เปิดเงินช่วยเหลือ-ปูนบำเหน็จ 3 ทหารกล้า พลีชีพปกป้องแผ่นดินไทย

"กองทัพบก" จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพอย่างสมเกียรติ "3 ทหารกล้า" พลีชีพปกป้องแผ่นดินไทย เปิดเงินช่วยเหลือ-ปูนบำเหน็จ

จากสถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา ส่งผลให้กำลังพลกองทัพบกซึ่งปฏิบัติหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากการปฏิบัติภารกิจด้วยความเสียสละ กองทัพบกจึงได้จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพแก่ทหารหาญผู้กล้า เพื่อเชิดชูเกียรติและสดุดีการอุทิศชีวิตเพื่อประเทศชาติอย่างสมเกียรติ

เปิดเงินช่วยเหลือ ปูนบำเหน็จ 3 ทหารกล้า พลีชีพปกป้องแผ่นดินไทย

โดยเมื่อวานนี้ (13 ธันวาคม 2568) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้มอบหมายให้คณะผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพบก ร่วมเป็นเกียรติในพิธีพระราชทานเพลิงศพกำลังพลผู้เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ จำนวน 3 นาย ดังนี้

จ่าสิบเอกศตวรรษ สุจริต

 

สังกัดกองร้อยทหารม้าลาดตระเวนที่ 6 ตำแหน่งพลขับรถถัง ตอนรถถัง หมวดลาดตระเวน เสียชีวิตจากการสะเก็ดระเบิดในพื้นที่ฐานป้องไพร ช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2568 โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกุล นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีพระราชเพลิงศพ และพลเอก ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ เสนาธิการทหารบก ร่วมเป็นเกียรติในพิธี ณ วัดพรหมพิทักษ์วนาราม อำเภอหนองพอก จังหวัดร้อยเอ็ด

 

กองทัพบกได้ดำเนินการปูนบำเหน็จพิเศษ 9 ขั้น ขอพระราชทานเลื่อนชั้นยศเป็น พลตรี และจะได้รับเงินพระราชทาน, เงินบำรุงขวัญ, เงินสินไหมทดแทนในการประกันชีวิตของกองทัพบก (ภัยสงคราม), เงินฌาปนกิจสงเคราะห์ของกองทัพบก, เงินช่วยเหลือและเงินบำเหน็จตกทอดให้กับทายาท และเงินกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรีและเงินเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบฯ ตามมติ ครม. รวมประมาณ 12,072,652 บาท

เปิดเงินช่วยเหลือ ปูนบำเหน็จ 3 ทหารกล้า พลีชีพปกป้องแผ่นดินไทย

พลทหารเทิดศักดิ์ ศรีลาชัย

 

สังกัดกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 23 ตำแหน่งพลยิงเครื่องยิงลูกระเบิด กองร้อยอาวุธเบาที่ 2 เสียชีวิตจากสะเก็ดระเบิดกระสุน BM-21 บริเวณพื้นที่ปราสาทคนา อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2568 โดยมีพลเอก อานุภาพ ศิริมณฑล หัวหน้าคณะฝ่ายเสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชา เป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพ ณ วัดกลางขุขันธ์ อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ

 

กองทัพบกได้ดำเนินการปูนบำเหน็จพิเศษ 9 ขั้น ขอพระราชทานเลื่อนชั้นยศเป็น ร้อยตรี และจะได้รับเงินพระราชทาน, เงินบำรุงขวัญ, เงินสินไหมทดแทนในการประกันชีวิตของกองทัพบก (ภัยสงคราม), เงินช่วยเหลือและเงินบำเหน็จตกทอดให้กับทายาท และเงินกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรีและเงินเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบฯ ตามมติ ครม. รวมประมาณ 11,335,825 บาท

เปิดเงินช่วยเหลือ ปูนบำเหน็จ 3 ทหารกล้า พลีชีพปกป้องแผ่นดินไทย

สิบเอกชวกร เดชขุนทด

 

สังกัดกองพันทหารม้าที่ 11 กรมทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์ ตำแหน่งนายสิบประจำหมวด กองร้อยทหารม้า เสียชีวิตจากเหตุโดรนทิ้งระเบิดของฝ่ายตรงข้าม ขณะเคลื่อนย้ายออกจากบังเกอร์ในพื้นที่ฐานบ้านต้นพยุง อำเภอกันทรลักษณ์ จังหวัดศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2568 โดยมีพลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธี และพลเอก ไพศาล หนูสังข์ ที่ปรึกษาพิเศษกองทัพบก ร่วมในพิธีพระราชทานเพลิงศพ ณ วัดหนองบัว อำเภอบ้านหมอ จังหวัดสระบุรี

 

กองทัพบกได้ดำเนินการปูนบำเหน็จพิเศษ 9 ขั้น ขอพระราชทานเลื่อนชั้นยศเป็น พันตรี และจะได้รับเงินพระราชทาน, เงินบำรุงขวัญ, เงินสินไหมทดแทนในการประกันชีวิตของกองทัพบก (ภัยสงคราม), เงินฌาปนกิจสงเคราะห์ของกองทัพบก, เงินช่วยเหลือและเงินบำเหน็จตกทอดให้กับทายาท และเงินกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยสำนักนายกรัฐมนตรีและเงินเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบฯ ตามมติ ครม. รวมประมาณ 11,700,481 บาท

เปิดเงินช่วยเหลือ ปูนบำเหน็จ 3 ทหารกล้า พลีชีพปกป้องแผ่นดินไทย

สำหรับพิธีพระราชทานเพลิงศพในครั้งนี้ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีต่อกำลังพลผู้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความจงรักภักดีอย่างหาที่สุดมิได้

 

กองทัพบกขอสดุดีแด่กำลังพลผู้เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติ และยืนยันความมุ่งมั่นในการดูแลสิทธิ สวัสดิการ และความเป็นอยู่ของครอบครัวและทายาทของทหารกล้าทุกนายอย่างดีที่สุด ความกล้าหาญ ความเสียสละ และความจงรักภักดีที่ทหารหาญทั้งสามนายได้อุทิศให้แก่ประเทศชาติ นับเป็นเกียรติภูมิสูงสุดของกองทัพบก และจะถูกจารึกไว้ในความทรงจำ และอยู่ในหัวใจของประชาชนไทยตลอดไป