- 10 พ.ย. 2568
อดีต เสธ.ทหาร! เตือนกองทัพยิ่งช้ายิ่งเสียหาย ควรตอบโต้ตั้งแต่ชั่วโมงแรกที่ทหารเหยียบระเบิด ถามกลับ หรือจะให้มีขาที่ 8,9,10
เมื่อวันที่ 10 พ.ย.68 พล.อ.มนัส จันดี อดีตเสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย ที่เคยกล่าวไว้ในสมัยที่ยังอยู่ในราชการ ช่วงไปตรวจราชการชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า “ถ้ามีขาที่ 7 เป็นความชอบธรรม ที่เราจะยิงกระสุนปืนใหญ่ ไปที่พิกัดที่คุณอยู่“ โดยความคืบหน้าล่าสุด พล.อ.มนัส จันดี ได้โพสต์เฟซบุ๊คส่วนตัว ระบุว่า
ขาที่7แล้ว หรือจะให้มีขาที่ 8,9,10....
- ควรตอบโต้ด้วยกำลังทหารตั้งแต่ชั่วโมงแรกที่เกิดเหตุ
- ยิ่งช้ากองทัพยิ่งเสียหาย
- หมดเวลาใช้ข้ออ้างใช้การประท้วง
- ถ้าไม่กล้าตัดสินใจใช้กำลัง ควรพิจารณาตนเอง ผมหมายถึงทุกตำแหน่งที่อยู่ในสายการบังคับบัญชากองทัพ
รูปที่แนบเป็นส่วนหนึ่งของไสลด์ทีผมเคยใช้บรรยายในที่ประชุมหน่วยความมั่นคงระดับรัฐบาล.....โปรดสังเกตใน end state
ด้าน ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ขอแสดงความเสียใจต่อความสูญเสียที่เกิดขึ้น และขอชี้แจงกรณีกำลังพลเหยียบกับระเบิดบริเวณพื้นที่อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ
เมื่อวันที่ 10 พ.ย. 2568 เวลา 09.36 น. กำลังพลที่ปฏิบัติราชการสนามของ กองร้อยทหารราบที่ 1611 ได้ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนตามเส้นทางที่ใช้ตามปกติ ห่างจากแนวชายแดนประมาณ 1 กิโลเมตร เพื่อเฝ้าระวังและรักษาความปลอดภัยของพื้นที่ รวมทั้งป้องกันการรุกล้ำอธิปไตย ขณะลาดตระเวนได้เกิดเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณทิศตะวันออกห้วยตามาเรีย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 2 นาย ได้แก่
1) จ่าสิบเอก เทิดศักดิ์ สมาพงษ์ สังกัด กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 16 ได้รับบาดเจ็บที่ข้อเท้าขวา
2) พลทหาร วชิระ พันธะนา สังกัด กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 16 ได้รับบาดเจ็บบริเวณหน้าอก
ในเบื้องต้นหน่วยได้เข้าควบคุมสถานการณ์ และนำตัวผู้บาดเจ็บส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี สำหรับการตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุ ปัจจุบันอยู่ระหว่างส่งเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญเข้าตรวจสอบ เพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับประเภท และที่มาของวัตถุระเบิด ทั้งนี้แม่ทัพภาคที่ 2 และผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นได้เดินทางเข้าควบคุมสถานการณ์และอำนวยการปฏิบัติให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย สำหรับความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป






