- 25 ธ.ค. 2568
ใครจะคิด คำพูดแม่แท้ๆ ด.ญ. 12 ปี หลอกลูกสาวไปทิ้งไว้ที่ญี่ปุ่น เดือนต่อมาหนีกลับไทย - โกหกว่าจะไปรับ หลังล่าสุดโดนจับเรียบร้อย
หลังจากที่ตำรวจปราบปรามการค้ามนุษย์ หรือ บก.ปคม. รับตัว น.ส.ลักษณา อายุ 29 ปี แม่ที่ลวงลูกสาวแท้ๆ อายุเพียง 12 ปี ไปทำงานนวดแผนไทย แต่แฝงค้าบริการทางเพศที่ญี่ปุ่น กลับมาดำเนินคดีตามกฎหมายเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2568 ที่ผ่านมา ตามที่ได้รายงานไปแล้วนั้น
โดยพฤติการณ์ของ น.ส.ลักษณา คือ หลอกพาลูกสาวไปทำงาน แล้วบังคับให้ค้าบริการทางเพศ ตั้งแต่เดือนมิถุนายน เดือนต่อมาหนีกลับไทยเลย โกหกว่า เดี๋ยวจะไปรับกลับ ส่วนเงินที่ได้จากการทำงานก็โอนเข้าบัญชีแม่ พอลูกลาออกจากร้านก็ขู่ให้ไปทำงานกับร้านอื่น อ้างว่าถ้าไม่ทำงานครอบครัวก็จะไม่มีกิน จนสุดท้าย "เด็กหญิง" คิดได้ว่า แม่คงไม่มารับแล้ว เลยไปขอความช่วยเหลือกับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของญี่ปุ่น
ส่วน น.ส.ลักษณา สุดท้ายก็ไม่ได้กลับไปหาลูก เพราะข้ามไปค้าบริการต่อที่ไต้หวัน แล้วถูกตำรวจจับกุม เพราะอยู่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ก่อนที่ตำรวจไทยจะประสานขอรับตัวกลับมาดำเนินคดี แม้เธอจะยอมรับในข้อเท็จจจริง แต่ก็เลือกปฏิเสธทุกข้อหา อ้างว่าที่ทำไปเพราะไม่รู้กฎหมาย และยากจน
ขณะที่นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ได้พายายและป้าของเด็กหญิงวัย 12 ปี เดินทางมายังกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ หรือ บก.ปคม. เพื่อเข้าพบแม่ของเด็กหญิงวัย 12 ปี ซึ่ง ถูกควบคุมตัวและสอบปากคำอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ หรือ บก.ปคบ.
โดยป้าของเด็กหญิงวัย 12 ปี เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า ได้มีโอกาสพบเป็นระยะสั้นๆ ตอนนี้แม่เด็กยังไม่สามารถพูดได้ เพราะมัวแต่ร้องไห้อย่างเดียว อย่างน้อยที่สุดตนเองกับยายก็ดีใจที่น้องสาวกลับมาและได้กอดได้พูดคุยเล็กน้อย พร้อมกับร้องไห้ให้กันและกัน ส่วนสาเหตุที่น้องสาวพาหลานวัย 12 ปีไปค้าบริการทางเพศนั้นตนก็ไม่ทราบสาเหตุ ไม่ทราบว่าพาไปญี่ปุ่นไปทำไม รู้แค่ว่าแม่พาลูกไปดูลูกชายคนเล็กที่ญี่ปุ่นและอ้างว่าหลานอยากไป โดยจะพาหลานไปเดือนหนึ่ง เพราะเป็นช่วงปิดเทอม ซึ่งเป็นการพาหลานไปครั้งแรก แต่ต้องรอจากปากแม่เด็กอีกทีว่า สรุปแล้วพาลูกไปทำอะไรกันแน่
ทั้งนี้ ตัวแม่เด็กเดินทางไปต่างประเทศบ่อยครั้ง ส่วนใหญ่จะไปประเทศญี่ปุ่น สิงคโปร์ และไต้หวัน เพื่อไปนวด ด้วยความที่เรียนจบเพียงแค่ชั้น ม.2 มีวุฒิเพียงแค่นี้ จึงหางานที่ดีกว่านี้ไม่ได้แล้ว ซึ่งครอบครัวก็ไม่เคยทราบว่า แม่เด็กได้เคบทำงานแฝงเกี่ยวกับบริการทางเพศหรือไม่
พอผ่านมาหลายเดือน ตนได้ยินแค่ข่าวลือว่า มีเด็กหญิงวัย 12 ปีถูกแม่ลวงไปญี่ปุ่น ก็ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องจริง ไม่คิดว่าจะเป็นลูกหลานของตนเอง จนกระทั่งมีนักข่าวญี่ปุ่นมาสัมภาษณ์ เลยรู้ว่ากรณีนี้เกิดขึ้นกับหลานสาวตนเอง จึงร้องขอความช่วยเหลือกับมูลนิธิปวีณาและตนเองก็ยังไม่มีโอกาสได้พูดคุยกับหลานสาวตนเองเลย ทราบเพียงแค่ว่าตอนนี้อยู่ระหว่างการทำเรื่องช่วยเหลือกลับประเทศไทย
ส่วนตัวพอรับทราบว่า น้องสาวของตนพาหลานไปค้าบริการทางเพศ ก็รู้สึกโกรธและรู้สึกผิดหวังที่ญาติในประเทศไทยไม่มีใครรู้เรื่องมาก่อนเลยว่า ทำไมต้องพาน้องไปทำแบบนี้และทำไมต้องพาน้องไปด้วย ตอนนี้ที่บ้านไม่พอใจอย่างมากและรู้สึกเสียใจ






