กัมพูชาร้องประชาคมโลกกดดันไทย หลังอ้างใช้อาวุธหนักใส่พลเรือน

กัมพูชาออกแถลงการณ์ตอบโต้ไทยอย่างรุนแรง กล่าวหากองทัพไทยใช้อาวุธหนักยิงถล่มพื้นที่พลเรือนและโบราณสถานสำคัญ พร้อมเรียกร้องประชาคมโลกกดดันไทย

พลโทหญิง มาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ออกแถลงการณ์ตอบโต้สถานการณ์ชายแดนตึงเครียด โดยกล่าวหากองทัพไทยใช้อาวุธหนักยิงถล่มพื้นที่พลเรือนและโบราณสถานสำคัญของกัมพูชา รวมถึงปราสาทตาควายและปราสาทพระวิหาร ซึ่งเป็นมรดกโลกของมนุษยชาติ พร้อมระบุว่าเป็นการโจมตีแบบไม่เลือกเป้าหมาย กระทบทั้งตัวเมือง หมู่บ้าน และโรงเรียน 

พลโทมาลีกล่าวว่า การกระทำอันก้าวร้าวของกองทัพไทยประกอบด้วยการยิงแบบไม่เลือกเป้าหมาย ถล่มเข้าไปยังตัวเมือง หมู่บ้านพลเรือน และโรงเรียน รวมถึงยิงทำลายปราสาทตาควาย และวัดพระวิหารอันศักดิ์สิทธิ์ของกัมพูชา ซึ่งเป็นมรดกของมนุษยชาติทั้งมวล

ไทยได้ละเมิดข้อตกลงสันติภาพ และการหยุดยิงทุกฉบับที่ทั้งสองฝ่ายลงนามร่วมกันในมาเลเซียเมื่อเดือนกรกฎาคมและตุลาคมที่ผ่านมา

กัมพูชาร้องประชาคมโลกกดดันไทย หลังอ้างใช้อาวุธหนักใส่พลเรือน
 

ตามรายงานของกระทรวงข้อมูลข่าวสาร กองทัพไทยไม่เพียงละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชา ด้วยการใช้อาวุธหนักรวมถึงการทิ้งระเบิดจากอากาศยานใส่พื้นที่พลเรือน แต่ยังได้ทำลายโบราณสถานของชาวเขมร ซึ่งเป็นสมบัติวัฒนธรรมล้ำค่าและขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก

“เราขอประณามการรุกรานติดอาวุธของกองทัพไทยต่อกัมพูชา และเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศกดดันไทยให้ปฏิบัติตามถ้อยแถลงว่าด้วยข้อตกลงสันติภาพที่ลงนามเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม ซึ่งมีประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ และนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย อันวาร์ อิบราฮิม เป็นสักขีพยาน และให้ยุติการกล่าวหาโจมตีกัมพูชาอย่างบิดเบือนในขณะนี้” กระทรวงระบุ

“กัมพูชาคือเหยื่อของการรุกรานด้วยอาวุธของกองทัพไทย ไทยได้ยั่วยุสร้างสถานการณ์หลากหลายรูปแบบเพื่อนำไปสู่การกล่าวหาและสร้างข้ออ้างในการรุกราน”

กัมพูชาร้องประชาคมโลกกดดันไทย หลังอ้างใช้อาวุธหนักใส่พลเรือน