- 06 ก.ค. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
นับได้ว่าเป็นเวลาหลายวันเเล้วที่เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายช่วยกันทำทุกวิถีทาง เพื่อช่วยทีมหมูป่าอคาเดมี่ทั้ง 13 ชีวิตที่ติดอยู่ในถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน หลังจากที่พบตัวเเล้วว่าอยู่จุดใดของถ้ำ โดยการค้นพบตัวในครั้งนี้นับถือเป็นเรื่องดี ที่ทั้ง 13 ชีวิตปลอดภัย พ่อเเม่ญาติๆของเด็กๆ ดีใจใหญ่กับข่าวดีในครั้งนี้ เเต่ก็ยังนำตัวทั้ง 13 คนออกมาไม่ได้ เนื่องจากน้ำในถ้ำยังมีปริมาณที่สูงอยู่ หน่วยก็ยังคอยช่วยดูแลเรื่องอาหารการกิน ผ้าห่ม อำนวยความสะดวกอย่างใกล้ชิด
ซึ่งได้มีโพสต์ล่าสุด ของทางเพจ Army times Thailand ซึ่งได้โพสต์ข้อความระบุถึงการทำงานว่า “สภาพเส้นทางในการลำเลียงเพื่อสนับสนุนขวดอากาศไปส่งให้นักดำน้ำในโถงถ้ำที่ 3 ไม่ง่ายที่จะผ่านไปแต่พวกเราลุยด้วยใจ”
เปิดภารกิจ พี่แซม จ.อ.สมาน กุนัน' เป็นนักทำลายใต้น้ำจู่โจมนอกราชการ (นทต.จู่โจม รุ่น 30) อายุ 38 ตำแหน่งงาน จนท.ตระเวนระงับเหตุฝ่าย รปภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บ.ท่าอากาศยานไทย จบชีวิตลง เพื่อช่วยหมูป่าให้รอด สุดยอด วีรบุรุษคำพูดของพี่แซม ในเพจส่วนตัว ที่ไปช่วยเด็กๆ ทีมหมูป่า
พล.อ ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ก่อนเป็นประธานประชุมบูรณาการขับเคลื่อนการแก้ปัญหาการจราจรในเขตกรุงเทพมหานคร และ ปริมณฑล ที่ ทำเนียบรัฐบาล วันนี้ (6 กค.2561) เกี่ยวกับกรณีการเสียชีวิตของอดีตหน่วยซีล ระหว่างการช่วยเหลือ 13 ชีวิตที่ยังติดอยู่ภายในถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน จ. เชียงราย ว่า เราก็พยายามทำอยู่ แต่การเสียชีวิตครั้งนี้ เกิดจากที่เขาเป็นลมระหว่างที่อยู่ใต้น้ำ โดยผู้ตายเป็นทหารเรือที่ลาออกไปทำงานอยู่ที่การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย และอาสาสมัครมาช่วยเหลือในปฎิบัติการ
“เราเสียใจกับครอบครัวด้วยนะหน่วยซีลก็ไม่เป็นไรเขาทำอยู่แล้ว อันนี้อาจจะร่างกายไม่แข็งแรงพอ แต่ก็เป็นลมไป เราเสียใจด้วย เพราะเขาอาสาสมัครมาช่วยส่งถัง ตัวเขาเองไม่คิดว่าจะเป็นลม “
ต่อข้อถามว่า การสูญเสียจะส่งผลต่อขวัญกำลังใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่หรือไม่ พล.อ ประวิตร กล่าวว่า หน่วยซีลพวกนั้นเขาแข็งแรงอยู่แล้ว เราให้กำลังใจเขาอยู่ตลอดเวลา
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีมาตราการพิเศษเพิ่มเติมเพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียอีกหรือไม่ พล.อ ประวิตร กล่าวว่า เขาใช้มาตราการทุกอย่างอยู่แล้ว ความสูญเสียนี้เป็นเรื่องส่วนบุคคล ไม่ใช่ความสูญเสียเป็นกลุ่ม ร่างกายอาจมีปัญหา มีโรคประจำตัว คงต้องไปตรวจสอบดูก่อน กรณีนี้ไม่ใช่สูญเสียที10-20 คน เป็นเรื่องบุคคล เพราะการทำงาน
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากนี้อาสาสมัครที่จะเข้าไปทำหน้าที่ช่วยเหลือ13ชีวิตจะต้องมีการตรวจสอบสุขภาพก่อนหรือไม่ พล.อ ประวิตร กล่าวว่า เขาเป็นหน่วยซีลเก่า เขาเคยอยู่และลาออกไป ตอนลาออกไป ร่างกายอาจไม่ฟิต ก็อาจจะเป็นได้ หรือเป็นโรคอะไรก็แล้วแต่ แต่เขามีเจตนาดี เพราะฉะนั้นขอสื่อไม่ต้องมาถาม เขามีเจตนาดีที่จะช่วยคน ตนว่าก็ต้องให้การสนับสนุนเขา เมื่อถามว่า ขณะนี้สภาพอากาศกำลังกดดันการปฎิบัติงานช่วย13ชีวิตหรือไม่
พล.อ ประวิตร กล่าวว่า เราเตรียมการไว้หมด ในการดูดน้ำ และมีเครื่องสูบน้ำที่จะดูดน้ำเพิ่มขึ้นอีกด้วย โดยทางต่างประเทศให้การช่วยเหลืออยู่ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าเมื่อเกิดกรณีสูญเสียจะทำให้เกิดแรงกดดันในการปฎิบัติงานหรือไม่ พล.อ ประวิตร กล่าวว่า ไม่กดดัน ก็จะให้ทำอย่างไร บอกมาสิ ตนจะทำ คุณไม่รู้ อย่าถาม เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงวิธีการนำ13ชีวิตออกจากถ้ำหลวง พล.อ ประวิตร กล่าวว่า กำลังหาทางอยู่ เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายกำลังดำเนินการไปตามขั้นตอนต่างๆ เพื่อดูว่าจะต้องนำทั่งหมดออกทางปล่องด้านบนไหม หรือจะเป็นทางน้ำ ส่วนกรณีที่ผู้อำนวยการศูนย์ปฎิบัติการช่วยเหลือ13ชีวิตที่ถ้ำหลวง ระบุว่าเจ้าหน้าที่ที่ปฎิบัติงานทุกคนเริ่มล้าในการทำงาน นั้น พล.อ ประวิตร กล่าวว่า ไม่ล้าหรอก เขามีพักทำงาน
ขอบคุณภาพ Army times Thailand