- 28 พ.ย. 2568
รวบกลุ่มมิจฉาชีพอ้างเชื่อมโยง "โดนัลด์ ทรัมป์" หลอกลงทุนอ้างให้ผลตอบแทนสูง 20 เท่า เหยื่อหลงกลเสียหายกว่า 13 ล้าน
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบยกแก๊งสแกมเมอร์หลอกลงทุน อ้างโดนัลด์ ทรัมป์ เสนอผลตอบแทนสูง 20 เท่า เสียหายกว่า 13 ล้านบาท
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) และเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ร่วมกันจับกุมตัว 6 ผู้ต้องหาตามหมายจับเป็นแก๊งสแกมเมอร์หลอกลงทุน อ้างโดนัลด์ ทรัมป์ เสนอผลตอบแทนสูง 20 เท่า เสียหายกว่า 13 ล้านบาท ดังนี้
1. นายอธิณัฏฐ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 57 ปี ตามหมายจับศาลอาญาพระโขนงที่ 885/2568
ลงวันที่ 21 พฤศจิกายน 2568
2. นางสาวณันนภัชสรณ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 51 ปี ตามหมายจับศาลอาญาพระโขนง
ที่ 886/2568 ลงวันที่ 21 พฤศจิกายน 2568
3. นางเข็มทอง (สงวนนามสกุล) อายุ 55 ปี ตามหมายจับศาลอาญาพระโขนงที่ 890/2568
ลงวันที่ 21 พฤศจิกายน 2568
4. นางสาวปรานิศา (สงวนนามสกุล) อายุ 48 ปี ตามหมายจับศาลอาญาพระโขนง
ที่ 891/2568 ลงวันที่ 21 พฤศจิกายน 2568
5. นายถาวร (สงวนนามสกุล) อายุ 60 ปี ตามหมายจับศาลอาญาพระโขนงที่ 887/2568
ลงวันที่ 21 พฤศจิกายน 2568
6. นางอนุภา (สงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี ตามหมายจับศาลอาญาพระโขนงที่ 889/2568
ลงวันที่ 21 พฤศจิกายน 2568
ฐานความผิด “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน”
ตรวจยึดพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง จำนวน 5 รายการ เพื่อประกอบเป็นหลักฐานในการดำเนินคดี
- โทรศัพท์ จำนวน 8 เครื่อง
- คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก จำนวน 3 เครื่อง
- แท็บเล็ต จำนวน 1 เครื่อง
- สมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 22 เล่ม
- เอกสารการเงิน สมุดใบมอบอำนาจจากต่างประเทศ 33 เล่ม
- เอกสารการปลดอายัดเงิน มูลค่า 783,800,000 USD ของประเทศสหรัฐอเมริกา ที่มีลายเซ็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ จำนวน 1 ฉบับ
พฤติการณ์ เนื่องด้วยมีกลุ่มผู้เสียหาย 15 ราย ได้มาร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปอศ. กรณีถูกกลุ่มมิจฉาชีพชักชวนมาระดมทุน โดยอ้างตนว่าเป็นนักธุรกิจใหญ่ ไฮโซ เป็นเจ้าของกองทุนน้ำมันประเทศไนจีเรีย มีโครงการจะนำเงินกองทุนน้ำมันเข้ามาประเทศไทย จึงมีความจำเป็นต้องระดมทุนเพื่อดำเนินโครงการ หากทำสำเร็จ จะได้รับผลตอบแทนจำนวนมหาศาล และมีการนำเอกสารรับรองการปลดอายัดเงิน มูลค่า 783,800,000 USD ของประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งปรากฏลายเซ็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์, หนังสือรับรองความเป็นเจ้าของทองคำทั่วโลก มีลายน้ำซึ่งต้องใช้ไฟฉายชนิดพิเศษส่องถึงจะเห็น, เอกสารรับรองจากธนาคาร HSBC ประเทศจีน ซึ่งแสดงยอดเงิน 9 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ โดยเสนอผลตอบแทนสูงถึง 20 เท่าของเงินลงทุน ในระยะเวลา 3 เดือน
โดยกลุ่มผู้ต้องหาจะตระเวนจัดงานชักชวนระดมทุนตามโรงแรมในต่างจังหวัดต่างๆ จากนั้นจะชักชวนผู้เสียหายเข้ากลุ่มไลน์ลงทุน มีการประชุมระดมทุนทางออนไลน์ทุกสัปดาห์ โดยอ้างเหตุว่าต้องเสียค่าภาษี, ค่าธรรมเนียม, และค่าทนายสากล จนผู้เสียหายบางรายหมดเนื้อหมดตัว ถึงกับต้องกู้เงินมาลงทุนต่อเนื่องจากเสียดายเงินที่เคยลงทุนไป
ต่อมาเมื่อถึงกำหนดระยะเวลาจ่ายผลตอบแทน กลุ่มผู้ต้องหาพยายามบ่ายเบี่ยง ไม่จ่ายผลตอบแทนให้กับผู้เสียหาย โดยอ้างเหตุขัดข้องต่างๆ จนผู้เสียหายเกิดความสงสัย จึงนำเอกสารที่กลุ่มผู้ต้องหาเคยแอบอ้างว่าเป็นเจ้าของกองทุนน้ำมัน ส่งไปตรวจสอบที่สถานทูตไนจีเรีย ผลการตรวจสอบพบว่าเป็นเอกสารปลอมทั้งหมด จึงเชื่อว่าถูกหลอกลวง เป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับความเสียหาย 13 ล้านบาท จึงมาร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปอศ.
เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปอศ. ได้รวบรวมพยานหลักฐานจนทราบว่าในคดีนี้มีผู้ร่วมกระทำความผิดแบ่งหน้าที่กันทำ ได้แก่ นายอธิณัฏฐ์ฯ อ้างว่าเป็นเจ้าของกองทุนน้ำมัน, นางสาวณันนภัชสรณ์ฯ หรือ มาดามเมตตา ทำหน้าที่พูดชักชวนโน้มน้าวให้ร่วมลงทุน, นางเข็มทองฯ ดูแลการเงิน เป็นเจ้าของบัญชีรับโอนเงินจากผู้เสียหาย, นางสาวปรานิศาฯ และนายถาวรฯ เป็นหัวหน้ากลุ่มไลน์ลงทุน คอยเผยแพร่ข้อมูลการลงทุน และนางอนุภาฯ เป็นพิธีกรในอีเวนต์ชักชวนระดมทุน จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติต่อศาลออกหมายจับ
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปอศ. ระดมกำลังตรวจค้นจับกุมในพื้นที่ จ.ขอนแก่น, อำนาจเจริญ,อุบลราชธานี, ปทุมธานี, นนทบุรี และกรุงเทพมหานคร จนสามารถจับผู้ต้องหาได้ครบ 6 ราย พร้อมยึดพยานหลักฐาน ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปอศ. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ในส่วนเอกสารหน่วยงานรัฐที่ปรากฏลายมือชื่อประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ จะส่งตรวจสอบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่ามีบัญชีที่เกี่ยวข้อง 22 บัญชี เงินหมุนเวียนกว่า 150 ล้านบาท โดยถูกโอนต่อเป็นทอดๆ และถูกแลกเป็นสินทรัพย์ดิจิทัล อยู่ระหว่างขยายผล
เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ขอเตือนประชาชนให้ระมัดระวังการลงทุนที่เสนอผลตอบแทนสูงผิดปกติมิจฉาชีพมักอ้างชื่อกองทุนต่างประเทศ หน่วยงานรัฐ หรือองค์กรสากลเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ






