ถึงว่า ยิงกันสนั่น กู้ภัย 2 มูลนิธิฯยอมพูดแล้ว เหตุผลทะเลาะรุนแรง

มีความคืบหน้ากรณีเหตุทะเลาะวิวาทอาสาสมัครมูลนิธิสยามรวมใจฯ ยิงใส่ อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู บริเวณปากซอยลาดพร้าว 122 แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ ซึ่งในเหตุการณ์มีผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 3 ราย ต่อมา พ.ต.อ.เจษฎา ยางนอก ผู้กำกับการ สน.วังทองหลาง เปิดเผยว่า ศาลอาญาถนนรัชดาภิเษกได้อนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหา 2 ราย คือ นายธนาคม หรือ “เสี่ยบอยไก่บิน” ผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิง และนายณรงศ์วิทย์ หรือ “บังแอน” ผู้เกี่ยวข้องในความขัดแย้ง

 

โดยทั้งคู่ถูกแจ้งข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุจำเป็น

 

ด้านรองหัวหน้าอาสาสมัคร เขต บก.น.เหนือ ของหนึ่งในมูลนิธิ ระบุว่า เหตุเริ่มจากการเข้าให้การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุ 2 รายในพื้นที่ ซึ่งเป็นเขตรับผิดชอบของมูลนิธิตน แต่เมื่อไปถึงพบว่าภรรยาของอาสาสมัครอีกมูลนิธิกำลังให้การช่วยเหลืออยู่ ทั้งสองฝ่ายจึงร่วมกันนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงโรงพยาบาล ฝ่ายตรงข้ามต้องการเป็นผู้ดำเนินการรับผิดชอบต่อ ทำให้เกิดการถกเถียงกัน ก่อนที่ลูกทีมของตนจะยอมเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา แต่สุดท้ายกลับเกิดการผลักอกและกระทบกระทั่ง จนมีการชกต่อย ก่อนคู่กรณีชักอาวุธปืนยิง ทำให้ลูกทีมของตนบาดเจ็บ 2 ราย และกระสุนเฉี่ยวถูกตนอีก 1 ราย โดยยืนยันว่าฝ่ายตนไม่ได้พกพาอาวุธและไม่มีเจตนาที่จะแย่งผู้ป่วย

ล่าสุด ผู้ต้องหาทั้งสองได้เดินทางเข้ามอบตัวแล้ว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ขออำนาจศาลอาญา ฝากขังในข้อหาร่วมกันพยายามฆ่า และร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร พร้อมคัดค้านการประกันตัว

ระหว่างพนักงานสอบสวนคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ขึ้นรถควบคุมผู้ต้องหา เพื่อนำไปฝากขัง ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และมูลเหตุจูงใจที่แท้จริงที่ก่อเหตุยิง ว่ามีปากเสียงกันเรื่องอะไร  เกิดจากการเดินกระแทกไหล่กันจริงหรือไม่ รวมถึงเป็นเจ้าหน้าที่มูลนิธิสยามรวมใจฯ จริงหรือไม่ เนื่องจากมีกระแสข่าวว่าผู้ก่อเหตุเป็นคนนอกมูลนิธิ แต่ผู้ต้องหาทั้งคู่ปิดปากเงียบ ปฏิเสธที่จะตอบคำถามใด ๆ กับสื่อมวลชน และก้มหน้าก้มตาเดินขึ้นรถผู้ต้องขังไป

 

ทั้งนี้ พ.ต.อ.เจษฎา ยางนอก ผู้กำกับการ สน.วังทองหลาง เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 2 คน เบื้องต้นให้การรับสารภาพ แต่มูลเหตุจูงใจไม่ได้เกิดจากการแย่งผู้บาดเจ็บ แต่มีการพูดจาไม่เข้าหูกัน ทำให้มีปากเสียงกันขึ้น เบื้องต้นตำรวจดำเนินคดีกับฝั่งอาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิสยามรวมใจฯ ก่อน เนื่องจากมีพยานหลักฐานเรื่องการยิงปืนและครอบครองอาวุธปืนชัดเจน ส่วนอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ที่มีปากเสียงชกต่อยกันก่อนที่จะเกิดเหตุยิงนั้น ยังไม่มีการแจ้งข้อหา เนื่องจากต้องรอสอบปากคำอย่างละเอียดก่อน