หนุ่มร้องน้องชายคบ LGBTQ+ จนติดเชื้อ HIV ล่าสุดเหมือนคดีจะพลิก?

หนุ่มร้องเพจดัง น้องชายคบหนุ่ม LGBTQ+ สุดท้ายติดเชื้อ HIV แฉวีรกรรมแพร่เชื้อให้คู่นอน ล่าสุดเหมือนคดีจะพลิก?

จากกรณีที่เกิดเรื่องร้องเรียนที่สร้างความสับสนและขัดแย้งในพื้นที่อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี หลังเพจ “อาร์ต ผดุงเกียรติ” ได้รับการติดต่อจากญาติผู้เสียหายว่า มีกลุ่มชาย LGBTQ+ รายหนึ่งติดเชื้อ HIV และถูกกล่าวหาว่ามีพฤติกรรมแพร่เชื้อ โดยไม่ป้องกัน จนกลายเป็นประเด็นที่โลกออนไลน์ต่างวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในตอนนี้ 

 

หนุ่มร้องน้องชายคบ LGBTQ+ จนติดเชื้อ HIV ล่าสุดเหมือนคดีจะพลิก?

โดยญาติของผู้เสียหายเปิดเผยว่า น้องชายของตน ซึ่งเป็น LGBTQ+ เช่นกัน เคยมีความสัมพันธ์กับชายวัย 29 ปีรายนี้อยู่ระยะหนึ่ง กระทั่งเริ่มมีพฤติกรรมผิดปกติจนน่าสงสัย จึงตรวจค้นกระเป๋าและพบบุตรยาต้านไวรัส HIV ทำให้ทราบว่าอีกฝ่ายเป็นผู้ติดเชื้อ


ต่อมาผู้เสียหายได้เข้าตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล และพบว่าติดเชื้อ HIV แล้วเช่นกัน ปัจจุบันต้องรับประทานยาต้านไวรัสอย่างต่อเนื่อง แม้จะยุติความสัมพันธ์ไปแล้ว แต่ยังคงถูกอีกฝ่ายโทรมาข่มขู่เป็นประจำ


อีกทั้งญาติยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ชายวัย 29 ปีรายนี้มีประวัติการใช้ยาเสพติดมาตั้งแต่เรียน และเคยเข้ากลุ่มผู้เสพยาไอซ์ ทำให้มีความต้องการทางเพศสูงจนมีเพศสัมพันธ์กับหลายคน ทั้งแบบเดี่ยวและแบบกลุ่ม โดยไม่ป้องกัน อีกทั้งยังมีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น แลกเพศสัมพันธ์กับยา เปิดแชตหาคู่นอนไปทั่ว และหากใครมียาไอซ์ก็จะเสนอมีเพศสัมพันธ์ทันที รวมถึงมีการโพสต์ในแอปต่าง ๆ และขายกางเกงในที่มีคราบน้ำอสุจิ ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อผู้อื่น


ญาติผู้เสียหายระบุว่า ที่ต้องออกมาร้องสื่อ เพราะต้องการทราบว่าสามารถดำเนินคดีใดได้บ้าง เนื่องจากเห็นว่าพฤติกรรมดังกล่าวเป็นภัยต่อสังคมและต่อผู้ที่อาจตกเป็นเหยื่อรายอื่น

หนุ่มร้องน้องชายคบ LGBTQ+ จนติดเชื้อ HIV ล่าสุดเหมือนคดีจะพลิก?

เกี่ยวกับเรื่องนี้ล่าสุดหนุ่มอายุ 29 ปี ผู้ถูกกล่าวหาได้ออกมาชี้แจง พร้อมยืนยันว่า “ขอเปิดหน้าสู้” กับทุกข้อกล่าวอ้าง โดยยอมรับว่าตนติดเชื้อ HIV มาตั้งแต่ปี 2564 และรับประทานยาต้านต่อเนื่อง ส่วนเรื่องยาเสพติด ระบุว่าเลิกมาประมาณ 1 ปีแล้ว พร้อมยืนยันว่า บุคคลที่บอกว่าเป็นพี่ชาย และให้สัมภาษณ์กับสื่อก่อนหน้านี้เป็นผู้ร้องเรียนตัวจริง

 

เขาเล่าต่อว่าเขาเริ่มคบกับคู่กรณีตั้งแต่เดือนธันวาคม ปี 2567 ก่อนเลิกรากันในเดือนกันยายนที่ผ่านมา สาเหตุเพราะอดีตคนรักมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และอาจพัวพันกับการจำหน่าย ซึ่งเขาเคยขอร้องให้อีกฝ่ายเลิกยุ่งเกี่ยว แต่ไม่สำเร็จ อีกทั้งยังบอกว่าเข็มฉีดยาที่ถูกนำมาโพสต์กล่าวหาว่าเป็นของตน จริง ๆ แล้วเป็นภาพที่บ้านของคู่กรณีเอง

 

เขายังระบุว่า คู่กรณีพยายามติดต่อกลับมาเรื่อย ๆ แต่ตนไม่ขอยุ่งเกี่ยวอีก พร้อมปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นคนทำให้คู่กรณีติดเชื้อ HIV เพราะได้รับข้อมูลจากแฟนเก่าของคู่กรณีว่า อีกฝ่ายติดเชื้อมาก่อนแล้ว และไม่เคยเข้ารับยาอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ประโยค “กูติด มึงก็ติดกับกู” เขายืนยันว่า “ไม่เคยพูด” และย้ำว่าตนเป็นคนมีวินัยต่อการรักษาและไม่ทำพฤติกรรมเสี่ยงดังกล่าว

 

เขากล่าวอีกว่า ข่าวที่ออกมาส่งผลเสียต่อชื่อเสียงของตนอย่างมาก เพราะคู่กรณีเคยโพสต์ประจานเขาหลายครั้งแล้ว ก่อนมีประเด็นข่าว โดยภาพล่อแหลมที่ถูกเผยแพร่ เขายอมรับว่าเป็นภาพส่วนตัวสมัยเรียนมหาวิทยาลัยและถูกขุดขึ้นมาเพื่อทำให้เขาเสียหาย แต่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการกระทำใดต่อผู้อื่น

 

อย่างไรก็ตาม เขายืนยันว่า เขาต้องการดำเนินคดีกับคู่กรณีให้ถึงที่สุด หลังพยายามร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรมและผู้ใหญ่บ้านแล้วแต่ไม่คืบหน้า พร้อมระบุว่าได้ติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายครั้ง และพร้อมให้ข้อมูลทุกอย่างเพื่อพิสูจน์ความจริงและขอความเป็นธรรมให้กับตัวเอง

หนุ่มร้องน้องชายคบ LGBTQ+ จนติดเชื้อ HIV ล่าสุดเหมือนคดีจะพลิก?
ภาพจาก อาร์ต ผดุงเกียรติ