- 14 พ.ย. 2568
สูตร CARE ไม่กระทบสิทธิ ม.33 หลังการรับฟังข้อเสนอจากสมาพันธ์สมานฉันท์แรงงานไทย สำนักงานประกันสังคม (สปส.) ได้ออกมายืนยันอย่างหนักแน่นถึงความโปร่งใสและผลประโยชน์ที่ผู้ประกันตนจะได้รับจาก "สูตร CARE"
สูตร CARE ไม่กระทบสิทธิ ม.33 หลังการรับฟังข้อเสนอจากสมาพันธ์สมานฉันท์แรงงานไทย สำนักงานประกันสังคม (สปส.) ได้ออกมายืนยันอย่างหนักแน่นถึงความโปร่งใสและผลประโยชน์ที่ผู้ประกันตนจะได้รับจาก "สูตร CARE" ซึ่งเป็นแนวทางปฏิรูปการจ่ายเงินสมทบและสิทธิประโยชน์ใหม่
สปส. ชี้ชัดว่า การปรับปรุงครั้งนี้จะไม่กระทบสิทธิของ ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 เดิมอย่างแน่นอน แต่กลับเป็นผลดีที่ทำให้ผู้ประกันตน ได้รับเงินบำนาญเพิ่มขึ้น และที่สำคัญคือ สามารถคาดการณ์ยอดเงินบำนาญที่จะได้รับในอนาคตได้อย่างชัดเจน เพื่อสร้างความมั่นคงในชีวิตหลังเกษียณให้มากยิ่งขึ้น
ประกันสังคม รับฟังข้อเสนอ สมาพันธ์สมานฉันท์แรงงานไทย ยืนยัน “สูตร CARE” ไม่กระทบสิทธิผู้ประกันตน ม.33 ชี้ชัดได้รับบำนาญมากขึ้น-คาดการณ์ได้แน่นอน
วันที่ 13 พ.ย.2568 น.ส.กาญจนา พูลแก้ว ผู้ตรวจราชการกระทรวงรักษาราชการแทนเลขาธิการ สำนักงานประกันสังคม (สปส.) มอบหมายให้ น.ส.อุษา ธีระวิทยเลิศ ผู้ตรวจราชการกรมสำนักงานประกันสังคม รับมอบหนังสือแสดงความคิดเห็นการปรับเปลี่ยนสูตรบำนาญชราภาพเป็นสูตร CARE ของสมาพันธ์สมานฉันท์แรงงานไทย (สสรท.)
เพื่อให้ชะลอการประกาศใช้การคำนวณ “สูตรใหม่ CARE” ซึ่งมีข้อกังวลอาจส่งผลต่อสิทธิประโยชน์ของผู้ประกันตนตามมาตรา 33 แห่งพระราชบัญญัติประกันสังคม เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
สปส. ขอขอบคุณ สสรท. ที่ยืนหยัดผลักดันการปฏิรูประบบประกันสังคมและเป็นกระบอกเสียงให้ผู้ประกันตนมาอย่างยาวนาน เราเห็นเจตนารมณ์ตรงกัน : “บำนาญที่เพียงพอ ยุติธรรม คาดการณ์ได้ และยั่งยืน” สำหรับผู้ประกันตนมาตรา 33 ทั้งระบบ สปส.เลือกใช้สูตรบำนาญเป็น CARE (Career Average Revalued Earnings)
เป็นตามหลักสากลภายใต้คำแนะนำขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) กับปรับปรุงบำนาญชราภาพให้เพียงพอและเป็นธรรมมากขึ้นต่อผู้ประกันตนทั้งระบบ และไม่ได้ทำให้ผู้ประกันตนมาตรา 33 เสียประโยชน์ แต่จะช่วยให้ผู้ประกันตนมาตรา 33 มีความมั่นใจ ได้มากขึ้นว่าเมื่อเกษียณจะได้บำนาญที่เพียงพอตามที่คาดหวังมากขึ้น
สำหรับการนำแนวคิด สูตร CARE มาประยุกต์ใช้จะมีประโยชน์จับต้องได้ดังนี้
คาดการณ์ได้–เป็นธรรมกับการทำงานทั้งอายุงาน โดยนำค่าจ้างที่ส่งสมทบทุกเดือนมาปรับเป็นค่าเงินปัจจุบันก่อนเฉลี่ย ลดการ “เสี่ยงดวง” กับ 5 ปี สุดท้ายที่ไม่แน่นอน
เพิ่มอัตราบำนาญตาม “ทุกเดือน” ที่ส่งสมทบ จากเดิมคิดเพิ่มเป็นรายปี เปลี่ยนเป็น เดือนละ 0.125% ทำให้คนที่ส่งสมทบเกือบครบปีไม่เสียสิทธิ์
ผู้รับบำนาญปัจจุบันได้ประโยชน์ทันที—ไม่มีใครถูกลดบำนาญ คำนวณใหม่ตาม CARE ถ้าได้มากกว่า ปรับเพิ่มอัตโนมัติตั้งแต่เดือนถัดไป (เฉลี่ยเพิ่มจาก 2,949 → 3,240 บาท/เดือน) และถ้าได้น้อยกว่ายังคงบำนาญเท่าเดิม
กลุ่มที่จะเกษียณใน 10 ปีหน้า ได้เฉลี่ยสูงขึ้น บำนาญเฉลี่ยเพิ่มจาก 4,095 → 4,428 บาท/เดือน และเมื่อรวมกลไก “ส่วนชดเชย” ในช่วงเปลี่ยนผ่าน เฉลี่ยเพิ่มเป็น 4,529 บาท/เดือน
เพดานค่าจ้างขยับ–คุ้มครองสูงขึ้นและทันค่าจ้างทีเปลี่ยนไปเริ่มปรับเพดานค่าจ้าง 15,000 → 17,500 บาทในปี 2569 และทยอยปรับเพิ่มตามค่าเงิน เพื่อให้สิทธิสะท้อนรายได้จริงของแรงงานรุ่นใหม่และวัยกลางคนอย่างต่อเนื่อง
โดยสรุปการปรับบำนาญเป็นสูตร CARE จะทำให้ผู้ประกันตนมาตรา 33 ได้รับบำนาญเพียงพอมากขึ้น และคาดการณ์ได้แน่นอนมากขึ้น เพื่อเป็นหลักประกันในยามเกษียณที่มั่นคง พร้อมมีการกำหนดกติกาช่วงเปลี่ยนผ่านเพื่อรักษาสิทธิตามที่ใกล้เกษียณอาจคาดหวังไว้
ทั้งนี้ สปส.ขอขอบคุณในความปรารถนาดีของสสรท. ในการร่วมขับเคลื่อนบำนาญให้ดีขึ้น และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะร่วมเดินหน้าผลักดันสูตรบำนาญ CARE และสื่อสารให้ผู้ประกันตนเข้าใจอย่างทั่วถึง






