ตำรวจสอบสวนกลาง รวบแอดมินเว็ปพนันดัง คาสนามบินดอนเมือง สารภาพเดินทางไปกัมพูชา ดูแลระบบของเว็บไซต์ พนันออนไลน์

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ร่วมกันจับกุม นายณัฐพงษ์ฯ อายุ 25 ปี เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดชลบุรี ที่ จ.647/2568 ลงวันที่ 7 พฤศจิกายน 2568 กระทำความผิดฐาน “ร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวน โดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นในการเล่นทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน และร่วมกันฟอกเงิน”  โดยจับจับกุมได้ที่บริเวณโถงอาคารผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ อาคาร 1 ชั้น 2 ท่าอากาศยานดอนเมือง 


พฤติการณ์ทางคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้เข้าจับกุมตัว นายณัฐพงษ์ฯผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดชลบุรี หมายเลข จ.647/2568 ลงวันที่ 7 พฤศจิกายน 2568 ในข้อหา “ร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวน โดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นการพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน และร่วมกันฟอกเงิน” 
 

การจับกุมเกิดขึ้นบริเวณ ท่าอากาศยานดอนเมือง ขณะผู้ต้องหากำลังเดินทางกลับเข้าประเทศไทย หลังจากเดินทางมาจากเมืองเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา เจ้าหน้าที่จึงแสดงหมายจับและควบคุมตัวไว้เพื่อนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย 
จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า ผู้ต้องหาได้เดินทางออกไปทำงานเป็น แอดมินดูแลระบบของเว็บไซต์ พนันออนไลน์ ในฝั่งประเทศกัมพูชาจริง โดยผู้ต้องหาให้การยอมรับว่าเริ่มทำงานดังกล่าวมาเป็นระยะเวลาประมาณ 4–5 เดือนแล้ว

จับคาดอนเมือง แอดมินเว็บพนันดัง เพิ่งบินกลับมาจากกัมพูชา

ซึ่งลักษณะงานที่ได้รับมอบหมาย ได้แก่ การดูแลระบบหลังบ้านของเว็บไซต์ การตอบคำถามและให้บริการลูกค้าเกี่ยวกับ ขั้นตอนการฝาก–ถอนเงิน รวมถึงการประสานงานกับทีมงานภายในเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหานำส่งพนักงานสอบสวนส่ง สภ.เมืองชลบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป 

จับคาดอนเมือง แอดมินเว็บพนันดัง เพิ่งบินกลับมาจากกัมพูชา
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา 
 

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) เตือนภัย เจ้าหน้าที่ตำรวจขอฝากเตือนประชาชนว่า การรับงานหรือเดินทางไปทำงานในลักษณะดังกล่าว แม้จะอ้างว่าเป็นงานแอดมินหรือดูแลเว็บไซต์ แต่หากเกี่ยวข้องกับการพนันออนไลน์  ถือเป็นความผิดตามกฎหมาย มีโทษทั้งจำคุกและปรับ และอาจถูกดำเนินคดีภายหลังได้ แม้จะทำงานอยู่ในต่างประเทศก็ตาม