บุกรวบ "อดีตนายแบบลูกครึ่ง" สารภาพสิ้นชีวิตพังเพราะยา

รวบอดีตนายแบบลูกครึ่ง ทิ้งรันเวย์ลอบตัดไม้หวงห้ามขายออนไลน์ เย้ยกฎหมายไม่สนหมายจับ สารภาพชีวิตพังเพราะยา

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) วางแผนล่อซื้อรวบตัวอดีตนายแบบและทหารพรานลูกครึ่งไทย-เยอรมัน หลังหนีคดีบุกรุกป่า แต่ยังไม่เข็ด หันมาลอบตัดไม้หวงห้ามโพสต์ขายโซเชียลอย่างโจ่งแจ้ง สารภาพสิ้นชีวิตพังเพราะยาเสพติด

 

บุกรวบ อดีตนายแบบลูกครึ่ง สารภาพสิ้นชีวิตพังเพราะยา

บุกรวบ อดีตนายแบบลูกครึ่ง สารภาพสิ้นชีวิตพังเพราะยา

 

วันที่ 25 ธันวาคม 2568 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก. และ พล.ต.ต.เอนก เตาสุภาพ ผบก.ปทส. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมนำโดย พ.ต.ท.หญิง ภิษัชกร เลิศวิลัย สว.(สอบสวน) กก.4 บก.ปทส. พร้อมกำลังชุดปฏิบัติการสืบสวนปราบปรามจังหวัดพิจิตร เข้าจับกุม นายวิลลี่ (นามสมมติ) อายุ 32 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดเพชรบุรี ที่ 361/2568

ที่บริเวณตำบลยางน้ำกลัดเหนือ อำเภอหนองหญ้าปล้อง จังหวัดเพชรบุรี หลังจากเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า นายวิลลี่ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาหลบหนีคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในคดีบุกรุกป่า ยังคงมีพฤติกรรมไม่เกรงกลัวกฎหมาย โดยการเข้าไปลักลอบตัดไม้หวงห้ามในเขตป่าสงวนและอุทยานแห่งชาติ เพื่อนำมาโพสต์ประกาศขายผ่านช่องทางออนไลน์ เจ้าหน้าที่จึงวางแผน “ติดต่อขอซื้อไม้” จนผู้ต้องหาหลงกลนัดหมายให้มารับที่บ้านพักเพื่อไปดูสินค้า ก่อนจะแสดงตัวเข้าจับกุม
 

บุกรวบ อดีตนายแบบลูกครึ่ง สารภาพสิ้นชีวิตพังเพราะยา

 

จากการสอบสวนเบื้องต้น นายวิลลี่ให้การรับสารภาพว่า ตนเองเคยเป็นบุคคลมีหน้ามีตาในสังคม เคยทำงานเป็นทั้งนายแบบและทหารพราน แต่ชีวิตต้องพลิกผันเมื่อเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด จนทำให้เสียงานและกลายเป็นคนว่างงาน เมื่อไม่มีรายได้จึงตัดสินใจหันมาลักลอบตัดไม้ในป่าเพื่อนำไปขายเลี้ยงชีพและประทังชีวิตระหว่างหลบหนีคดี

ข้อหาที่ถูกดำเนินคดี ความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 ความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 ความผิดตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ความผิดตาม พ.ร.บ.เลื่อยโซ่ยนต์ พ.ศ. 2545

 

บุกรวบ อดีตนายแบบลูกครึ่ง สารภาพสิ้นชีวิตพังเพราะยา

 

บก.ปทส. เตือน ซื้อไม้ผ่านโซเชียล เสี่ยงคุกฐาน "รับของโจร" ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งเตือนประชาชนว่า การซื้อไม้หวงห้ามผ่านสื่อสังคมออนไลน์มีความเสี่ยงสูง แม้ผู้ขายจะโพสต์ขายอย่างโจ่งแจ้งก็ไม่ได้หมายความว่าถูกกฎหมายเสมอไป หากไม้ไม่มีเอกสารสำแดงที่มาถูกต้อง ผู้ซื้ออาจถูกดำเนินคดีฐาน "รับของโจร" หรือผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ ซึ่งมีโทษทั้งจำและปรับ รวมถึงต้องชดใช้ค่าเสียหายทางสิ่งแวดล้อมให้แก่รัฐ

แจ้งเบาะแสการกระทำผิด : หากพบเห็นการลักลอบตัดไม้หรือขายไม้ผิดกฎหมาย ติดต่อสายด่วน บก.ปทส. 1136 หรือ Facebook: บก.ปทส. Greencop - Thailand