นิค อสรพิษวิทยา เล่านาทีถูกงูจงอางกัด เหมือนเข็มนับ 10 เล่ม แทงนิ้ว

จากกรณีที่ก่อนหน้านี้ "นิค อสรพิษวิทยา" ผู้เชี่ยวชาญด้านงูชื่อดัง ถูกงูจงอาจกัดระหว่างลงพื้นที่ให้ความรู้กับเด็กนักเรียน โรงเรียนแห่งหนึ่งที่อยู่ในพื้นที่ภูเขาสูง ล่าสุด นิค อสรพิษวิทยา ก็ออกมาเล่าถึงเรื่องราวดังกล่าวผ่านทางช่องยูทูบ Nick Wildlife ชื่อตอนว่า SEP EP.43 นาทีวิกฤติ! ตอนถูกจงอางกัด เมื่อชีวิตต้องแข่งกับเวลา!!

โดยช่วงหนึ่งของคลิป นิค อสรพิษวิทยา ได้เล่าถึงเหตุการณ์ถูกงูจงอาจกัดว่า มีชาวบ้านที่พอรู้ว่ามีทีมงานให้ความรู้มา ก็เข้ามาแจ้งว่า ตรงพื้นที่ที่เป็นลำธารซึ่งติดกับหมู่บ้านและสนามบอลของนักเรียน พบงูจงอางเข้ามาป้วนเปี้ยนอยู่ จึงรีบไปสถานที่ดังกล่าว พอไปถึงใช้เวลาค้นหาสักระยะหนึ่งก็พบตัว ขณะกำลังเดินเข้าไปทางงูจงอางรู้ตัวจึงเลื้อยหนี ถ้าช้างูก็จะเลื้อยข้ามลำห้วยไป ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าจะทำงานยาก ทำให้ไม่มีเวลาไปหาบ่วงหรืออุปกรณ์อย่างอื่น

 

ในตอนที่ถูกจงอางกัด ผมใช้มือซ้ายจับคองู กำลังที่จะยกใส่ถุง การเอางูใส่ถุงนั้นมีผมกับผู้ช่วย 2 คน ระหว่างที่ผมจับคอไว้กำลังจะยกเข้าถุง ตัวงูก็เริ่มบิดเริ่มเอาตัวมาพัน จึงหันไปจะเอามืออีกข้างจับตัวงูเพื่อบิดกลับให้เป็นทิศทางเดิม จังหวะนั้นที่ละสายตาจากงู จำได้ว่ารู้สึกเหมือนเข็มนับ 10 เล่ม แทงเข้าที่นิ้ว ผมรู้ทันทีว่าโดนแล้ว ถูกงูกัดแล้ว แต่ก็พยายามให้กำลังใจตัวเอง ว่าขอให้เป็นแค่โดนฟันกัด แต่พอดูที่นิ้วปรากฏว่าโดนเขี้ยวฝังเข้าเต็มๆ ที่นิ้วชี้ด้านซ้าย จังหวะนั้นตกใจและรู้สึกไม่เชื่อ เพราะงูอยู่ในมือของเรา ไม่เคยมีงูตัวไหนที่อยู่ในมือผมและกัดผมได้

จึงพยายามง้างปากงูให้เร็วที่สุด โดยใช้นิ้วล้วงเข้าไปที่ปากด้านหน้าบริเวณนี้จะไม่มีฟันแล้วดึงขึ้นมา จังหวะนั้นเห็นเขี้ยวที่จมจนมิดถูกถอนออกมา เห็นน้ำพิษสีเหลืองไหลออกมา ผมรู้ตัวเลยว่าโดนพิษแล้ว ทำใจเลยว่าอาจจะมีโอกาสสูญเสียนิ้วได้ จังหวะที่ดึงออกมางูจงอางต่อสู้โดยการกัดลงไปอีกที นิ้วที่ง้างอยู่ก็หลุดคมเขี้ยวของงูก็ทิ่มนิ้วชี้อีกแผล 

 

ตอนนั้นรู้สึกว่าโดนครั้งเดียวก็แย่แล้ว พอโดนอีกครั้งก็มองว่าแย่แน่ๆ จึงบอกทีมงานให้ช่วยง้างปากงู จังหวะที่ง้างก็พยายามคลายตรงช่วงคอที่บีบไว้ เพราะถ้าเรายิ่งบีบงูยิ่งกัดไม่ปล่อย จังหวะที่คลายงูก็ปล่อย พอหลุดจากการกัดผมเห็นพิษสีเหลืองไหลตามพื้น นิ้วมือผมก็แดงฉานไปหมด รีบตั้งสติหาน้ำสะอาดมาล้าง ทำความสะอาดบาดแผลให้ได้มากที่สุด ช่วงเวลานั้นก็คิดถึงเรื่องต่างๆ ซึ่งบั่นทอนจิตใจมาก แต่ก็รีบตั้งสติแล้วปฐมพยาบาลตามที่เคยสอนแล้วรีบไปโรงพยาบาล

 

ขณะกำลังเดินทางก็มีความคิดว่า "ผมจะรอดไหม" มีช่วงที่รู้สึกว่านิ้วเริ่มบวมเริ่มปวด รู้สึกตัวว่าระบบประสาทเริ่มมีปัญหา เหมือนลอยๆ แต่ก็บอกน้องที่ขับรถให้ใจเย็นๆ ค่อยๆไป เพราะอาจจะเกิดอุบัติเหตุจากการขับรถได้ ระหว่างนั้นก็คิดขึ้นมาในหัว เป็นการบอกสิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่า ถ้าเกิดถึงเวลาของผมแล้วก็ไม่เป็นไร ผมก็ต้องไป แต่ถ้าอยากให้ผมทำสิ่งเหล่านี้ต่อไป อยากให้ช่วยทำให้ผมปลอดภัย

เมื่อถึงโรงพยาบาลต้องขอขอบคุณทางคุณครูที่ประสานกับทางโรงพยาบาล ว่ามีคนถูกงูจงอางกัดกำลังจะไปรักษา ทางโรงพยาบาลก็มีการเตรียมความพร้อม สังเกตตัวเองตอนนั้น เหมือนอาการมันเริ่มปกติขึ้น คือมีสติสัมปชัญญะทุกอย่าง เริ่มรู้สึกตัวว่าไม่น่าจะเป็นอะไร ดูที่นิ้วเหมือนจุดที่บวมเริ่มยุบลง แต่ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้รอดูอาการประมาณ 2 ชั่วโมง อาการไม่ปรากฏ แต่ทางคุณหมอและพยาบาลมีความกังวลว่า พิษอาจทำงานภายหลัง อาจจะเตรียมการไม่ทัน จึงมีการว่าปรึกษาว่าให้เซรุ่มเลยไหม จึงตัดสินใจฉีดเซรุ่ม แต่ผ่านไปประมาณ 20 นาที เริ่มมีอาการคันตามตัว คันฝ่ามือฝ่าเท่า เป็นอาการบ่งบอกว่า ผมแพ้เซรุ่ม จึงต้องยุติการให้เซรุ่มแล้วดูอาการต่อไป

 

ขณะนั้นก็มีการคิดถึงสาเหตุว่างูจงอาจตัวนั้นกัดได้อย่างไรจนหลับไป พอตื่นขึ้นมาความดัน ชีพจรปกติ แต่มีเรื่องการถ่ายท้องและอ่อนเพลียซึ่งอาจเป็นผลกระทบจากการแพ้เซรุ่ม เมื่อดูอาการว่าน่าจะปลอดภัยแล้ว แพทย์ก็ให้ออกจากโรงพยาบาล แต่ก็กำชับให้คอยดูอาการถ้ามีอะไรผิดปกติ ก็ให้รีบไปโรงพยาบาล ก็กลับไปที่โรงเรียนอีกครั้ง เพื่อขอบคุณคุณครูที่นั่น ซึ่งคุณครูบอกว่าพวกท่านบนบานหัวหมูให้ผมปลอดภัย 

และเนื่องจากคาใจ ก็มีการนำงูจงอางตัวดังกล่าวมาดูอีกครั้ง ว่าเพราะอะไรทำไมถึงกัดได้ พบว่า งูตาฝั่งขวาเสีย ตาฝั่งซ้ายปกติ ลักษณะคอดูแปลกๆ น่าจะหักหรืออะไรสักอย่าง ทำให้มั่นใจว่าสาเหตุที่งูจงอางตัวนี้กัดผมได้ เพราะลักษณะคอที่ผิดปกติ มันสามารถเบี่ยงมาในองศาที่เยอะมากกว่าปกติ และในจังหวะที่จับมีน้ำเปื้อนมือ การบิด เลยเป็นองค์ประกอบให้งูจงอางตัวนี้กัดผมได้