- 02 พ.ย. 2568
5 สัญญาณ อาการแบบนี้ต้องระวัง มารู้จัก 5 อาการผิดปกติในชีวิตประจำวันที่คุณไม่ควรมองข้าม เพราะการรู้เร็วคือโอกาสรอดที่สูงที่สุด
อย่าปล่อยผ่าน “5 สัญญาณ” อาการแบบนี้ต้องระวัง โรคมะเร็งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ที่หลายคนอาจมองข้ามสัญญาณเตือนในระยะเริ่มต้น อย่าชะล่าใจ มารู้จัก 5 อาการผิดปกติในชีวิตประจำวันที่คุณไม่ควรมองข้าม เพราะการรู้เร็วคือโอกาสรอดที่สูงที่สุด
นพ.เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการกิจการด้านปฐมภูมิ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว "หมอเจด" เพื่อให้ความรู้และเตือนให้ประชาชนสังเกตอาการที่เป็นสัญญาณอันตรายของโรคมะเร็ง โดยระบุว่า "อย่าชะล่าใจ 5 สัญญาณเตือน เป็นมะเร็งไม่รู้ตัว..."
หลายคนมักคิดว่ามะเร็งจะต้องมีอาการปวดหรือคลำพบก้อนเนื้อขนาดใหญ่เท่านั้นถึงจะรู้ตัว แต่ความจริงแล้วมะเร็งส่วนใหญ่เติบโตแบบเงียบ ๆ จนกระทั่งลุกลามไปในหลายส่วนของร่างกายแล้ว
แท้จริงแล้ว ร่างกายของเรามักส่งสัญญาณเล็ก ๆ ออกมาเตือนก่อนเสมอ เพียงแต่เรามักละเลยไม่สังเกตอย่างจริงจัง นพ.เจษฎ์ จึงได้รวบรวม 5 สัญญาณเตือนภัยที่สำคัญดังนี้
1. คลำเจอก้อนหรือบวมเฉพาะจุด (ไม่เจ็บ)
หากคลำพบก้อนเนื้อหรืออาการบวมบริเวณ คอ รักแร้ หน้าอก หรือท้องน้อย และก้อนนั้นมีขนาดโตขึ้นเรื่อย ๆ แม้จะไม่รู้สึกเจ็บปวด อย่าคิดว่าเป็นเพียงซีสต์หรือก้อนไขมัน เพราะก้อนมะเร็งมักเติบโตอย่างเงียบ ๆ และไม่ทำให้เกิดอาการเจ็บในระยะแรก (มะเร็งไม่เคยเกิดขึ้นข้ามคืน)
2. เหนื่อยง่าย ทั้งที่ไม่ทำอะไร
หากคุณพักผ่อนอย่างเต็มที่แล้ว แต่ยังคงรู้สึกหมดแรง อ่อนเพลียเรื้อรัง หรือมีอาการใจเต้นแรงแม้ขึ้นบันไดเพียงไม่กี่ขั้น อาการนี้อาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าเซลล์ในร่างกายกำลังทำงานผิดปกติ หรือเซลล์มะเร็งกำลังแย่งสารอาหารและพลังงานที่จำเป็นไปใช้
3. น้ำหนักลดโดยไม่ตั้งใจ (ลดเกิน 5 กิโลกรัม)
นี่ไม่ใช่เรื่องดี หากน้ำหนักตัวของคุณลดลงเกิน 5 กิโลกรัม ภายในระยะเวลา 1-2 เดือน โดยที่คุณไม่ได้ควบคุมอาหารหรือออกกำลังกายเพิ่ม มะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งตับ มะเร็งตับอ่อน หรือมะเร็งลำไส้ จะดึงพลังงานจากร่างกายไปใช้ ทำให้ร่างกายผอมลงอย่างรวดเร็ว
4. เจ็บปวดเรื้อรังโดยไม่ทราบสาเหตุ
หากคุณมีอาการปวดเฉพาะจุดเรื้อรัง เช่น ปวดหลัง ปวดไหล่ หรือปวดท้อง แบบไม่มีเหตุผลชัดเจน และเมื่อกินยาแล้วอาการจะดีขึ้นเพียงชั่วคราวแล้วกลับมาเป็นอีกครั้ง ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ นี้ บางครั้งอาจไม่ใช่ปัญหาที่กล้ามเนื้อหรือข้อต่อ แต่อาจเป็นสัญญาณของเซลล์ผิดปกติที่กำลังก่อตัวในอวัยวะภายใน
5. แผลหายช้า หรือมีเลือดออกผิดปกติ
แผลเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ควรหายได้ในไม่กี่วัน แต่กลับมีลักษณะ นูน แดง หรือเป็นซ้ำ อยู่บ่อย ๆ หรือมีการพบเลือดออกในบริเวณที่ไม่ควรมี เช่น เลือดออกตามเหงือก มูก หรือมีเลือดปนในอุจจาระ/ปัสสาวะ นั่นหมายความว่าระบบซ่อมแซมเซลล์ของร่างกายเริ่มทำงานผิดปกติไปแล้ว
ข้อความเตือนจากคุณหมอ: "อย่ารอให้เคยชิน ควรไปตรวจทันทีครับ มันเริ่มจากเซลล์เล็ก ๆ ที่สะสมผิดปกติทีละนิด ใครที่มีอาการเหล่านี้อย่าปล่อยผ่าน รีบตรวจ! รู้เร็ว = รักษาง่าย อย่ารอให้เจอ 'ระยะที่เจ็บ' แล้วค่อยเริ่มดูแลครับ"






