม 8 หมายในหลายข้อหา เช่น “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมโดยน่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน, ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันโฆษณาหรือประกาศแก่บุคคลทั่วไป หรือโดยการแพร่ข่าวด้วยวิธีอื่นใดในการกู้ยืมเงินหรือจะกู้ยืมเงินโดยจ่ายหรือโฆษณา ประกาศ หรือแพร่ข่าว หรือตกลงว่าจะจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนให้แก่ผู้ให้กู้ยืมเงินในอัตราที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่สถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมของสถาบันการเงินจะพึงจ่ายได้” โดยมีพฤติการณ์ที่คล้ายคลึงกับในคดีนี้ ซึ่งเป็นการระดมเงินทุนซื้อหุ้นและเหรียญคริปโตเคอร์เรนซี