เปิดคำเตือน ความเชื่อโบราณ ลอยกระทงผิด เคราะห์จะกลับมาหาตัว

คืนวันเพ็ญเดือนสิบสอง นอกจากความงดงามของแสงเทียนที่ลอยระยิบระยับกลางสายน้ำ และโคมลอยที่ลอยสูงบนท้องฟ้า “วันลอยกระทง” ยังเป็นประเพณีเก่าแก่ที่แฝงไว้ด้วยความเชื่อเรื่องการสะเดาะเคราะห์ และการขอขมาต่อพระแม่คงคา ผู้คุ้มครองสายน้ำให้ชีวิตผู้คนหล่อเลี้ยงอย่างไม่ขาดสาย

 

 

แต่ในความศรัทธาและความงดงามนั้น คนโบราณยังได้ทิ้ง “ข้อห้าม” เอาไว้ เตือนให้ผู้ลอยกระทงปฏิบัติด้วยความเคารพและมีสติ เพราะหากทำผิดแม้เพียงเล็กน้อย “เคราะห์ร้าย” ที่ตั้งใจจะลอยออกไป อาจย้อนกลับมาหาตัวเองได้โดยไม่รู้ตัว

 

เพื่อให้ค่ำคืนแห่งความสุขและสิริมงคลเป็นไปอย่างราบรื่น มาดู 4 ข้อห้ามสำคัญตามคติโบราณ ที่ควรหลีกเลี่ยงในการลอยกระทง

1. ห้ามลอยกระทงแยกจากคนรัก

หากมาลอยกระทงพร้อมกันในฐานะคู่รัก ห้ามลอยกระทงแยกกันเด็ดขาด หรือให้กระทงลอยคนละทาง เพราะคนโบราณเชื่อว่าเป็นลางร้าย หมายถึงความรักจะจืดจางหรือแตกแยกกันในอนาคต คู่รักส่วนใหญ่จึงนิยมลอยกระทงร่วมกัน เพื่ออธิษฐานให้รักมั่นคง ยืนยาวไม่พรากจากกัน

 

2. ห้ามให้กระทงคว่ำหรือจมน้ำทันที

เมื่อปล่อยกระทงลงน้ำ ควรดูให้ลอยอย่างราบรื่น ไม่คว่ำ ไม่จม เพราะถือว่าเป็นสัญญาณของความโชคร้ายหรือเคราะห์ที่ยังไม่ถูกสะเดาะออกไป การได้เห็นกระทงลอยออกไปจนลับตาอย่างสวยงาม คือสัญลักษณ์ของการปล่อยทุกข์ปล่อยเคราะห์ได้สำเร็จ

 

3. ห้ามเก็บเหรียญในกระทง

การเก็บเหรียญหรือของในกระทงที่คนอื่นลอย ถือเป็นการ “เก็บเคราะห์คนอื่น” เข้ามาใส่ตัว อีกทั้งยังเสี่ยงต่ออุบัติเหตุจากการลงไปในน้ำ โบราณจึงเตือนให้หลีกเลี่ยง เพื่อไม่ให้การลอยกระทงกลายเป็นเรื่องเศร้าแทนที่จะเป็นสิริมงคล

 4. ห้ามใช้กระทงจากวัสดุไม่ย่อยสลาย

กระทงจากโฟมหรือพลาสติกแม้จะดูสวยงาม แต่ถือเป็นสิ่งต้องห้าม เพราะการขอขมาต่อพระแม่คงคา ต้องใช้สิ่งที่บริสุทธิ์และคืนสู่ธรรมชาติได้ หากใช้วัสดุที่ทำลายสิ่งแวดล้อม จะถือว่าเป็นการสร้างมลทินแก่สายน้ำ และพรที่อธิษฐานอาจไม่สมหวัง

 

 

ในค่ำคืนแห่งความศักดิ์สิทธิ์นี้ อย่าลืม “ลอยเคราะห์ด้วยใจที่สะอาด” เคารพต่อธรรมชาติและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แล้วแสงเทียนแห่งศรัทธาจะนำพาความสุข ความสว่าง และสิริมงคลมาสู่ชีวิตตลอดปี