- 04 ธ.ค. 2568
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) จับแก๊ง scammer หลอกเป็นผู้แนะนำการลงทุน สาวสวยล่อเทรดทองผ่านแอปพลิเคชัน “Binat Thailand”
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) และศูนย์ต่อต้านการฉ้อโกงออนไลน์ (ACSC : ANTI CYBER SCAM CENTER) โดย กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก. ได้สั่งการให้
พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม, พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์, พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.พัฒนศักดิ์
บุบผาสุวรรณ ผบก.ป. , พ.ต.อ.บรรลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.เอกสิทธิ์ ปานสีทา ผกก.4 บก.ป.,
พ.ต.ท.เจษฎา แก้วจาเครือ, พ.ต.ท.อรรถวิทย์ สุขทัศน์, พ.ต.ท.เอนก บุญตา, พ.ต.ท.กิตติพงษ์ ศิลาพันธุ์,
พ.ต.ท.ชนะ ขำทอง รอง ผกก.4 บก.ป.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.อัคนี ณ บางช้าง สว.กก.4 บก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปราม กับพวก ชุดปฏิบัติการต่อต้านการฉ้อโกงออนไลน์ ส่วนของกองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง
ร่วมกันจับกุม
1.น.ส.ณัตินีย์ฯ อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญา ที่ 6933/2568 ลงวันที่ 22 พฤศจิกายน 2568
2.นายคณาธิปฯ อายุ 34 ปี ผู้ต้องหา ตามหมายจับ ศาลอาญา ที่ 6931/2568 ลงวันที่ 22 พฤศจิกายน 2568
3.น.ส.อัสรีดาฯ อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 6932/2568 ลงวันที่ 22 พฤศจิกายน 2568
4. นายอ้าปอฯ MR.APOR อายุ 20 ปี สัญชาติพม่า ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 6928/2568 ลงวันที่ 22 พฤศจิกายน 2568
5.นายศิระฯ อายุ 58 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 6926/2568 ลงวันที่ 22 พฤศจิกายน 2568
6.นางสุกาญฯ อายุ 68 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 6930/2568 ลงวันที่ 22 พฤศจิกายน 2568
ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์
ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ
โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ซ่องโจร และฟอกเงิน”
พร้อมตรวจยึดของกลาง
1.เงินสด จำนวน 1,196,100 บาท
2.สร้อยข้อมือทองคำ จำนวน 1 เส้น
3.โทรศัพท์มือถือ จำนวน 7 เครื่อง
4.เครื่องนับเงินสด จำนวน 1 เครื่อง
5.สมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 6 เล่ม
6.หนังสือเดินทาง จำนวน 1 เล่ม
7.รถยนต์ จำนวน 2 คัน
8.บัตรกดเงินสด จำนวน 14 ใบ
9.เสื้อผ้าที่ใช้ในวันที่กระทำความผิด จำนวน 6 ชุด
10. Ipad จำนวน 1 เครื่อง
สถานที่จับกุม (รายละเอียดสถานที่จับกุมพร้อมวันเวลา)
พฤติการณ์ ผู้เสียหายรู้จักกับหญิงรายหนึ่งชื่อว่า “ออมนิชาฯ” ซึ่งได้ทักเข้ามาพูดคุยทางแชทไลน์
โดยหญิงรายดังกล่าวมีรูปโปรไฟล์เป็นหญิงสาวผิวขาว รูปร่างดี หน้าตาดี แสดงลักษณะเป็นบุคคลที่มี
ความน่าเชื่อถือ ชักชวนให้ลงทุนทองคำในตลาดโลก ในลักษณะของการเทรดทองระยะสั้นภายใน 10 - 20 นาที
โดยอ้างว่าจะมีบุคคลทำหน้าที่เป็นผู้วิเคราะห์แนวโน้มให้ ผู้เสียหายมีหน้าที่เพียงลงทุนเงินทุน และให้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันชื่อ “Binat Thailand” และ “Thai ID” ผ่านลิงก์ที่ส่งมาในไลน์ จนผู้เสียหายหลงเชื่อร่วมลงทุนจำนวนหลายครั้ง เป็นเงินรวมกัน 11,645,000 บาท
ต่อมา เมื่อผู้เสียหายพยายามเปิดเข้าใช้งานแอปพลิเคชันเทรดทองที่หญิงรายนี้เคยส่งมา กลับปรากฏว่า ไม่สามารถเข้าใช้งานได้ แอปพลิเคชันได้หายไปจากโทรศัพท์มือถือของผู้เสียหาย และเมื่อพยายามติดต่อหญิงรายดังกล่าวทางไลน์ ก็ไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย จึงเชื่อว่าถูกหลอกลวง จึงเดินทางมาพบกับพนักงานสอบสวน สน.บึงกุ่ม เพื่อร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ต่อมา ฝ่ายวิเคราะห์ข้อมูล ศูนย์ต่อต้านการฉ้อโกงออนไลน์ ได้ส่งมอบข้อมูลให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ป. ให้ทำการสืบสวนร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บึงกุ่ม เพื่อสืบสวนและพิสูจน์ทราบเกี่ยวกับตัวผู้กระทำความผิดเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
การสืบสวนพบว่าเครือข่ายคนร้ายได้แบ่งบทบาทหน้าที่กันเป็นขบวนการ ใช้เทคนิคหลบเลี่ยงการตรวจสอบหลายชั้น โดยใช้ 3 ช่องทางหลักในการรับเงินจากผู้เสียหาย คือ
1.โอนเข้าบัญชีธนาคารของม้าแถวที่ 1 ก่อนมีการโอนเงินต่อไปยังต่างประเทศ ผ่านช่องทาง payment gateway และฝากเข้าแพลตฟอร์ม ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล เปลี่ยนเงินสดเป็น USDT ก่อนมีการโอนต่อไปยังกระเป๋าเงินดิจิทัลที่ไม่สามารถระบุตัวผู้ใช้ได้ (Non-Custodial Wallet)
2. นัดส่งมอบเงินสด กับกลุ่มคนร้ายที่ร้านกาแฟสตาร์บัค ในพื้นที่จังหวัดราชบุรี และจังหวัดกรุงเทพ ก่อนนำเงินไปส่งมอบให้กับหัวหน้าคนจีน(บอสจีน)
3. โอนเข้าบัญชีธนาคารของกลุ่มขบวนการรับจ้างถอนเงินสด เพื่อเบิกถอนผ่านเจ้าหน้าที่ธนาคารของธนาคารเจ้าของบัญชี ก่อนนำเงินไปส่งมอบให้กับหัวหน้าคนจีน
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ป. ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บึงกุ่ม ทำการสืบสวนขยายผล
จนสามารถออกหมายจับผู้กระทำความผิดได้จำนวน 7 คน ก่อนร่วมกันจับกุมตัวได้ ในหลายพื้นที่ ซึ่งสามารถแบ่งกลุ่มผู้กระทำความผิดได้ดังนี้
1.กลุ่มบัญชีม้า จำนวน 1 คน คือ
- นายอัถฐิสิทธิ์ฯ อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 6927/2568 ลงวันที่ 22 พฤศจิกายน 2568 (ถูกจับในคดีอื่นและถูกคุมขังที่เรือนจำ จ.กำแพงเพชร) รับโอนเงินจากผู้เสียหาย 500,000 บาท
2.กลุ่มผู้มารับเงินสด จากผู้เสียหาย จำนวน 1 คน คือ
- นายอ้าปอฯ MR.APOR อายุ 20 ปี สัญชาติพม่า รับเงินสด จำนวน 5 ครั้ง รวมกัน 7,200,000 บาท
3.กลุ่มขบวนการเบิกถอนเงินสด จากผู้เสียหาย จำนวน 5 คน ประกอบไปด้วย รับโอน 600,000 บาท
- นายศิระฯ อายุ 58 ปี (เจ้าของบัญชีธนาคารที่รับโอนจากผู้เสียหาย)
- นางสุกาญฯ อายุ 68 ปี (ผู้พานายศิระฯ มาเบิกเงิน)
- นายคณาธิปฯ อายุ 34 ปี (นายหน้าพามากดเงิน)
- น.ส.ณัตินีย์ฯ อายุ 30 ปี (ผู้รับเงินสดเพื่อนำไปให้กลุ่มคนจีนเพื่อแลกเป็นเงินดิจิทัล)
- น.ส.อัสรีดาฯ อายุ 25 ปี (ผู้รับเงินสดเพื่อนำไปให้กลุ่มคนจีนเพื่อแลกเป็นเงินดิจิทัล)
และได้ร่วมกันตรวจยึดทรัพย์สินกลุ่มผู้ถูกจับดังมีรายละเอียด ต่อไปนี้ คือ
1.เงินสด จำนวน 1,196,100 บาท
2.สร้อยข้อมือทองคำ จำนวน 1 เส้น
3.โทรศัพท์มือถือ จำนวน 7 เครื่อง
4.เครื่องนับเงินสด จำนวน 1 เครื่อง
5.สมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 6 เล่ม
6.หนังสือเดินทาง จำนวน 1 เล่ม
7.รถยนต์ จำนวน 2 คัน
8.บัตรกดเงินสด จำนวน 14 ใบ
9.เสื้อผ้าที่ใช้ในวันที่กระทำความผิด จำนวน 6 ชุด
10. Ipad จำนวน 1 เครื่อง
นำส่งพนักงานสอบสวน สน.บึงกุ่ม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การรับสารภาพ และ ปฏิเสธบางคน
เตือนภัย “อย่าหลงเชื่อโปรไฟล์สวยหรือคำชักชวนทางแชท ตรวจสอบก่อนโอนทุกครั้ง”
ช่องทางการติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม พ.ต.ท.อัคนี ณ บางช้าง สว.กก.4 บก.ป.
“การเผยแพร่ข่าวเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะของประชาชน
ให้รู้เท่าทันภัยอันตรายรูปแบบต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อสร้างการตระหนักรู้เป็นวงกว้าง
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด
ดังนั้น สำหรับการเผยแพร่ข่าวของสื่อมวลชน ขอให้พิจารณาถึงประโยชน์และสิทธิของผู้ต้องหาข้างต้น”






