ลุงแท็กซี่น่วม หวังดีเตือนรถขายผลไม้ขวางทาง โดนยำสลบ

จากกรณีที่ ลุงศักดา คนขับแท็กซี่พลเมืองดี วัย 56 ปี ที่ถูกรถกระบะเร่ขายผลไม้ทำร้ายร่างกายจนสลบกลางเมืองกรุง ท่ามกลางสายตานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและคนไทยจำนวนมาก สาเหตุเพราะรถกระบะเร่ขายผลไม้จอดบนถนนกีดขวางการจราจรคนอื่นทำให้รถติด 

 

ลุงศักดา แท็กซี่พลเมืองดีขับรถผ่านมาจึงลดกระจกลงแจ้งให้รถเร่ขายผลไม้ช่วยจอดให้ชิดขอบทาง หรือไปจอดตรงจุดอื่น เนื่องจากรถติด ทำให้รถเร่ขายผลไม้ไม่พอใจ เดินมาไล่ทำร้ายลุงศักดาจนสลบ ได้รับบาดเจ็บ โดยหลังเยี่ยมดูอาการลุงศักดาแล้ว ก็พาลุงไปดูจุดเกิดเหตุก่อนเข้าแจ้งความดำเนินคดี ตามตัวผู้ก่อเหตุมาลงโทษ

โดยเบื้องต้น จากการสอบถามลุงศักดา ได้เล่าเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุให้ฟังว่า "เมื่อวานนี้ช่วงประมาณหนึ่งทุ่มเศษ ขณะที่กำลังขับรถไปตามถนนสุทธิสาร ถนนสุทธิสาร มุ่งหน้าไปแยกสุทธิสาร ซึ่งเป็นถนนสองเลนสวน โดยบริเวณจุดเกิดเหตุใกล้ซอยสุดประเสริฐ 2 ขณะที่นายศักดาขับรถอยู่ พบว่ารถคู่กรณี ซึ่งเป็นรถขายผลไม้ ได้จอดบนถนนเทียบทางเท้าทำให้รถคันหลังติดขัด ตนจึงได้ลดกระจกบอกคู่กรณีว่าให้จอดหลบข้างทางหน่อย เพราะทำรถติด ก่อนจะขับผ่านไป 
 

 

ครู่ต่อมาปรากฏว่ารถของคู่กรณีขับมาปาดหน้ารถตนและจอด พร้อมกับตรงเข้ามาจะทำร้าย ตนจึงวิ่งลงจากรถเพื่อจะหนีไปหาน้องชายที่อยู่ใกล้ ๆ ทำให้ในจังหวะนั้น ทางคู่กรณีไล่ตามมาเพื่อทุบตีทำร้ายจนสลบ ตามภาพในคลิปที่พลเมืองดีถ่ายคลิปไว้ และตนตื่นมาอีกครั้งก็พบว่าอยู่โรงพยาบาลแล้ว ตอนนี้อาการบาดเจ็บมีศีรษะแตก และมีบาดแผลบริเวณข้อศอก มีรอยฟกช้ำ และยังมีอาการมึนงง ปวดตามร่างกายอยู่"

 

 

ด้านนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ได้ประสาน พ.ต.อ.พรเทพ เฉลิมเกียรติ ผกก.สน.สุทธิสาร เพื่อนำผู้บาดเจ็บเข้าแจ้งความ เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย ทั้งนี้มองว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำที่รุนแรง และภัยสังคม อย่างไรก็ตาม ในกรณีนี้ เบื้องต้น ทาง ผกก.สน.สุทธิสาร ได้เร่งรัดตรวจสอบ ทำให้ทราบตัวคู่กรณีแล้ว ได้ให้ฝ่ายสืบสวนติดตามตัวเพื่อเข้ามาสอบปากคำเพิ่มเติมวันนี้