โทษหนัก ร้านค้าตั้งราคาใช้สิทธิแพงกว่าเงินสด มีโทษคุก 7 ปี

ฉวยโอกาสปรับราคา กรมการค้าภายในเตือน ร้านค้าโครงการรัฐ ตั้งราคาให้สิทธิ/บัตรสวัสดิการฯ แพงกว่าเงินสด เข้าข่าย "ฉวยโอกาส" โทษสูงสุดจำคุก 7 ปี ปรับ 1.4 แสนบาท

ฉวยโอกาสปรับราคา เจอโทษหนัก ร้านค้าตั้งราคาใช้สิทธิแพงกว่าเงินสด มีโทษคุก 7 ปี การจำหน่ายสินค้าโครงการ "คนละครึ่ง" และเงินสด กฎหมายและบทลงโทษ 

โทษหนัก ร้านค้าตั้งราคาใช้สิทธิแพงกว่าเงินสด มีโทษคุก 7 ปี

โทษหนัก ร้านค้าตั้งราคาใช้สิทธิแพงกว่าเงินสด มีโทษคุก 7 ปี เตือนร้านค้าที่ตั้งราคาสินค้ากับผู้ใช้สิทธิแพงกว่าเงินสด มีความผิดตามกฎหมาย การจำหน่ายสินค้าทั้งแบบชำระเงินสดและใช้สิทธิ์คนละครึ่ง ต้องมีราคาเดียวกัน

หากพบการกระทำผิดเข้าข่าย “ฉวยโอกาสจำหน่ายสินค้าเกินราคาควร” จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นอกจากนี้ ร้านค้าที่ไม่ติดป้ายแสดงราคาสินค้าให้ชัดเจนจะมีโทษปรับสูงสุด 10,000 บาท โดยผู้แจ้งเบาะแสสามารถแจ้งข้อมูลมาพร้อมหลักฐาน โดยขอให้ระบุสถานที่ตั้งของร้านค้า และพฤติการณ์การจำหน่ายสินค้า ที่เข้าข่ายความผิดตามกฎหมาย เพื่อกรมจะได้ส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบได้ในทันที

 

โทษหนัก ร้านค้าตั้งราคาใช้สิทธิแพงกว่าเงินสด มีโทษคุก 7 ปี

หลักเกณฑ์สำคัญ: ราคาต้องเท่ากัน

ราคาสินค้า: ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ "คนละครึ่ง" ต้องจำหน่ายสินค้าในราคาเดียวกัน ไม่ว่าจะชำระด้วยเงินสด หรือใช้สิทธิ์ตามโครงการฯ

ห้ามฉวยโอกาส: การปรับขึ้นราคาหรือจำหน่ายสินค้าในราคาที่สูงเกินกว่าความเป็นจริง เพื่อหวังผลประโยชน์จากโครงการ ถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย

 

บทลงโทษทางกฎหมาย

การกระทำที่เข้าข่าย “ฉวยโอกาสจำหน่ายสินค้าเกินราคาควร” จะถูกดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ โดยมีบทลงโทษที่รุนแรง คือ:

โทษจำคุก: ไม่เกิน 7 ปี

โทษปรับ: ไม่เกิน 140,000 บาท

หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

แจ้งเบาะแส

หากประชาชนพบเห็นการกระทำผิด สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ สายด่วน 1569 

สรุปโดยย่อ: ร้านค้าต้องขายราคาเดียว ไม่ว่าจะใช้สิทธิ์คนละครึ่งหรือเงินสด ถ้าขายเกินราคาเจอโทษหนัก


หน่วยงานที่ตรวจสอบ

  • กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์
  • ขอบคุณ : ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม