ระวังคุก"เลขาธิการแพทยสภา" เปิด4 ข้อหาหนัก แก้ใบรับรองแพทย์

วันที่ 27 ธ.ค.68 พล.อ.อ.นพ.อิทธพร คณะเจริญ เลขาธิการแพทยสภา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เตือนกรณีการแก้ไขหรือปลอมแปลงใบรับรองแพทย์ ย้ำชัดว่าไม่ใช่เรื่องเล็ก เพราะกระทบต่อความน่าเชื่อถือของวิชาชีพแพทย์ และความศักดิ์สิทธิ์ของเอกสารทางกฎหมาย พร้อมชื่นชม "หมอพูม" นพ.สาริน อาชานานุภาพ ที่นำกรณีดังกล่าวมาเผยแพร่เป็นอุทาหรณ์แก่สังคม

 

โดยระบุว่า "การแก้ไขใบความเห็นแพทย์ เป็นความผิดหลายข้อกฎหมาย" ในฐานะเลขาธิการแพทยสภา ขอชื่นชมและขอบคุณ "หมอพูม" Sarin Archananupap (นพ.สาริน อาชานานุภาพ) ที่นำเรื่องนี้มาแบ่งปันครับ กรณีนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก เพราะกระทบต่อความน่าเชื่อถือของ "วิชาชีพแพทย์" และความศักดิ์สิทธิ์ของเอกสารทางกฎหมายโดยตรง

สำหรับแนวทางการดำเนินการและข้อคิดเห็นเชิงกฎหมาย เพื่อประโยชน์แก่เพื่อนแพทย์และประชาชน มีประเด็นสำคัญดังนี้ครับ:

​1. ความผิดทางกฎหมายของผู้กระทำ (คนไข้)
​การแก้ไขใบรับรองแพทย์ด้วยตนเองถือเป็นความผิดอาญาร้ายแรง หลายกระทงครับ:

-​ความผิดฐานปลอมเอกสาร (ม. 264): การเติมข้อความ เปลี่ยนแปลงข้อมูล หรือปลอมลายเซ็นเพื่อให้ผู้อื่นเชื่อว่าเป็นเอกสารจริงที่ออกโดยแพทย์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

-ความผิดฐานใช้เอกสารปลอม (ม. 268): เมื่อนำไปยื่นต่อที่ทำงาน ถือเป็นการใช้เอกสารปลอม ซึ่งมีโทษเท่ากับการปลอมเอกสารนั้นๆ

-​ความผิดฐานฉ้อโกง (ม. 341): หากนำใบรับรองแพทย์ที่แก้ไขไปใช้เพื่อลางานโดยได้รับค่าจ้าง (ซึ่งปกติไม่มีสิทธิ์ลา) ถือเป็นการหลอกลวงเพื่อให้ได้มาซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด

-กรณีเอกสารราชการ (ม. 265): หากเป็นโรงพยาบาลรัฐ ใบรับรองแพทย์ถือเป็นเอกสารราชการ โทษจะหนักขึ้นคือ จำคุก 6 เดือน ถึง 5 ปี และปรับ 10,000 ถึง 100,000 บาท

 
ที่สำคัญมีการดำเนินคดีไปแล้วหลายคดีครับ และทำให้ ผู้นำไปใช้ มีความผิดตามกฎหมาย ถึงถูกออกจากงานไปแล้ว รวมถึงการนำ ใบความเห็นแพทย์เท็จไปเบิกประกันแล้วถูกดำเนินคดี ก็มีตัวอย่างมาแล้ว ดังนั้นอย่าทำเลยครับ ไม่คุ้มค่า
 

2. แนวทางการป้องกันสำหรับแพทย์ (ในอนาคต)
​เพื่อให้เอกสาร "สวยงาม" และ "ปลอดภัย" ผมมีข้อแนะนำเพิ่มเติมจากวิธีเดิมเป็นการส่วนตัวดังนี้ ครับ:

-​ใช้ระบบ Digital Certificate: ปัจจุบันหลายโรงพยาบาลเริ่มใช้ใบรับรองแพทย์ดิจิทัลที่ออกผ่านระบบ และมี QR Code สำหรับตรวจสอบความถูกต้อง (Verification) ซึ่งเป็นวิธีที่แก้ไขได้ยากที่สุด

-​เทคนิค "ปิดช่องว่าง" ที่รัดกุมกว่า (-) : * การใช้ตัวอักษรกำกับ: ในช่องวันลา นอกจากใส่เลข ๕ (5) ควรเขียนกำกับว่า (ห้า) วัน เพื่อป้องกันการเติมตัวเลขเพิ่ม (เช่น จาก 5 เป็น 15)

-​การขีดฆ่าแบบกากบาท (X): ในพื้นที่ว่างขนาดใหญ่ การขีดกากบาทใหญ่ๆ จะช่วยลดช่องว่างในการเติมข้อมูล

-​ระบุอาการให้ชัดเจน: การใช้ศัพท์เทคนิคควบคู่กับภาษาไทยที่รัดกุมจะทำให้คนทั่วไปเลียนแบบได้ยาก

-บันทึกสำเนา (Copy) เสมอ: อย่างที่คุณหมอทำคือการบันทึกในเวชระเบียน (Scanning หรือ Carbon copy) คือหลักฐานที่ดีที่สุดเมื่อเกิดคดีความ

​3. การดำเนินการเมื่อเกิดเหตุ
​หากคุณหมอหรือสถานพยาบาลพบการปลอมแปลงในชื่อของเรา

-​แจ้งความร้องทุกข์: ควรแจ้งความเพื่อลงบันทึกประจำวันหรือดำเนินคดี เพื่อเป็นการรักษาสิทธิและปกป้องชื่อเสียงของตนเองจากการถูกนำไปอ้างอิงในทางที่ผิด

-ทำบันทึกถึงเลขาธิการแพทยสภาหรือ ​แจ้งนิติกรแพทยสภา: หากกรณีนี้ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์วิชาชีพหรือต้องการคำปรึกษาทางจริยธรรม สามารถแจ้งมาที่ แพทยสภา (โทร 02-589-7700) เพื่อตรวจสอบและให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายในส่วนที่เกี่ยวข้องได้ครับ

 ​"ความซื่อสัตย์คือพื้นฐานสำคัญของการรักษา" ใบรับรองแพทย์ไม่ใช่แค่กระดาษลาหยุด แต่คือคำยืนยันทางวิชาชีพที่แพทย์มอบให้ด้วยความไว้วางใจ
 
การทำลายความไว้วางใจนั้นย่อมมีราคาที่ต้องจ่ายตามกฎหมาย 
 
​หมอพูมมีสำเนาใบที่ถูกต้องไว้ในระบบแล้วใช่ไหมครับ? หากต้องการให้ทางแพทยสภาช่วยประสานงานในส่วนไหนเพิ่มเติม สามารถแจ้งได้ทันทีครับ
 
ปีใหม่นี้ขอให้ ทุกท่านเที่ยวโดยความสุขสนุก สนานปลอดภัย แต่อย่าลืมดูปฏิทินนะครับ กลับไม่ทันแล้วใช้ใบความเห็นแพทย์เท็จเป็นอันตรายได้ครับ
สวัสดีปีใหม่ล่วงหน้าครับ 
หมออิทธพร

ขอบคุณ อิทธพร คณะเจริญ