สภาพสถานที่อพยพชาวบ้านเขมร ชาวเน็ตเห็นแล้วพูดเป็นเสียงเดียว

เพจดังเผยภาพ สถานที่อพยพให้ชาวบ้านเขมร หลังเกิดเหตุความไม่สงบในแนวชายแดนไทย - กัมพูชา ชาวเน็ตเห็นแล้วพูดเป็นเสียงเดียว

วันที่ 9 ธันวาคม 2568 เกิดเหตุปะทะต่อเนื่องตามแนวชายแดนไทย - กัมพูชา โดยกองทัพภาคที่ 2 รายงานผลการปฏิบัติการตอบโต้ หลังฝ่ายกัมพูชาดำเนินการที่ถูกมองว่าละเมิดอธิปไตยของไทยในหลายพื้นที่ ทำให้กองทัพไทยต้องเข้าควบคุมสถานการณ์ตามหลักการป้องกันตนเองสากล

สภาพสถานที่อพยพชาวบ้านเขมร ชาวเน็ตเห็นแล้วพูดเป็นเสียงเดียว

ปฏิบัติการที่สำคัญของกองทัพภาคที่ 2

กองทัพภาคที่ 2 สรุปการตอบโต้ทางทหารที่ดำเนินการในช่วงเช้ามืด โดยมีปฏิบัติการหลัก 5 รายการ ได้แก่

  • ยิงทำลายตึกร้างที่เป็นที่ทำการของเครือข่ายสแกมเมอร์ บริเวณช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี
  • ยิงทำลายเสา Anti Drone ในพื้นที่พระวิหารและห้วยตามาเรีย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ
  • กวาดล้างพื้นที่สวนมะม่วงหิมพานต์ที่รุกล้ำเส้นปฏิบัติการบริเวณช่องระยี ทางทิศตะวันออกช่องจอม
  • เข้าควบคุมปราสาทคนา อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์
  • ยิงทำลายกระเช้าลำเลียงเสบียงบริเวณเนิน 350 ใกล้ปราสาทตาควาย


เวลา 04:50 น. มีรายงานว่าอาวุธ BM-21 เริ่มปฏิบัติการตามแผนในพื้นที่ซำแต, ภูผี, ช่องตาเฒ่า และปราสาทตาควาย โดยกัมพูชาถ่ายภาพความเสียหายต่างๆ เพื่อนำไปเผยแพร่ต่อสังคมโลก สถานการณ์ในพื้นที่ยังคงมีการปะทะเป็นระยะ

 

กองทัพเรือชี้แจงสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดตราด

เวลา 05:40 น. สำนักงานโฆษกกองทัพเรือเผยภาพถ่ายทางอากาศที่แสดงให้เห็นว่ามีกองกำลังทหารกัมพูชากลับเข้ามาตั้งฐานปฏิบัติการในเขตอธิปไตยไทย บริเวณบ้านหนองรี ตำบลชำราก อำเภอเมือง จังหวัดตราด แม้ว่าฝ่ายไทยจะเคยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างถาวรของกัมพูชาชุดก่อนหน้าและมีการถอนกำลังไปแล้ว

 

สภาพสถานที่อพยพชาวบ้านเขมร ชาวเน็ตเห็นแล้วพูดเป็นเสียงเดียว

  • กองทัพเรือระบุว่า

ฝ่ายกัมพูชากลับเข้ามารุกล้ำอีกครั้ง
มีการเสริมกำลังเพิ่ม เช่น ชุดรบพิเศษ พลซุ่มยิง จรวดหลายลำกล้อง
มีการปรับปรุงฐานที่มั่น เช่น ขุดคูเลต ติดตั้งอาวุธหนัก
ใช้โดรนบินลาดตระเวนในพื้นที่ทางทหารของไทยต่อเนื่อง


กองทัพเรือเห็นว่าพฤติกรรมดังกล่าวเป็นการคุกคามอธิปไตยของไทยอย่างชัดเจน ทำให้ไทยจำเป็นต้องใช้ปฏิบัติการทางทหารเพื่อขับไล่กำลังที่รุกล้ำ ทั้งหมดดำเนินการตามหลักสากล “Right of Self-Defence” เพื่อควบคุมสถานการณ์ให้อยู่ในวงจำกัดและลดโอกาสการลุกลาม

 

  • สถานการณ์ลุกลามสู่วันที่สอง

เวลา 06:00 น. เข้าสู่วันที่สองของเหตุปะทะ หลายพื้นที่ยังคงมีเสียงปืนต่อเนื่อง ทหารไทยตรึงกำลังเพื่อปกป้องอธิปไตยและความปลอดภัยของประชาชนชายแดน

เวลา 06:40 น. ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 2 ทำให้ฝ่ายไทยต้องตอบโต้ตามกฎการปะทะ เพื่อทำให้ภัยคุกคามสิ้นสภาพการรบ
เวลา 07:00 น. แนวพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพเรือก็มีการยิงก่อนจากฝ่ายกัมพูชาเช่นกัน พบว่ากัมพูชามีการนำอาวุธหนักเข้าประชิดชายแดน จนไทยต้องเปิดปฏิบัติการตอบโต้ในช่วงเช้า

 

 

  • สถานการณ์ยังไม่นิ่ง

จากข้อมูลทั้งหมด กองทัพไทยทั้งสองเหล่าทัพยืนยันว่าเหตุปะทะยังดำเนินอยู่ สถานการณ์เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว โดยจะมีการรายงานความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง


เกี่ยวกับเรื่องนี้เพจ ท่านเปา ได้โพสต์ภาพ พร้อมระบุข้อความว่า "รัฐบาล “ฮุน มาเนต ”ได้จัดตั้งสถานที่อพยพให้ชาวบ้านกัมพูชาที่ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะบริเวณชายแดน โดยใช้บริเวณป่าช้าของวัด เฌอร็อย เนียง-นวล เป็นศูนย์พักพิง เนื่องจากเตรียมสถานที่รองรับไม่ทันจากสถานการณ์ฉุกเฉิน สุดท้ายชาวบ้านต้องไปตั้งหลักใน “ป่าช้า” เพราะศูนย์พักพิงจริงยังตั้งไม่ทัน..."
สภาพสถานที่อพยพชาวบ้านเขมร ชาวเน็ตเห็นแล้วพูดเป็นเสียงเดียว