- 06 พ.ย. 2568
คนไทยทุกคนต้องยื่นภาษีบุคคลธรรมดา แต่การ “ต้องเสีย” หรือ “ไม่ต้องเสีย” ขึ้นอยู่กับว่าเงินได้สุทธิของเราหลังค่าส่วนลดหย่อนเหลือกี่บาท
ปี 2570 คนไทยทุกคนต้อง “ยื่นภาษี” กับกรมสรรพากร
กรมสรรพากรเตรียมเดินหน้าระบบภาษีแบบใหม่ ตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2570 เป็นต้นไป โดยคนไทยทุกคนไม่ว่าจะประกอบอาชีพอะไร — พนักงานประจำ ฟรีแลนซ์ หรือค้าขายออนไลน์ — จะต้องเข้าสู่ระบบ “ยื่นภาษีบุคคลธรรมดา” กับกรมสรรพากรอย่างเป็นทางการ
อย่างไรก็ตาม การ “ยื่นภาษี” ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะ “ต้องเสียภาษี” เสมอไป เพราะขึ้นอยู่กับจำนวน “เงินได้สุทธิ” ซึ่งคำนวณจากสูตร
รายได้ – ค่าใช้จ่าย – ค่าลดหย่อน
หากคำนวณแล้วเงินได้สุทธิต่ำกว่าเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด ก็จะได้รับการยกเว้น ไม่ต้องเสียภาษี
อัตราภาษีบุคคลธรรมดาแบบขั้นบันได
สำหรับปีภาษี 2568 เป็นต้นมา อัตราภาษีบุคคลธรรมดาของไทยยังคงใช้ระบบ Progressive Tax หรือแบบขั้นบันได โดยคิดตามช่วงเงินได้สุทธิ ดังนี้
0–150,000 บาท → 0%
150,001–300,000 บาท → 5%
300,001–500,000 บาท → 10%
500,001–750,000 บาท → 15%
750,001–1,000,000 บาท → 20%
1,000,001–2,000,000 บาท → 25%
2,000,001–5,000,000 บาท → 30%
มากกว่า 5,000,000 บาท → 35%
ขั้นตอนคำนวณภาษีแบบเข้าใจง่าย
1️⃣ นำรายได้ทั้งปีมาหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อน
เพื่อหา “เงินได้สุทธิ”
2️⃣ นำเงินได้สุทธิไปเทียบกับฐานภาษี
เพื่อคำนวณจำนวนภาษีที่ต้องชำระ
ตัวอย่างการคำนวณภาษี
กรณีแรก ก่อนวางแผนภาษี
เงินเดือนทั้งปี 520,000 บาท → หักค่าใช้จ่าย 100,000 บาท
รายได้ขายของออนไลน์ 600,000 บาท → หักค่าใช้จ่ายเหมา 60% = 360,000 บาท
ค่าลดหย่อนส่วนตัว + ประกันสังคม = 69,000 บาท
เมื่อรวมกันแล้ว เงินได้สุทธิเท่ากับ 591,000 บาท
อยู่ในฐานภาษี 15% ต้องเสียภาษี 41,150 บาท
กรณีที่สอง หลังวางแผนภาษี
ซื้อกองทุน ThaiESG 168,000 บาท
ซื้อกองทุน RMF 100,000 บาท
ทำประกันชีวิต 100,000 บาท
รวมค่าลดหย่อนเพิ่ม 368,000 บาท
ทำให้เงินได้สุทธิลดเหลือ 223,000 บาท
อยู่ในฐานภาษี 5% ต้องเสียภาษีเพียง 3,650 บาท เท่านั้น
กล่าวได้ว่า การวางแผนภาษีอย่างเหมาะสมสามารถ ช่วยประหยัดภาษีได้กว่า 37,000 บาท
คำแนะนำเพิ่มเติม
การยื่นภาษีไม่จำเป็นต้องเสียเงินทุกคน หากรายได้สุทธิต่ำกว่าเกณฑ์หรือมีค่าลดหย่อนเพียงพอ ก็สามารถยื่นแบบเพื่อขอยกเว้นภาษีได้
นอกจากนี้ ผู้มีรายได้หลายช่องทาง เช่น เงินเดือน ขายของออนไลน์ หรือรับจ้างอิสระ ต้องนำรายได้ทั้งหมดมารวมคำนวณภาษีในปีเดียวกัน เพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมาย
อย่าลืมเก็บหลักฐานการซื้อกองทุน ประกันชีวิต หรือเอกสารค่าลดหย่อนอื่น ๆ ไว้ให้ครบ เพื่อใช้ในการยื่นภาษีประจำปีต่อกรมสรรพากร
สรุป
ปี 2570 ถือเป็นปีสำคัญของระบบภาษีไทย เพราะทุกคนจะต้อง “ยื่นภาษี” โดยไม่มีข้อยกเว้น แต่จะ “ต้องเสีย” หรือไม่ ขึ้นอยู่กับรายได้สุทธิหลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อน
การรู้จักวางแผนภาษีล่วงหน้า เช่น การซื้อกองทุนหรือประกันชีวิต เป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้คนไทยบริหารเงินได้อย่างชาญฉลาด และยังปฏิบัติตามกฎหมายได้ถูกต้องครบถ้วน
แหล่งที่มา
กรมสรรพากร
PWC Thailand Tax Summary






