อยุธยายังจมบาดาล น้ำท่วม 11 อำเภอ กระทบกว่า 58,000 ครัวเรือน

วันที่ 10 พฤศจิกายน 2568 — สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดพระนครศรีอยุธยายังคงทวีความรุนแรงและขยายวงกว้างต่อเนื่อง หลังเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท เพิ่มการระบายน้ำลงท้ายเขื่อนในอัตรา 2,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำน้อย และลำคลองสาขาหลายสายเพิ่มสูงตลอดทั้งคืนจนถึงช่วงเช้าวันนี้ ส่งผลให้ชุมชนริมฝั่งแม่น้ำและพื้นที่ลุ่มหลายแห่งถูกน้ำท่วมฉับพลัน บางจุดระดับน้ำสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

 

ข้อมูลล่าสุดจากหน่วยงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยระบุว่า ขณะนี้มีพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมแล้ว 11 อำเภอ 143 ตำบล 945 หมู่บ้าน รวมประชาชนที่ได้รับผลกระทบมากถึง 58,477 ครัวเรือน โดยมีรายงานผู้เสียชีวิตแล้ว 14 ราย จากหลายพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมต่อเนื่องเป็นเวลานาน โดยเฉพาะใน อำเภอเสนา ผักไห่ บางบาล บางไทร พระนครศรีอยุธยา บางปะอิน บางปะหัน บางซ้าย บ้านแพรก ลาดบัวหลวง มหาราช

 

ในเขตอำเภอพระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำใน คลองคูเมือง ซึ่งเป็นเส้นทางรับน้ำจากทั้งแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำป่าสัก ได้ล้นตลิ่งเข้าท่วมชุมชนริมคลอง บ้านเรือนกว่า หลายร้อยหลังคาเรือน ในพื้นที่ตำบลท่าวาสุกรีและตำบลใกล้เคียงถูกน้ำเข้าท่วมสูง ชาวบ้านต้องเร่งยกของขึ้นที่สูง ทำสะพานไม้ชั่วคราว รวมถึงเสริมคันดินและกระสอบทรายเพื่อป้องกันน้ำไหลเข้าบ้านและถนนสายหลัก

 

ชาวบ้านหลายพื้นที่ระบุว่า ระดับน้ำปีนี้ขึ้นเร็วและสูงกว่าที่คาดไว้ ทำให้การสัญจรภายในชุมชนลำบาก มีรถเล็กจำนวนมากไม่สามารถใช้ถนนได้ บางเส้นทางต้องปิดชั่วคราวเนื่องจากน้ำท่วมถึงระดับหัวเข่า ขณะที่ร้านค้าและกิจการในเขตเศรษฐกิจเริ่มได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมชั้นล่างและการขนส่งชะงัก

 

เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นและอาสาสมัครยังคงลงพื้นที่แจกถุงยังชีพและติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติม ขณะเดียวกันมีการเฝ้าระวังจุดเสี่ยงริมตลิ่งที่อาจถูกน้ำกัดเซาะ รวมถึงพื้นที่เกาะเมืองอยุธยาซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ เพื่อป้องกันผลกระทบด้านเศรษฐกิจและมรดกทางประวัติศาสตร์ของจังหวัด

 

สถานการณ์ยังมีแนวโน้มผันผวน เนื่องจากปริมาณน้ำเหนือยังคงไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และต้องรอความชัดเจนจากกรมชลประทานว่าจะมีการปรับเพิ่มการระบายน้ำของเขื่อนหรือไม่ ทำให้ประชาชนในหลายพื้นที่ยังคงกังวลต่อสถานการณ์ในวันข้างหน้า

 

ที่มา/ภาพ @ต้น อยุธยา ข่าวสาร ฅนอยุธยา