- 19 พ.ย. 2568
ตำรวจไซเบอร์รวบหนุ่มรัสเซีย แก๊งสแกมเมอร์หลอกเหยื่อลงทุนสูญกว่า 11 ล้าน สืบเนื่องจากเมื่อช่วงกลางเดือนสิงหาคม 2568 ผู้เสียหายเป็นหญิงวัย 70 ปี
เมื่อวันที่ 19 พ.ย. พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.สอท. พร้อมด้วย พล.ต.ท.นราเดข ทิพย์รักษ์ ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. ช่วยราชการ บช.สอท. สั่งการให้ พล.ต.ต.ศรายุทธ จุณณวัตต์ ผบก.สอท.2 พ.ต.อ.ปกรณ์กิตติ์ ธนวรินทร์กุล ผกก.3 บก.สอท.2 พ.ต.ท.คำตัน ทำดี รอง ผกก.3 บก.สอท.2 พ.ต.ท.สมิทธิกิจ อินทรหอม รอง ผกก.สอบสวน กก.3 บก.สอท2 พ.ต.ท.ศราวุธ ตะดวงดี สว.กก.3 บก.สอท.2 พ.ต.ท.ประสาน รัตนวรรณ์ สว.(สอบสวน) กก.3 บก.สอท.2 นำกำลังเข้าจับกุมนายพาเวล โซวิน (MR.PAVEL SOVIN) อายุ 34 ปี สัญชาติรัสเซีย พร้อมตรวจยึดของกลาง โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง สมุดบัญชีธนาคาร 4 เล่ม บัตรเอทีเอ็ม 6 ใบ และพาสปอร์ต 1 เล่ม
สืบเนื่องจากเมื่อช่วงกลางเดือนสิงหาคม 2568 ผู้เสียหายเป็นหญิงวัย 70 ปี เจ้าของบริษัทผลิตยาสมุนไพรชื่อดัง ได้รับการติดต่อทางโทรศัพท์ จากคนร้ายแสดงตัวว่าชื่อแพตตี้ มาจากบริษัท MIROX ได้แนะนำการลงทุนเกี่ยวกับการเล่นเทรดหุ้น โดยแนะนำว่าหากร่วมลงทุนแล้วจะได้รับค่าตอบแทนสูง ทางผู้เสียหายจึงเกิดความสนใจ คนร้ายจึงให้ผู้เสียหายเข้าไปในเว็ปไซต์ “mirrox.com/client-area” เพื่อลงทะเบียน โดยคนร้ายให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้าร่วมลงทุน ตามบัญชีธนาคารที่คนร้ายระบุมา ก่อนส่งไฟล์สลิปการโอนเงินแนบไปยังแพลตฟอร์มตามลิงก์ของคนร้าย
จากนั้นแพลตฟอร์มก็จะแสดงยอดเงินลงทุนและยอดเงินรายได้สะสมที่จะได้รับซึ่งแสดงยอดเงินที่สูงขึ้นตามเปอร์เซ็นที่คนร้ายแจ้ง ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อว่าน่าจะเป็นการลงทุนและจะได้ผลตอบแทนมาจริง ต่อมาไม่สามารถเข้าระบบแพลตฟอร์มดังกล่าวได้ แต่ยังมีการติดต่อกับคนร้ายทางข้อความแชท โดยคนร้ายยังโน้มน้าวให้ผู้เสียหายโอนเงินเพิ่มอีก โดยผู้เสียหายโอนเงินไปทั้งสิ้น จำนวน 23 ครั้ง จำนวน 7 บัญชี รวมกว่า 10 ล้านบาท นอกจากหลอกให้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารแล้ว คนร้ายยังเหิมเกริมเดินทางมารับเงินสดที่บริษัทฯของผู้เสียหายอีก 1,500,000 บาท รวมเป็นเงินที่ผู้เสียหายถูกหลอกไปทั้งสิ้น 11,664,525 บาท
ต่อมาเมื่อผู้เสียหายรู้ตัวว่าถูกมิจฉาชีพหลอกลวง จึงได้เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กก.3 บก.สอท.2 ขณะเดียวกันที่คนร้ายยังมีการติดต่อกับผู้เสียหายทางข้อความแชทและโทรศัพท์อย่างต่อเนื่อง โดยคนร้ายยังย่ามใจพยายามหลอกลวงให้ผู้เสียหายลงทุนเพิ่มอีก ทางชุดสืบสวนจึงวางแผนจับกุม โดยซ้อนแผนให้ผู้เสียหายแจ้งทางคนร้ายว่ายังอยากลงทุนเพิ่มอีก 1 ล้านบาท แต่ไม่มีเงินในบัญชี ให้มารับเป็นเงินสด โดยนัดหมายให้คนร้ายมารับที่บริษัทฯของผู้เสียหายในพื้นที่ จ.นครปฐม ต่อมาแจ้งว่าไม่สะดวกมารับเงินคล้ายไหวตัวทัน
ทางชุดสืบสวนจึงเร่งสืบสวนจนทราบข้อมูลคนร้ายรายนี้คือนายพาเวล โซวิน พักอาศัยอยู่ย่านสุขุมวิท กรุงเทพฯ จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลอาญากรุงเทพใต้ออกหมายค้น ที่ 136/2568 ค้นห้องพักเลขที่ 607 คอนโดมิเนียมหรูแห่งหนึ่ง ภายในซอยสุขุมวิท 42 แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กรุงเทพฯ เข้าจับกุมตัวนายพาเวล โซวินไว้ได้พร้อมของกลางทั้งหมด เบื้องต้นสอบสวนให้การปฏิเสธ
โดยตำรวจแจ้งกระทำผิดฐาน "ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ,ร่วมกัน โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน อันมิใช่การกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา ,ร่วมกันเป็นช่องโจร และสบคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน”






