- 18 พ.ย. 2568
“จาตุรนต์ ฉายแสง” รับตำแหน่งประธานยุทธศาสตร์เพื่อไทย เดินหน้าวางเกมยาว–เร่งเครื่องรับศึกเลือกตั้งที่ใกล้เข้ามา
นายจาตุรนต์ ฉายแสง ได้ออกมาโพสต์ข้อความล่าสุด ผ่านเฟซบุ๊ก Chaturon Chaisang ระบุว่า
ผมยินดีที่ได้รับมอบหมายให้เป็นประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อไทย ความจริงผมเคยเป็นกรรมการยุทธศาสตร์ของพรรคเพื่อไทยไม่น้อยกว่า 15 ปี แต่ว่าไม่เคยมีครั้งไหนที่มีการตั้งโดยข้อบังคับอย่างเป็นทางการ และไม่น่ามีครั้งไหนที่มีการรวมบุคลากรที่ครบทุกส่วน เพราะฉะนั้นคณะกรรมการยุทธศาสตร์นี้จะมีบทบาททำงานตามที่คณะกรรมการบริหารได้มอบหมายด้วยความตั้งใจ
ปกติยุทธศาสตร์พรรคการเมืองต้องเป็นเรื่องระยะยาว แต่ว่าเราตั้งคณะนี้ขึ้นมาในช่วงเวลาที่รู้กันอยู่ว่าใกล้จะถึงวันเลือกตั้งในอีกไม่นานนัก เพราะฉะนั้นก็จะต้องทำงานผสมผสานระหว่างการวางยุทธศาสตร์ของพรรคที่เป็นระยะยาว และการวางยุทธศาสตร์เพื่อที่จะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง
ข้อดีของการตั้งคณะกรรมการนี้คือกำหนดชัดเจนว่า จะเป็นการสื่อสารโดยตรงกับคณะกรรมการบริหารพรรค โดยท่านเลขาพรรคก็มาเป็นเลขานุการของคณะ หัวหน้าพรรคก็มาเป็นที่ปรึกษา เพราะฉะนั้นคณะนี้จะไม่ใช่กองบัญชาการใหม่แทนหัวหน้าพรรคหรือเลขาธิการพรรค แต่เราจะช่วยกันสร้างและกำหนดยุทธศาสตร์ รวมทั้งเสนอแนะต่อคณะกรรมการบริหาร และเสนอแนวทางการเมืองต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งต่อไปจะตอบสนองต่อศูนย์อำนวยการเลือกตั้งและผู้สมัครรับเลือกตั้ง
สิ่งที่คณะนี้คุยกันไปแล้วคือ เราต้องทำงานแข่งกับเวลา ต้องรีบมีการประเมินทิศทางแนวทางการทำงานของพรรคในด้านต่าง ๆ รวมทั้งเรื่องของนโยบาย ต่อไปต้องดูเรื่องการเตรียมการเลือกตั้ง แต่ว่าจุดสำคัญคือ เราจะนำข้อดีจุดแข็งของพรรคเพื่อไทยกลับมาให้มีความชัดเจนขึ้นได้อย่างไร ที่สำคัญคือการเป็นพรรคที่มีบทบาทในการสร้างประชาธิปไตย และเป็นพรรคที่มีบทบาทในการสร้างนโยบายและนำนโยบายมาสู่การปฏิบัติ
ซึ่งในครั้งนี้มีข้อดีคือ เรามีบุคลากรที่หลากหลายมากมาร่วม ไม่ใช่ผู้ที่เคยทำงานมานานเท่านั้น แต่ว่ายังมีนักการเมืองรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จในการทำงานในสภา และมีบุคลากรทีมงานทางวิชาการอีกเป็นจำนวนมากที่จะร่วมกันทำงาน
เราจะเริ่มจากการประเมิน ซึ่งการประเมินบทบาทการทำงานในด้านต่าง ๆ นี้ จะใช้วิธีรวบรวมข้อมูล รับฟังความคิดเห็น แล้วก็ตัดสินใจโดยอาศัยพื้นฐานของข้อมูลข้อเท็จจริง นี่เป็นความเห็นร่วมกันที่หารือกันเมื่อวานในการประชุม เพราะฉะนั้นเมื่ออาศัยข้อมูลข้อเท็จจริง ซึ่งท่านเลขาและกองเลขาจะช่วยป้อนข้อมูลให้ เราก็จะรีบกำหนดแนวทางทางการเมืองของพรรค ว่าบทบาทของพรรคจะอยู่ตรงไหน
มีโพลบางแห่งออกมาว่าพรรคตามหลังพรรคอื่น ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ถ้าเป็นรุ่นผม รุ่นท่านประเสริฐหรือท่านชูศักดิ์ เราจะไม่คุ้นสภาพนี้ เพราะว่าเราอยู่กับการทำโพลของพรรคที่เดินเข้าสู่การเลือกตั้งด้วยโพลที่พรรคเพื่อไทยนำมาตลอด เพราะฉะนั้นต้องรีบค้นหาว่าปัญหาอยู่ตรงไหน และต้องปรับปรุงอย่างไร
ซึ่งเราเชื่อว่าความสามารถ ความรู้ ประสบการณ์ และความตั้งใจ รวมทั้งการใช้ระบบที่เป็นวิทยาศาสตร์อย่างมีประสิทธิภาพ จะทำให้พรรคเราขยับขึ้นมาสู่จุดที่เคยเป็น ก็คืออยู่ในจุดที่เป็นพรรคที่เป็นผู้เข้าแข่งขันที่สำคัญได้โดยเร็ว
แต่ที่สำคัญกว่านั้น ผมมีความเชื่อว่าเมื่อคณะกรรมการบริหารพรรคมีความตั้งใจ ผู้ที่อยู่กับพรรคมานานก็ดี นักการเมืองรุ่นใหม่ คนรุ่นใหม่ก็ดี มีความตั้งใจจริงที่จะช่วยกันให้พรรคประสบความสำเร็จในการเลือกตั้ง และประสบความสำเร็จในการแก้ปัญหาประเทศ เราก็เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยจะมาอยู่ในจุดที่เป็นกำลังสำคัญในการสร้างประชาธิปไตยของประเทศ และเป็นกำลังสำคัญในการคิดและสร้างนโยบาย เพื่อตอบรับสถานการณ์ที่มีความพิเศษ คือมีประเด็นปัญหา มีโจทย์ที่ยากกว่าหลาย ๆ การเลือกตั้งที่ผ่านมา ภาระที่ยากเหล่านั้นไม่เกินความสามารถของพรรคเพื่อไทย
ทั้งนี่คณะกรรมการยุทธศาสตร์จะไม่เน้นการเสนอต่อสาธารณะ แต่เน้นการเสนอต่อผู้บริหาร เพราะต้องการส่งเสริมให้ผู้บริหารพรรค เลขาธิการพรรค และกรรมการบริหารพรรคมีบทบาทอย่างเต็มที่ในการที่จะนำพาพรรคไปข้างหน้าครับ






