ถึงว่า ดื่มสุราก่อนลงมือ อดีตเพื่อนร่วมงามเล่านิสัย ลุงอายุ 71

จากกรณีที่เกิดเหตุสะเทือนขวัญในซอยรามคำแหง 18 เมื่อ นายสว่าง พรมมาอินทร์ อายุ 71 ปี ลงมือใช้มีดแทงและปาดคอ นางสาวนิตยา เวฬุกูล อายุ 63 ปี จนเสียชีวิต บริเวณหน้าร้านเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญตรงข้ามอาคารพักอาศัยในพื้นที่ โดยผู้ก่อเหตุเป็นอดีตเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสถานที่แห่งหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านของผู้เสียชีวิต

 

สาเหตุของความรุนแรงครั้งนี้คาดว่ามาจาก พฤติกรรมแสดงความหลงใหลเชิงชู้สาวที่ฝ่ายเดียว นายสว่างเคยพยายามเข้ามาตีสนิทและรุกล้ำความเป็นส่วนตัวของผู้เสียชีวิต จนฝ่ายหญิงรู้สึกอึดอัดและไม่ปลอดภัย จึงเดินทางไปแจ้งความ และในเวลาต่อมา นายสว่างก็ถูกให้ออกจากงาน ซึ่งเชื่อว่าเป็นชนวนสำคัญที่ทำให้ผู้ก่อเหตุเกิดความโกรธเคืองสะสม

 

เมื่อทีมข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบบ้านของผู้เสียชีวิต พบว่าบ้านถูกปิดเงียบ ขณะที่จุดเกิดเหตุยังปรากฏคราบเลือดบนพื้นและประตูเหล็ก โดยชาวบ้านให้ข้อมูลว่า ผู้เสียชีวิตเป็นคนอัธยาศัยดี ชอบช่วยเหลือผู้อื่น และเคยซื้อของฝากให้ทั้งเพื่อนบ้านรวมถึงผู้ก่อเหตุ ซึ่งอาจทำให้นายสว่างเข้าใจผิดว่าผู้เสียชีวิตมีใจตอบกลับ
 

 

ด้านแม่ค้าร้านกาแฟในละแวกดังกล่าวเล่าว่า นายสว่างเคยแสดงท่าทีคล้ายคุกคามผู้เสียชีวิตมาก่อน และเมื่อฝ่ายหญิงแจ้งตำรวจและเล่าความจริงให้ญาติทราบ จึงนำไปสู่การปลดออกจากงาน ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าเป็นจุดที่ทำให้ผู้ก่อเหตุเกิดความโกรธสะสมจนระเบิดเป็นความรุนแรง

 

ขณะที่เพื่อนร่วมงานเก่าของนายสว่างเผยว่า รู้จักกันมานานกว่า 10 ปี และปกตินายสว่างเป็นคนเงียบ ไม่ค่อยแสดงอารมณ์รุนแรง แต่มักมีบุคลิกเก็บกด ไม่ค่อยพูดกับใคร และมีนิสัยคิดเรื่องต่าง ๆ อยู่กับตัวเอง ไม่เปิดใจให้คนอื่นรับรู้

 

วันเกิดเหตุคาดว่าผู้ก่อเหตุรู้ช่วงเวลาที่ผู้เสียชีวิตมักออกมาทิ้งขยะในช่วงประมาณ 23:00 น. จึงรอดักทำร้าย ก่อนหลบหนีไปที่พักในซอยรามคำแหง 68 แต่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมได้ภายใน 1 ชั่วโมง

 

นายสว่างรับสารภาพว่า แอบชอบผู้เสียชีวิต แต่ไม่พอใจที่ถูกปฏิเสธ และยิ่งโกรธแค้นเมื่อถูกให้ออกจากงาน อีกทั้งก่อนลงมือได้ดื่มสุรา

 

ตำรวจแจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และเตรียมนำตัวส่งฝากขังต่อไป