ขีดความสามารถ "เรือหลวงจักรีนฤเบศร"กับบทบาทสำคัญเพื่อประชาชน

เรือหลวงจักรีนฤเบศร ได้ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่จังหวัดสงขลา หลังจากที่ได้ทำการลำเลียงสิ่งของอุปโภคบริโภค ถุงยังชีพ น้ำดื่ม ข้าวสาร และวัตถุดิบสำหรับประกอบอาหาร เสร็จเป็นที่เรียบร้อย โดยได้รับสิ่งของบริจาคจากหน่วยงานต่างๆ ภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาชนทั่วไป ที่ได้ร่วมบริจาคเพื่อไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัย น้ำท่วมหาดใหญ่ และจังหวัดอื่นๆในภาคใต้ 

โดย ร.ล.จักรีนฤเบศร ที่เดินทางไปปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือประชาชนในครั้งนี้นั้น ได้จัดกำลังประกอบด้วย อากาศยาน เฮลิคอปเตอร์ 2 ลำ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ ทีมแพทย์ ทีมครัวสนาม อุปกรณ์กู้ภัย ชุดปฏิบัติการพิเศษ เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ที่ประสบอุทกภัยรุนแรง

• ขีดความสามารถเรือหลวงจักรีนฤเบศร

 

ร.ล.จักรีนฤเบศร มีขีดความสามารถในเป็นฐานบินลอยน้ำในการปฏิบัติการของเฮลิคอปเตอร์และโดรน และยังสามารถทำหน้าที่เป็นครัวลอยน้ำที่มีขีดความสามารถผลิต อาหารปรุงสุกได้วันละประมาณ 3,000 ชุด เพื่อสนับสนุนการส่งทางอากาศสู่พื้นที่ประสบภัย นอกจากนี้ยังได้เตรียมทีมแพทย์ไปกับเรือด้วยเพื่อทำหน้าที่เป็นโรงพยาบาลลอยน้ำได้เมื่อมีความจำเป็น นอกจากนี้ กองทัพเรือยังได้เตรียมจัดกำลัง ร.ล.ช้าง และ ร.ล.อ่างทอง เป็นกำลังช่วยเหลือระลอกที่ 2 หากจำเป็นต้องเพิ่มเติมกำลัง

• ประวัติ เรือหลวงจักรีนฤเบศร กับบทบาทสำคัญเพื่อประชาชน

เรือหลวงจักรีนฤเบศร เป็นเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ ของราชนาวีไทย เป็นเรือที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาใน กองทัพเรือ ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อทำหน้าที่เป็นเรือบรรทุกเครื่องบิน อย่างที่เข้าใจกันผิดในบางกรณี เรือลำนี้ได้ต่อขึ้น ณ อู่ต่อเรือบาซาน เมืองโรตา ประเทศสเปน และเดินทางถึงประเทศไทย เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2540

ในยามปกติ เรือหลวงจักรีนฤเบศร จะเป็นฐานปฏิบัติ การคุ้มครองประโยชน์ของชาติทางทะเล ช่วยเหลือผู้ประสบภัย และรักษาสิ่งแวดล้อมในทะเล

ในยามสงคราม เรือหลวงจักรีนฤเบศรจะเป็นเรือธง คือเรือที่ทำหน้าที่ควบคุมและบังคับบัญชากองเรือในทะเล เพื่อควบคุมการปฏิบัติงานป้องกันภัยทางอากาศ การต่อสู้ทางน้ำ และปราบเรือดำน้ำของผู้ที่เข้ามารุกรานประเทศ

หน้าที่หลักสนับสนุนปฏิบัติการทางเฮลิคอปเตอร์
- ปฏิบัติภารกิจด้านความมั่นคงและยุทธศาสตร์
- สนับสนุนการค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติทางทะเล (Search and Rescue)
- การส่งกำลังบำรุงและสนับสนุนทางด้านมนุษยธรรม

การออกแบบ เรือถูกสร้างขึ้นเพื่อรองรับเฮลิคอปเตอร์หลากหลายรุ่น พร้อมทั้งลานบินและโรงเก็บสำหรับเฮลิคอปเตอร์ เหมาะสมกับการปฏิบัติการในพื้นที่ห่างไกลและในทะเลที่มีสภาพอากาศยากลำบาก

ร.ล.จักรีนฤเบศรเป็นส่วนสำคัญในปฏิบัติการช่วยเหลือประชาชนของกองทัพเรือ โดยเฉพาะในสถานการณ์ฉุกเฉินและภัยพิบัติที่ต้องการการตอบสนองรวดเร็วและครอบคลุมพื้นที่กว้าง

เหตุการณ์สำคัญในอดีต ที่ ร.ล.จักรีนฤเบศร ไปให้ความช่วยเหลือ

- พายุไต้ฝุ่นเกย์ (พ.ศ. 2532) กองทัพเรือได้ใช้เรือและอากาศยานในการค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัย แต่ประสบปัญหาเนื่องจากเรือขนาดใหญ่ที่สุดที่กองทัพเรือมีอยู่ขณะนั้นไม่สามารถทนสภาพทะเลได้ ทำให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยกระทำได้ด้วยความยากลำบาก

- พายุไต้ฝุ่นซีตาห์ (พ.ศ. 2540) หลังเข้าประจำการได้เพียง 4 เดือน เรือหลวงจักรีนฤเบศรได้ถูกส่งเข้าสู่พื้นที่ประสบภัยและเริ่มทำการช่วยเหลือประชาชนด้วยการส่งเฮลิคอปเตอร์ประจำเรือนำอาหารและน้ำดื่มไปแจกจ่ายให้กับผู้ที่ติดอยู่ตามตำบลที่ต่าง ๆ

- พายุไต้ฝุ่นลินดา (พ.ศ. 2540) เรือหลวงจักรีนฤเบศรได้ออกเรือเพื่อให้การช่วยเหลือเรือประมงในทะเลที่ประสบภัยจากพายุไต้ฝุ่นลินดา โดยลาดตระเวนจากสัตหีบไปยังเกาะกูด จังหวัดตราด จนถึงจังหวัดประจวบคีรีขันธ์

- น้ำท่วมจังหวัดสงขลา (พ.ศ. 2543) เรือหลวงจักรีนฤเบศรได้ส่งเฮลิคอปเตอร์และชุดปฏิบัติการพิเศษพร้อมเรือยางลำเลียงอาหารและสิ่งของจำเป็นมอบแก่ผู้ประสบภัย

- เหตุการณ์ความไม่สงบในกรุงพนมเปญ (พ.ศ. 2546) เรือหลวงจักรีนฤเบศรได้เป็นเรือสนับสนุนในการส่งเครื่องบินเข้าช่วยเหลืออพยพคนไทยในประเทศกัมพูชา

- ภัยพิบัติ สึนามิ (พ.ศ. 2547) กองเรือยุทธการได้จัดตั้งหมู่เรือช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทะเล โดยมีกำลังพลรวมทั้งสิ้น 760 นาย ซึ่งประกอบด้วยเรือหลวงจักรีนฤเบศร เรือหลวงนเรศวร และชุดแพทย์เคลื่อนที่ โดยมีภารกิจหลักคือค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัย ให้การรักษาพยาบาลบริเวณเกาะต่าง ๆ และพื้นที่ทะเลด้านใต้ของประเทศไทย

- ในเหตุการณ์อุทกภัยในประเทศไทย พ.ศ. 2553 เรือหลวงจักรีนฤเบศรได้เดินทางออกจากฐานทัพเรือสัตหีบ เดินทางถึงจังหวัดสงขลา โดยทอดสมอที่เกาะหนู เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย

- เหตุการณ์ภัยพิบัติในพื้นที่จังหวัดสุราษฏร์ธานี เกาะเต่า พ.ศ.2554 ในเหตุการณ์อุทกภัยในประเทศไทย พ.ศ. 2554 กองทัพเรือได้จัดตั้งหมู่เรือช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทะเล กรณีเกิดภัยพิบัติในพื้นที่ เกาะเต่า เกาะสมุย เกาะพะงัน จังหวัดสุราษฏร์ธานี เดินทางไปให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ติดค้างบนเกาะเต่า โดยลำเลียงผู้ประสบภัยจำนวนทั้งสิ้น 743 คน เดินทางมายังท่าเทียบเรือจุกเสม็ด

และเมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. 2562 กองทัพเรือได้ส่งเรือหลวงจักรีนฤเบศรเป็นฐานบัญชาการลอยน้ำ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากพายุโซนร้อน ปาบึก ในพื้นที่ภาคใต้ของประเทศไทย

เรือหลวงจักรีนฤเบศรถือเป็นทรัพยากรสำคัญของกองทัพเรือ และประชาชนคนไทย ด้วยบทบาทที่หลากหลายในทั้งภารกิจด้านความมั่นคงและการช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะการสนับสนุนในสถานการณ์ฉุกเฉินและภัยพิบัติระดับชาติ ความสามารถของเรือลำนี้ในการปฏิบัติการทั้งในทะเลและพื้นที่ห่างไกล ทำให้ ร.ล.จักรีนฤเบศรเป็นเครื่องมือที่ช่วยสะท้อนถึงความพร้อมและศักยภาพของกองทัพเรือในการรับมือกับวิกฤตการณ์ต่าง ๆ เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชน

cr.กองทัพเรือ