- 06 ธ.ค. 2568
"พุทธ" พูดถึงคนสุดท้าย อยู่กับ "นัทปง" แต่ไม่มาวันรดน้ำเพื่อน พิรุธกล้องวงจรปิดในห้องนอน เพื่อนเพิ่งบอกเรื่องไซยาไนด์ ก่อนตรวจพบสารในร่างจริง
กลายเป็นประเด็นที่สังคมยังคงจับตาอย่างหนัก สำหรับการเสียชีวิตกะทันหันของ นายณัฐวุติ ปงลังกา อายุ 35 ปี นักข่าวช่อง 8 ที่พบเป็นศพภายในบ้านพักในจังหวัดนนทบุรี เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ล่าสุดความคืบหน้าสำคัญถูกเปิดเผยผ่านรายการ “ลุยชนข่าว” โดย พุทธ อภิวรรณ ซึ่งได้เล่ารายละเอียดหลายช่วงที่ทำให้เกิดข้อสงสัยใหม่ในคดีนี้ โดยเฉพาะผลชันสูตรที่พบ “สารไซยาไนด์” ในกระแสเลือดและในกระเพาะอาหารของผู้เสียชีวิต
พุทธเผยว่า ระหว่างงานรดน้ำศพวันที่ 3 ธ.ค. มีเพื่อนคนหนึ่งของนัทเล่าให้ฟังว่า “สงสัยว่าที่บ้านของนัทมีไซยาไนด์” ทั้งที่เจ้าตัวไม่ได้อยู่ในวงกินข้าวด้วย ทำให้พุทธสงสัยว่าเหตุใดจึงไม่บอกตั้งแต่วันเกิดเหตุ
ในคืนนั้นเอง หลังจบรายการ พุทธได้เดินทางไปยังบ้านของนัท และถามเพื่อนที่สงสัยถึงสิ่งของดังกล่าว ซึ่งในขณะนั้น ผลชันสูตรยังไม่ออก ก่อนที่เพื่อนจะหยิบวัตถุบางอย่างให้ดู และตั้งข้อสงสัยว่าอาจเป็นไซยาไนด์ พุทธจึงส่งให้อาจารย์แพทย์ตรวจพิสูจน์ทันที
พุทธกล่าวว่า รอยเท้าที่เห็นในที่เกิดเหตุเป็นของทีมกู้ภัยที่พยายามช่วยปั๊มหัวใจให้กับนัท ส่วนเรื่องที่มีการอ้างว่ามีการทะเลาะกัน บิ๊ก หนึ่งในคนใกล้ชิดของนัท ยืนยันว่าไม่ได้ทำร้ายนัท และไม่รู้เรื่องไซยาไนด์ พร้อมระบุว่าอยู่กับนัทเพียงสองคนหลังทุกคนกลับออกไปแล้ว
บิ๊กเล่าว่าคืนนั้นนัทขึ้นไปนอนชั้นบน กระทั่งเช้าวันต่อมา บิ๊กลงมาพบว่านัทไม่หายใจ จึงรีบโทรตาม “ต้น” ให้กลับมาที่บ้าน
พุทธเผยว่า วันรดน้ำศพวันแรก บิ๊กไม่ได้มา ซึ่งตอนนั้นยังไม่รู้ว่าบิ๊กอยู่กับนัทเป็นคนสุดท้าย กระทั่งตรวจสอบแล้วพบว่าในวันเกิดเหตุ 30 พ.ย. บิ๊กอยู่ที่บ้านของนัท ก่อนจะหายตัวไปหลังจากนั้น
บิ๊กอ้างว่าติดเรียนอยู่ภาคเหนือ คิดว่าศพจะถูกส่งไปประกอบพิธีที่ภาคเหนือ จึงไม่เดินทางมาร่วมงานที่นนทบุรี
พุทธเล่าต่อถึงข้อมูลจาก “ออ” เพื่อนอีกคนว่า วันที่พบศพ ต้นโทรมาหาเวลา 09.40 น. หลายครั้ง และให้ข้อมูลไม่ตรงกันในแต่ละรอบ เช่น
ครั้งที่ 1: คุยกันไม่รู้เรื่อง
ครั้งที่ 2: บอกว่า “นัทหลับไม่ตื่น”
ครั้งที่ 3: บอกว่า “เจอไซยาไนด์”
ครั้งที่ 4: บอกว่า “น่าจะไม่ใช่ไซยาไนด์ เพราะเหลือเท่าเดิม”
ความย้อนแย้งนี้เป็นอีกจุดที่ตำรวจต้องขยายผล
เมื่อพุทธเข้าไปตรวจสอบบ้าน พบว่ามีกล้องวงจรปิดหลายตัว โดยเฉพาะในห้องนอน ซึ่งเป็นจุดสำคัญ เพราะอาจบันทึกช่วงเวลาที่นัทเดินขึ้นไปก่อนเสียชีวิต แต่พบว่ากล้องตัวดังกล่าว “ไม่น่าจะบันทึกภาพ” อาจเพราะเจ้าของบ้านปิดไว้ในช่วงทำกิจวัตรส่วนตัว
พุทธจึงให้ทีมงานไปสอบถามบิ๊กที่งานศพ ซึ่งบิ๊กยืนยันว่าไม่ได้ถอด ไม่ได้แตะต้องกล้อง และพร้อมให้ตรวจสอบรอยนิ้วมือ
พุทธย้ำว่าตนต้องการความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย แม้แต่บิ๊กก็ยังคงติดต่อได้ ไม่ได้หลบหนี โดยตัวเขาเองได้รวบรวมข้อมูลและหลักฐานที่มีทั้งหมด พร้อมส่งให้ตำรวจเพื่อนำไปประมวลร่วมกับคดี






