ให้กำลังใจ จูเนียร์ รามรงณ์ กัดฟันสู้แต่ไปไม่ถึงฝันชวดเหรียญทองแดงน่าเสียดาย

เริ่มต้นอย่างเป็นทางการกับพิธีเปิดอันงดงามสมกับเป็นเจ้าบ้านอย่างประเทศญี่ปุ่นจริงๆ กับ การแข่งขันมหกรรมกีฬาฤดูร้อนโอลิมปิก ครั้งที่ 32 โตเกียว เกมส์ 2020 ภายใต้การจัดงานพิธีเปิดแบบวิถีชีวิตใหม่ เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19
 

 

 

ในการนี้ทีมชาติไทยได้สิทธิ์ส่งนักกีฬาทำการแข่งขันในโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้ทั้งสิ้น 41 คนจาก 15 สมาคม 16 ชนิดกีฬา ประกอบด้วย กรีฑา, แบดมินตัน, มวยสากล, เรือพาย (เรือแคนู/คายัค กับ เรือกรรเชียง), จักรยาน, ขี่ม้า, กอล์ฟ, ยูโด, เรือใบ, วินด์เซิร์ฟ, ยิงปืน, ยิงเป้าบิน, ว่ายน้ำ, เทเบิลเทนนิส และ เทควันโด

และความหวังเหรียญอย่างที่สุดก็คือ เทควันโด ที่ล่าสุด จูเนียร์ รามณรงค์ เสวกวิหารี จอมเตะชายของไทยไปไม่ถึงฝัน พ่ายให้กับ วีโต้ เดลลากิลา จากอิตาลี ทำได้แค่ไปชิงเหรียญทองแดงให้กับทีมเทคควันโดไทย ก่อนที่จะพ่ายแพ้ให้กับ โอมาร์ ซาลิม จากฮังการี ไปอย่างน่าเสียดาย 
 

ยกแรก จูเนียร์พยายามเดินเข้าแรกกับ โอมาร์ ซาลิม ก่อนจะถูกเตะขึ้นขำไป 3 แต้ม แต่เจ้าตัวก็พยายามเดินหน้าเข้าใส่ต่อเนื่องและได้แต้มคืนกลับมาบ้าง ทั้งคู่แลกฝีเท้ากันอย่างสนุกก่อนที่จะจบไปด้วยนักสู้จากฮังการีขึ้นนำเพียง 15 - 12

ไทยสีแดง - ฮังการีสีน้ำเงิน

กลับมายกที่ 2 จูเนียร์ รามณรงค์ พยายามเดินหน้าเข้าใสอย่างต่อเนื่องแต่ก็ถูกคู่แข่งเตะใส่จนได้แต้มกลับไปอย่างต่อเนื่องนำอยู่ 22 - 12 ระหว่างนั้น จูเนียร์ รามณรงค์ เกิดมีอาการบาดเจ็บเล็กน้อยก่อนจะกัดฟันสู้ต่อ การแข่งขันเริ่มต้นอีกครั้งด้วยความดุเดือด แต่ดูท่าว่าจอมเตะไทยจะเสียเปรียบเล้กน้อย ก่อนจะจบยกที่สองที่ โอมาร์ ซาลิม ชนะได้อย่างขาดลอย 43 - 22

 

อย่างไรก็ตามยังมีลุ้นกับ  น้องเทนนิส พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ  ที่เข้าชิงเหรียญทองกับ อาดรีอานา เซเรโซ จากสเปน เวลา 19.30 น. วันนี้ ( 24 ก.ค. 64) ตามเวลาประเทศไทย