โรงเรียนขนาดเล็กและเอกชนปิดตัวต่อเนื่อง ชี้ปัญหาโครงสร้างสะสม

โรงเรียนเอกชนชื่อดังในกรุงเทพฯ ประกาศเลิกกิจการ 2 แห่ง สาเหตุหลักมาจากเศรษฐกิจซบเซา อัตราการเกิดลดลง และความซับซ้อนของกฎหมาย

วงการการศึกษาไทยกำลังเผชิญปัญหา โรงเรียนเอกชนปิดตัวต่อเนื่อง หลังมีประกาศจากโรงเรียนเอกชนชื่อดังในกรุงเทพฯ ซึ่งเปิดสอนมานานกว่า 50 ปี เลิกกิจการถึง 2 แห่งในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน

ปัจจัยที่ทำให้เกิดปัญหานี้ ประกอบด้วย

เศรษฐกิจซบเซา ทำให้ผู้ปกครองมีความสามารถจ่ายค่าเล่าเรียนน้อยลง

อัตราการเกิดลดลง ทำให้จำนวนเด็กใหม่ไม่เพียงพอ

ความซับซ้อนของกฎหมายโรงเรียนเอกชน (พ.ร.บ.โรงเรียนเอกชน พ.ศ.2550 และแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2554) ทำให้การโอนหรือส่งต่อกิจการยุ่งยาก

 โรงเรียนขนาดเล็กและเอกชนปิดตัวต่อเนื่อง ชี้ปัญหาโครงสร้างสะสม
 

ข้อมูลจาก 2-3 ปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นแนวโน้มว่า โรงเรียนเอกชนหลายแห่งทยอยปิดตัว บางแห่งลดชั้นเรียน บางแห่งยุบรวมกิจการ หรือปรับเป็นศูนย์กวดวิชา ขณะที่โรงเรียนขนาดเล็กในต่างจังหวัดที่เก็บค่าเรียนเพียงเดือนละไม่กี่พันบาท ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายคงที่ เช่น เงินเดือนครู ค่าน้ำค่าไฟ ค่าอาหาร และค่าประกันสังคม ทำให้อยู่รอดยาก

นักวิเคราะห์ด้านการศึกษาชี้ว่า ปัญหานี้สะท้อน โครงสร้างปัญหาที่สะสมมานาน หลังสถานการณ์โควิด-19 ที่ส่งผลให้ต้นทุนสูงขึ้น แต่รายได้จากค่าเล่าเรียนลดลง

ตรงกันข้าม โรงเรียนนานาชาติยังคง เติบโตและขยายตัวต่อเนื่อง เนื่องจากนักเรียนกลุ่มเป้าหมายมีกำลังจ่ายสูง และมีความยืดหยุ่นในการบริหารจัดการมากกว่า

สถานการณ์นี้ถือเป็น สัญญาณเตือนสำหรับระบบการศึกษาไทย ว่าต้องมีมาตรการสนับสนุนโรงเรียนเอกชน เพื่อรักษาคุณภาพการศึกษาและความต่อเนื่องของการเรียนการสอนในอนาคต

 โรงเรียนขนาดเล็กและเอกชนปิดตัวต่อเนื่อง ชี้ปัญหาโครงสร้างสะสม
 


แหล่งที่มาอ้างอิง

สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน