"วัน อยู่บำรุง" พูดตรงๆ ถึง "ลุงป้อม" หลัง ยื่น กกต. ลาออกพ้น พปชร.

วันที่ 25 ธันวาคม 2568 นายวัน อยู่บำรุง เดินทางไปยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยยืนยันว่า การตัดสินใจครั้งนี้เกิดจากสถานการณ์ภายในพรรคที่ไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้

 

นายวัน เปิดเผยว่า หลังจากมีกระแสข่าว พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ถอนตัวจากการเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ประกอบกับล่าสุดทราบว่า นายธีระชัย ภูวนารถนรานุบาล ได้ยื่นลาออกจากการเป็นแคนดิเดตนายกฯ อีกคนหนึ่ง ทำให้เห็นชัดเจนถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นภายในพรรค ซึ่งในสภาพเช่นนี้ตนไม่สามารถไปต่อได้ โดยเฉพาะเมื่อการเปิดรับสมัคร ส.ส. จะมีขึ้นในวันที่ 27 ธันวาคมนี้ จึงตัดสินใจมายื่นลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคในวันนี้

 

การลาออกดังกล่าว ส่งผลให้ตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคที่นายวันดำรงอยู่สิ้นสุดลงโดยอัตโนมัติ พร้อมระบุว่า จากนี้ขอใช้เวลาพักผ่อนและอยู่กับครอบครัว รวมถึงขอส่งกำลังใจให้เพื่อนสมาชิกพรรคพลังประชารัฐที่ยังคงลงสมัครรับเลือกตั้งในครั้งนี้

 

นายวัน ยังกล่าวขอบคุณ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ว่า "ขอบคุณลุงป้อมที่ตลอดระยะเวลา 1 ปี 5 เดือนที่ผมอยู่กับท่านท่านเมตตาเอ็นดูผมมาโดยตลอด"

 

เมื่อถามถึงแนวโน้มของพรรคพลังประชารัฐในการเลือกตั้งครั้งนี้ นายวัน ระบุว่า เพิ่งทราบข่าวว่ามีผู้ไปรอใบส่งตัวสมัครรับเลือกตั้งจำนวนมาก แต่ด้วยเวลาที่กระชั้นชิด ทำให้ยากจะปรับตัวได้ทัน พร้อมย้ำว่าการเมืองไม่ได้มีเพียงการเลือกตั้งครั้งเดียว จึงขอถือโอกาสพักไป 1 สมัย และรอดูสถานการณ์ในอนาคต

 

ส่วนกรณีกระแสข่าวก่อนหน้านี้ว่าจะย้ายไปอยู่พรรคโอกาสใหม่ นายวัน ชี้แจงว่า เป็นเพียงการไปพูดคุยทั่วไปกับ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ เนื่องจากเคยทำงานร่วมกับบิดาของตนในอดีต ไม่ได้มีปัญหาหรือความไม่ลงตัวใด ๆ แต่การตัดสินใจไม่ไปต่อทางการเมืองในขณะนี้ เป็นเพราะต้องการพักผ่อนมากกว่า

 

เมื่อถามว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าจะกลับมาอยู่กับพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ นายวัน กล่าวติดตลกว่า หากยังอยู่ก็คงไม่ลาออก พร้อมยอมรับว่าการเมืองเป็นเรื่องไม่แน่นอน และในช่วงเวลานี้อาจได้เห็นตนเองในบทบาทใหม่ โดยเฉพาะในวงการบันเทิงก็เป็นได้

 

นายวัน ยังกล่าวถึงบิดา ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ว่า ได้วางมือจากการเมืองแน่นอนแล้ว เนื่องจากอายุมากขึ้น ส่วนตัวตนเองอายุเพียง 51 ปี ยังมีเวลาในเส้นทางการเมืองอีกยาว และตั้งเป้าว่าจะทำงานการเมืองได้ถึงอายุ 65 ปี จึงขอพักเพียงรอบนี้เท่านั้น

สำหรับการมองหาพรรคการเมืองใหม่ในอนาคต นายวัน ระบุว่า ยังเร็วเกินไป ขอรอดูการเลือกตั้งครั้งนี้ก่อน พร้อมแสดงความกังวลถึงสถานการณ์ชายแดนที่ยังไม่เรียบร้อย อาจส่งผลต่อบรรยากาศวันเลือกตั้ง

 

เมื่อถูกถามถึงแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของแต่ละพรรค นายวัน ปฏิเสธให้ความเห็น โดยระบุว่าควรรอดูนโยบายและการหาเสียงก่อน ส่วนประเด็นความเหมาะสมไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์ใคร

 

ขณะที่กรณี น.ส.รักชนก ศรีนอก ไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคประชาชน นายวัน ระบุว่าไม่เกี่ยวข้อง พร้อมย้ำว่าตนไม่เคยกลัวผู้สมัครหรือพรรคการเมืองใด แต่การตัดสินใจลาออกในครั้งนี้ เป็นเพราะปัญหาภายในพรรคพลังประชารัฐที่รุนแรงในขณะนี้