- 11 ธ.ค. 2568
"เสธ.เบิร์ด" พลโท วันชนะ สวัสดี โพสต์ข้อความฝากถึง ฮุนเซน พ่อฮุนมาเนต พร้อมคำว่าจนตรอก เปิดให้ดูชัดๆ10ข้อ ทหารไทย VS ทหารเขมร
เกาะติดสถานการณ์เหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา วันที่ 11 ธ.ค.68 ในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน 13 แนวรบ ซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบ ของกองทัพภาคที่ 2 มียอดทหารกัมพูชา เสียชีวิต 125 ราย สามารถทำลายรถถัง T-55ของกัมพูชา ได้จำนวน 6 คัน และทำลายจรวด BM-21 จำนวน 1 คัน
ซึ่งทาง เสธ.เบิร์ด พลโท วันชนะ สวัสดี ได้ออกมาโพสต์ข้อความเรื่อง ฮุนเซน จนตรอก ฝากถึง ฮุนเซน พ่อ ฮุนมาเนต
1. วิเคราะห์ภูมิประเทศแนวปะทะ ฝั่งไทยเป็นป่าและ ภูเขา การตั้งฐานทหารจึงอยู่กับป่า
ส่วนฝั่งเขมร มีการนำบ้านคนมาตั้งประชิดชายแดน การตั้งฐานทหารของเขมรจึงใช้บ้านคน อาคารเป็นฐานทหาร ที่ตั้งยิงอาวุธและศูนย์ควบคุมอาวุธ (ใช้ประชาชนเป็นโล่)
2 .จากข้อ1 การปฏิบัติการของไทย เราใช้หลักป้องกันตนเอง และเมื่อ พิสูจน์ทราบได้อย่างชัดเจนว่าจะมีภัยคุกคามกำลังจะเกิดขึ้นเราจึงต้องทำลายภัยคุกคามนั้น 3. จากข้อ2 นั่นหมายความว่าถ้าภัยคุกคามที่จะเกิดขึ้นในระยะเวลาอันใกล้อยู่ที่บ้านใครเราก็ทำลายภัยคุกคามนั้น
4. จากข้อ3 อาวุธยิงระยะไกลของเขมรก่อนหน้านี้ใช้ป้องกันฮุนเซน ที่พนมเปญ ถ้าพิสูจน์ทราบได้ว่าจะเป็นภัยคุกคามในระยะเวลาอันใกล้เราก็ทำลาย
5.จากข้อ4 เมื่อฮุนเซนรักตัวกลัวตายก็มีความจำเป็นที่ต้องขยับอาวุธยิงระยะไกลนั้นให้ห่างจากตัวเองไว้
6. จากข้อ5 เพราะปัจจุบันคุณเซนกำลังตกที่นั่งลำบากทั้งศึกภายในและภายนอก ที่ สั่นคลอนอำนาจของฮุนเซน
7. จากข้อ6 เราจึงไม่เห็นพี่เลี้ยงจากต่างประเทศออกตัวแรงเพื่อปกป้องเขมรเท่าครั้งก่อน
8. จากข้อ7 เพราะถ้าประเทศใดออกตัวปกป้องเขมรก็เท่ากับเห็นด้วยกับ สแกมเมอร์
9. จากข้อ 8 บีบให้ฮุนเซน ต้องกลายเป็นหมาใกล้จนตรอกที่จะเลือกวิธีสกปรกตามสันดานเดิม ด้วยการยิงระยะไกลทำร้ายประชาชนชาวไทยผู้บริสุทธิ์ และจะอ้างว่าทำลายที่ตั้งทางทหารของไทย
10. จากข้อ9 เขมรจะอ้างแบบนี้ไม่ได้เพราะทหารไทยไม่ได้ใช้ประชาชนเป็นโล่มนุษย์ และเราทำการรบด้วย ศักดิ์ศรีของความเป็นทหาร ตามข้อ1
พร้อมกันนี้ เสธ.เบิร์ด ยังได้มีข้อความฝากถึง ฮุนมาเนต ลูกฮุนเซน ทหารไทยรบด้วยศักดิ์ศรีของความเป็นทหาร เรายึดหลักการรบตามกติกาของสุภาพบุรุษในสนามรบ
ธงชาติคู่ศึกเราไม่ทำลายเหยียบย่ำ คู่ศึกยอมแพ้วางอาวุธ เราจับเป็นเชลย ไม่ฆ่าคนไม่มีทางสู้ ไม่พร้อมสู้ ไม่มีอาวุธ
แต่การกระทำตรงข้ามจากนี้ เราเห็นจากทหารเขมร ที่ทำร้ายเข่นฆ่าประชาชนชาวไทยผู้บริสุทธิ์ ไม่จับถืออาวุธต่อสู้ สะท้อนทัศนะคติ ผู้นำของกองทัพอย่างฮุนมาเนต คำขอโทษสักคนไม่เคยได้ยิน เฉไฉและกลบเกลื่อนเกียรติศักดิ์ความเป็นทหารที่ ทำผิดก็กล้ายอมรับผิดมันหายไปไหนหมดสิ้นไม่สมกับการไปร่ำไปเรียนมาจากโรงเรียนนายร้อยเวสต์พอยต์ หรือเวลาการเล่าเรียนที่นั่นไม่สามารถขัดเกลากำพืดเดิมได้เลย
ผมพยายามจะเข้าใจว่า ฮุนมาเนต ตอนนี้ไม่ใช่ทหารแล้ว แต่เป็นนักการเมือง อันนี้ก็เข้าใจไม่ได้เลยเช่นกันเพราะ รร. แห่งนี้ เป็นต้นตำรับกฏและระบบเกียรติศักดิ์(Hornor Code & Hornor System)ปลูกฝังและยึดถือกันในสถาบันทหารทั่วโลกและต้องยึดถือตลอดชีวิต ย้ำอีกครั้ง ตลอดชีวิต กฏข้อแรกคือ ไม่โกหก ไม่เฉไฉ ยิ่งฮุนมาเนตเป็นผู้นำทางการเมือง ยิ่งสมควรเป็นที่คาดหวังในความซื่อตรงจากประชาชนเพราะเป็นผู้ที่ต้องตัดสินใจใช้กำลังทหารและกำหนดเป้าหมายของชาติ เป็นผู้ที่ประชาชนไว้วางใจ จึงเลือกขึ้นมา(อันนี้ผมไม่แน่ใจว่าพ่อเลือกมาหรือประชาชนเลือกมา)
ดังนั้น โลกจะยังคาดหวัง เกียรติศักดิ์ จาก Westpointer(ศิษย์เก่าจาก รร. นายร้อย West Point)ได้อยู่หรือไม่ ศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันจะว่าอย่างไรฮุนมาเนตคือคำตอบนั้น






