- 12 ธ.ค. 2568
ดับฝัน 10 ล้านสิทธิ คนละครึ่งพลัส เฟส2 "ภราดร" รับต้องพับโครงการไปก่อน อ้าง "เอกนิติ" จ่อนำเข้า ครม.แล้ว แต่ยุบสภาก่อน
เมื่อเวลา 07.05 น. วันที่ 12 ธ.ค.2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายกรัฐมนตรียุบสภา จะทำให้ถูกมองว่าพรรคภูมิใจไทยไม่จริงใจต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ ว่า พรรคที่มีความจริงใจมากที่สุดในการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่น่าจะมีเกินเลยมากกว่าพวกตน ตนได้อภิปรายไว้ตั้งแต่วาระ 1 แล้วว่าเราจะเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ประสบความสำเร็จให้ได้ อะไรก็ตามที่เป็นอุปสรรคและดูแล้วว่าไม่สามารถที่จะทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญสำเร็จหรือสะดุดลง เราจะพยายามปลดชนวนตรงนั้นออกทั้งหมด
หลายเรื่องของพรรคภูมิใจไทยเราก็ยอมถอยในชั้นกรรมาธิการ และในการลงมติมาตรา 256 / 28 เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. เป็นการแข่งขันระหว่างกรรมาธิการเสียงข้างมากกับการแปรญัตติของ สว.
ซึ่งเขาพูดชัดเจนว่าหากเขาแพ้ในวาระ 2 วาระ 3 เขาก็ไม่โหวตให้ ดังนั้น ในวาระ 3 เราจะไม่ได้เสียง สว.ถึง 67 เสียงอย่างแน่นอน พรรคภูมิใจไทยจึงต้องตัดสินใจไม่ใช่เพราะตัวเนื้อหาสาระ บางครั้งเนื้อหาอาจถูกใจหรือไม่ถูกใจ แต่เราดูที่ปลายทางที่ให้สัญญาว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญให้สำเร็จ เราก็เลือกในสิ่งที่คิดว่าจะเดินต่อไปไปได้ จึงต้องลงมติตามการสงวนความเห็นของสว.
นายภราดร กล่าวว่า ทันทีที่เปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญเมื่อวันที่ 10 ธ.ค. บางคนลุกขึ้นหารือเสนอต่อประธานรัฐสภาว่าจะเสนอญัตติด่วนเป็นเอกสารเพื่อให้บรรจุไว้ในระเบียบวาระ ในเรื่องการทำคำถามประชามติคำถามที่หนึ่ง ซึ่งก่อนหน้านั้นในวันอังคารที่ 9 ธ.ค. ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรี (ครม.) ก็ได้มีความพยายามที่จะนำเรื่องคำถามประชามติคำถามที่หนึ่งเข้าที่ประชุมครม.เพื่อที่จะมีมติ แต่ทางเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ให้ความเห็นว่าการริเริ่มทำประชามติการริเริ่มทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ควรต้องเริ่มจากรัฐสภา จึงไม่สามารถนำเข้าครม.ในวันดังกล่าวได้ จึงต้องไปเสนอเป็นญัตติด่วนที่สภา ทั้งสองข้อนี้คือสิ่งที่ยืนยันว่าเรามีความจริงใจในการเดินตาม MOA ที่ให้สัญญากับพรรคประชาชน
เมื่อถามว่าตอนนี้หลายคนเข้าใจว่าเป็นแผนที่จะหักหลังพรรคประชาชนตั้งแต่เเรก นายภราดร กล่าวว่า เงื่อนไขนี้ไม่ได้อยู่ใน MOA โดย MOA ทั้ง 5 ข้อ ไม่มีเงื่อนไขใดๆ ที่ระบุลงไปในรายละเอียด ว่าเนื้อหาสาระต้องเป็นอย่างไรบ้าง แต่สิ่งที่บอกก็คือ เราจะพยายามเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญให้สำเร็จ ซึ่งอะไรก็แล้วแต่ที่เป็นอุปสรรคต่อการแก้ไข เราจะต้องถอดออกทั้งหมด ซึ่งประเด็นนี้เป็นประเด็นที่เป็นอุปสรรค พยายามที่จะเดินหน้าทำให้สำเร็จในวาระที่ 3 ได้
เมื่อถามว่าจะสามารถบอกประชาชนได้ ในขณะที่แนวชายแดนกำลังเกิด เหตุการณ์แบบนี้แต่ในทางการเมืองเรามีการประกาศยุบสภา นายภราดรกล่าวว่า ในเรื่องภัยต่างๆ รัฐบาลก็ยังคงรักษาการณ์อยู่จนกว่าจะมีรัฐบาลชุดใหม่ เพราะฉะนั้นสิ่งใดที่ยังดำเนินการค้างอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องภัยสงคราม และภัยพิบัติ รัฐบาลสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ เหมือนรัฐบาลปกติ
เมื่อถามถึง โครงการคนละครึ่งเฟส 2 จะต้องพักไปหรือไม่ นายภราดร ระบุว่า โครงการคนละครึ่งเฟสสองคงต้องหยุดไว้ก่อน ด้วยข้อจำกัดของตัวกฎหมายเลือกตั้งเอง ที่ไม่สามารถทำได้ ซึ่งโครงการดังกล่าวได้มีการดำเนินการและประชาสัมพันธ์ไปแล้ว โดยนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ตั้งใจที่จะนำเข้าครม. ในวันอังคารที่จะถึงนี้ แต่ก็ยุบสภาเสียก่อน






