รู้แล้วทำไม เขมรเกรงใจ "รองแม่ทัพภาคที่ 2" สุดจัดของจริง

พลตรี ณัฏฐ์ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาค 2 ประกาศชัด คนจริงคนจริงที่ฝั่งกัมพูชายังเกรงใจ เพราะรู้ว่าถ้าคุยแล้วใครไม่ทำตามข้อตกลง “มึงซวยแน่” และย้ำแผนทวงคืน ปราสาทตาควาย มีสองทางเลือก สู้ตายเสี่ยงทหารเสียชีวิตเป็นร้อย หรือใช้เทคโนโลยี Lidar สำรวจพิสูจน์ช้าแต่ปลอดภัย แต่เป้าหมายเดียวคือเอากลับคืนให้ได้

 

 

เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2568 พลตรี ณัฏฐ์ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยในการประชุมสัมมนาติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่หอประชุมคณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ โดยได้กล่าวในตอนหนึ่งถึงสาเหตุว่าทำไมถ้าเป็นตน คนเขมรจะเกรงใจ

"การพูดคุยกับกัมพูชา กรณีที่ตนพูดคุยกับคนเขมรและคนเขมรเกรงใจตน เป็นเพราะเขารู้ว่าหากคุยแล้วและไม่ทำตามข้อตกลง "มึงซวยแน่" ซึ่งอดีตตนเป็นผู้บัญชาการทหารพราน จัดมาไม่รู้กี่ศพ ตนไม่สน หากไม่เชื่อ "กูเอามึงนะ มึงลองดู" ซึ่งมันคิดว่าตนจะใจดีเหมือนคนเก่าๆที่ผ่านมา สุดท้ายก็ปะทะกัน ตายจริงแล้วเราก็ส่งศพจริง อาทิตย์เดียวเงียบกริ๊บ"

ส่วนที่รัฐบาลไปลงนามในเวทีต่างๆ เพื่อสันติภาพ โดยการหยุดยิง พลตรีณัฏฐ์ มองว่า มีบางคนตั้งคำถามว่าไปลงนามทำไม เมื่อลงแล้วได้เปรียบหรือเสียเปรียบ ส่วนตัวยืนยันว่า ไม่มีนายกฯ คนใดที่คิดไม่ดีกับประเทศ แต่ทำไมนายกฯไทย ถึงลงนาม ซึ่งเราไม่รู้ว่าข้อเท็จจริงเขาถูกกดดันอะไรมา เช่น ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โดนัลด์ ทรัมป์ อาจบีบเรื่องกำแพงภาษี หากไม่หยุดยิง 

 

พร้อมเผยถึงการทวงคืนปราสาทตาควายว่า 2 วิธีเอาคืนปราสาทตาควาย? ตีคืน  เจ็บตายเป็นร้อย หรือรอใช้ Lidar สำรวจ

พลตรี ณัฏฐ์ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาค 2 ตอบคำถามที่ว่า เราจะได้ปราสาทตาควายที่ จ.สุรินทร์ กลับคืนมาหรือไม่

"ตรงปราสาทตาควาย ภูมิประเทศเราเสียเปรียบ ถ้าเราจะไปตีเอาปราสาทตาควายคืน ทหารเรา ก็จะตายเป็นร้อย เราจะยอมไหม ตอนนี้เราเสียการควบคุม แต่เราไม่ได้สูญเสีย ซึ่งการจะเอาคืนมี 2 วิธี วิธีแรก คือ ตีคืนมาเลย ส่วนวิธีที่ 2 อาจจะช้าหน่อย เช่น การใช้เครื่องมือเทคโนโลยี Lidar เพื่อใช้ในการพิสูจน์พื้นที่ เช่น ใช้ในพื้นที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว เมื่อเสร็จสิ้น ก็มาใช้ทางนี้

โดยเราดำเนินการในส่วนที่เร่งด่วนก่อน ถือว่าไม่ได้สูญเสีย ผมมั่นใจว่า ถึงอย่างไรปราสาทตาควาย ก็กลับมาเป็นของเราอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นวิธีใดก็ตาม"