- 18 ธ.ค. 2568
อดีตทหารแนวหน้าศึกชายแดนไทย–กัมพูชา เปิดความจริงจากสนามรบ “เนิน 350” ชี้ไม่ใช่ปริศนาการปกปิด แต่คือความโหดร้ายของสงครามกลางดงกระสุน
เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2568 เฟซบุ๊ก พีระชาติ อินตา นายทหารที่เคยประจำอยู่แนวหน้าศึกชายแดนไทย-กัมพูชา ตัดสินใจตีแผ่ความจริงของ "เนิน 350" คนที่ไม่เคยอยู่กลางสนามรบจริงๆจะไม่เข้าใจ มันไม่ใช่เนินเขาป่ารกธรรมดา แต่คือ "นรกที่มองไม่เห็น"
ร่างทหารไทย 2 นายหายไปไหน? ทำไมมีคลิปทหารกัมพูชาปลดอาวุธโผล่โซเชียล? เจาะความจริงกลางไฟนรกเนิน 350
ผมจะเล่าความจริงให้ฟัง... บนเนิน 350 มันไม่มีคำว่าโชคช่วย และมันไม่ใช่เรื่องลึกลับหรือการปกปิดอย่างที่ใครเขาปั่นกระแสกัน แต่มันคือ "ความจริงของสนามรบ" ที่คนไม่เคยคลานอยู่ใต้ห่ากระสุนปืนจริง ๆ อาจจะไม่เข้าใจ
เนิน 350 มันไม่ใช่แค่เนินเขาป่ารกธรรมดา แต่มันคือนรกที่มองไม่เห็น ทั้งความมืด ทั้งกับระเบิดเก่าที่ฝังอยู่ใต้ดินแทบทุกตารางนิ้ว ทันทีที่เคลื่อนที่ขึ้นไปเพื่อกดดันพื้นที่ ฝั่งโน้นที่ครองชัยภูมิสูงกว่าก็เปิดฉากยิงสวนลงมาทันที เสียงอาวุธหนักกระแทกพื้นดินจนสะเทือนไปถึงกระดูก จินตนาการดูนะครับ ในความมืดสนิทที่มองแทบไม่เห็นฝ่ามือตัวเอง แต่กระสุนส่องวิถีวิ่งผ่านหัวไปไม่กี่นิ้ว ทุกย่างก้าวที่เหยียบลงไป... คือการเอาชีวิตเข้าแลกอย่างแท้จริง
พี่น้องทหารของเรา 2 นายที่อยู่แนวหน้าสุด พวกเขาใจเด็ดมาก เดินนำเข้าไปรับแรงปะทะก่อนใครเพื่อน แต่ในจังหวะที่ปะทะกันหนักที่สุด พวกเขาโดนยิงล้มลงในจุดที่เรียกว่า "พื้นที่สังหาร" (Killing Zone)คำว่าเข้าไปเอาออกมาไม่ได้ มันคือเรื่องจริงครับ ทุกครั้งที่เราพยายามจะขยับเข้าไปลากร่างเพื่อน กระสุนมันจะสาดลงมาดักตรงนั้นทันที เหมือนมันจ้องอยู่แล้ว แถมรอบตัวยังมีกับระเบิดไม่รู้กี่ลูก ถ้าเราฝืนดึงดันเข้าไปวินาทีนั้น เราจะไม่ได้เสียแค่ 2 คน แต่มันจะกลายเป็นความสูญเสียทั้งหมวด นี่คือเหตุผลที่ตอนแรกต้องใช้คำว่าสูญหาย เพราะสภาพหน้างานตอนนั้น มันไม่มีใครฝ่ากำแพงกระสุนเข้าไปยืนยันร่างได้จริง ๆ ไม่ใช่ว่ากองทัพไม่อยากบอกความจริง
ส่วนที่ถามกันว่า ทำไมถึงมีคลิปทหารกัมพูชาปลดอาวุธโผล่โซเชียล? ผมอยากให้ทุกคนตั้งสติและอย่าไปหลงกลเกมจิตวิทยาของเขา พื้นที่ตรงที่ทหารไทยล้มลง มันอยู่ใกล้กับฐานที่มั่นบนยอดเนินของฝั่งโน้นมากกว่า เขาแค่เดินลงมาไม่กี่ก้าวก็ถึงร่างเพื่อนเราแล้ว เขาฉวยโอกาสตอนที่การปะทะสงบลงมาถ่ายคลิป เพื่อปั่นหัวคนไทยให้ด่ากันเอง และอยากโชว์ว่าเขาคุมพื้นที่ได้ ทั้งที่จริง ๆ เขาแค่เข้าถึงร่างได้ก่อน เพราะชัยภูมิเขาอยู่เหนือหัวเราขึ้นไปแค่นั้น คลิปนั้นไม่ได้วัดฝีมือการรบเลย แต่มันคือการฉวยโอกาสทำสงครามประสาทใส่เราเท่านั้น
มาถึงวันนี้ 17 ธันวาคม 2568 ภารกิจมันไม่ใช่การตามหาคนหายแล้วแต่มันคือการ "พาวีรบุรุษกลับบ้าน" ความจริงมันชัดเจนและเจ็บปวดที่สุดคือพี่น้องเราทั้ง 2 นายเสียชีวิตในหน้าที่อย่างสมเกียรติ เราไม่ได้เสียสละเพราะเราอ่อนแอ แต่เราเสียคนกล้าที่สุดไปในจุดที่อันตรายที่สุด เท่าที่ทหารคนหนึ่งจะกล้าเดินเข้าไปเพื่อปกป้องผืนฟ้าและแผ่นดินไทย
อย่าให้คลิปไม่กี่วินาทีมาทำลายเกียรติของคนที่ยอมสละชีวิตเพื่อแผ่นดินเลยครับ ทหารไทย 2 นายนั้นไม่ได้หายไปไหน... ดวงวิญญาณของเขายังคงวนเวียนอยู่ตรงนั้น ยืนหยัดอยู่บนเนินนรกนั่นจนลมหายใจสุดท้าย เพื่อรอคอยวันที่เพื่อนจะพาเขากลับบ้าน เขาทำหน้าที่ของเขาจบแล้ว... เหลือเพียงพวกเราที่อยู่ข้างหลัง ที่จะต้องช่วยกันรักษาเกียรติภูมิของเขา ไม่ให้ใครเอาความตายของเขามาล้อเล่นหรือปั่นหัว
เลือดทุกหยดที่รินรดเนิน 350 จะถูกจารึกไว้ว่า ครั้งหนึ่งมีทหารไทยใจกล้า ยืนหยัดสู้จนตัวตายเพื่ออธิปไตยของพวกเราทุกคน เราจะพาเขากลับบ้านให้ได้... สัญญา
พีระชาติ อินตา ๑๗/๑๒/๒๕๖๘






