- 08 ก.ย. 2568
เอาหล่ะสิ "มาซาทาดะ อิชิอิ" พูดแล้ว หลัง "เจ ชนาธิป" โดน ผู้เล่นอิรักหวดขา ในเกมชิงถ้วยพระราชทานคิงส์ คัพ ครั้งที่ 51 รอบชิงชนะเลิศ
น่าเสียดายที่ป้องกันคิงส์คัพไม่ได้ หลังจากที่ทีมชาติไทย พ่าย อิรัก ไป 0 - 1 จากประตูของ โมฮานัด อาลี ซึ่ง มาซาทาดะ อิชิอิ หัวหน้าผู้ฝึกสอน ฟุตบอลชายทีมชาติไทย ให้สัมภาษณ์หลังการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์ คัพ ครั้งที่ 51 รอบชิงชนะเลิศ ว่า "เราไม่สามารถคว้าแชมป์คิงส์ คัพ ในครั้งนี้มาครอง นี่คือข้อความที่ผมต้องการจะสื่อสาร ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณแฟนบอลทุกท่านที่เดินทางมาชมมาเชียร์พวกเราในทั้งสองเกมที่ผ่านมา ครึ่งแรกเราก็เล่นเกมรับเยอะเกินไป ส่วนครึ่งหลังเราทำได้ดีขึ้นจากการแก้ไขในช่วงพักครึ่ง ผมมองว่าเราทำผลงานในครึ่งหลังได้ดีกว่าครึ่งแรก"
"จากการที่ครั้งนี้เรามีเวลาซ้อมทั้งหมด 1 สัปดาห์ ถ้าเราได้เก็บตัวอย่างต่อเนื่อง ก็คิดว่ามีโอกาสที่นักเตะไทยไปต่อในฟุตบอลโลก ในรอบคัดเลือกครั้งต่อไป ถ้ามองถึงผลการแข่งขัน อาจจะไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่เราคาดหวังเอาไว้ แต่รายละเอียดของเกมนักเตะทุกคนทำงานหนัก เพื่อเอาชนะในเกมนี้ สิ่งที่ทุกคนเห็นในวันนี้ ทั้งที่สนาม และหน้าจอทีวี น่าจะเห็น ความมุ่งมั่นตั้งใจของนักเตะทุกคนในเกมนี้"
"ไม่ใช่ว่าสตาฟหรือนักฟุตบอลเพียงแค่กลุ่มเดียวที่มีความมุ่งมั่นที่จะได้เห็นทีมไปได้ไกลในฟุตบอลโลก แต่รวมถึงสื่อมวลชนและแฟนบอล ถ้าเราร่วมด้วยช่วยกัน ผมคิดว่าเราสามารถไปถึงจุดนั้นได้ ก็อยากจะขอความร่วมมือตรงนี้ครับ หลายครั้งที่ผ่านมา ผมอาจจะไม่ได้สื่อสารอะไรมากมายต่อหน้าสื่อ ก็จะพยายามสื่อสารตรงนี้ให้มากที่สุด ขอบคุณทางกาญจนบุรี โดยเฉพาะผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน ที่ทำให้ทัวร์นาเมนต์นี้เกิดขึ้น"
"การวางแผน 11 ตัวจริงในเกมกับอิรักนั้น แน่นอนว่า เป้าหมายของเราในการมาแช่งขันคิงส์ คัพ ครั้งนี้ก็คือการคว้าแชมป์ แต่ก็ต้องมองถึงเกมต่อไป ทีเราจะต้องไปเจอกับ ไชนีส ไทเป ในเอเชียน คัพ รอบคัดเลือก ในเดือนหน้า"
"ส่วนการแก้ไขปัญหาเกมรับลูกกลางอากาศ และ การจบสกอร์? แน่นอนว่าเวลาเราเจอกับทัวร์นาเมนต์นานาชาติ และต้องเจอกับทีมที่อันดับฟีฟ่า แรงกิ้ง ดีกว่า ครึ่งแรก ผมคิดว่าเราป้องกันลูกกลางอากาศได้ดีอยู่ ส่วนครึ่งหลัง เวลาเราเจอทีมที่เหนือกว่าเรา ช่วงเสี้ยววินาที ที่เราผิดพลาดเราก็สามารถเสียประตูได้เลย ส่วนเกมรุก เมื่อวานทางสื่อก็ได้สอบถามว่าทีมชาติจำเป็นต้องมีโค้ชกองหน้าหรือไม่ ผมก็ตอบไปแล้วว่า ช่วงทีมชาติเรามีเวลารวมตัวกันน้อย
สิ่งที่จะเป็นประโยชน์ก็คือเวลาที่นักเตะเล่นในนามสโมสร ถ้าต้องการปรับปรุงที่สโมสรจะมีประโยชน์มากกว่า เพราะทีมชาติจะมีเวลารวมกันแค่ 7-9 วันเท่านั้น เราเองก็พยายามฝึกซ้อมเรื่องการจบสกอร์ด้วยเช่นกัน และผมมองว่าพอเป็นนักฟุตบอลอาชีพแล้ว เราจะมาซ้อมเรื่องการจบสกอร์ ในเรื่องเบื้องต้นอีก เพราะเราต้องซ้อมกันมาตั้งแต่เด็กๆ ในอคาเดมี ที่ต้องต่อเนื่องถึงจะส่งผลอนาคต โค้ชที่คอยดูแลก็มีส่วน ต้องสามารถสอนนักเตะได้ด้วย เรื่องนี้เป็นปัญหามาตั้งแต่บอลสโมสรหรือบอลเด็ก และมาถึงทีมชาติ"
"จังหวะใบแดงที่ 2 ของอิรัก นั้นผมก็ไม่อยากจะเชื่อเหมือนกันว่าฟุตบอลระดับนี้จะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก จังหวะสกัดลูกนี้มันเลวร้าย และไร้คลาสมาก และรุนแรงเกินไป และนักฟุตบอลอาชีพก็ไม่สมควรจะทำแบบนี้"
"ทั้งนี้ปัญหาที่คิดว่าต้องแก้เป็นการเร่งด่วนนั้น ตัวผมเองเรื่องการซ้อมหรือการจับคู่ในการดึงศักยภาพที่ดีที่สุดของนักเตะทุกคนออกมาให้ได้มากที่สุด ก็ต้องได้รับความร่วมมือจากปัจจัยอื่นๆ ตัวผมเหมือนเป็นแค่เสียงเล็กๆ เสียงหนึ่งเท่านั้น แต่ยังมีอีกหลายปัจจัย ยกตัวอย่างในไทยลีก ตอนนี้ ที่เปิดโควตาต่างชาติจำนวนเยอะมาก และทำให้นักเตะไทยในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้า และ เซ็นเตอร์แบ็ค ก็จะไม่ค่อยมีประสบการณ์ในการลงสนามมากเท่าที่ควร"
"ผมรู้สึกถึงความกดดันทุกเกม ไม่ใช่แค่เกมต่อไป เพราะตั้งแต่มาคุมทีมชาติ เวลากับทีมชาติค่อนข้างน้อย ก็มีความกดดันในทุกเกม" อิชิอิ ทิ้งท้าย
อย่างไรก็ตาม โปรแกรมนัดต่อไป ของ ทีมชาติไทย คือการทำศึกเอเชียน คัพ 2027 รอบคัดเลือก นัดที่ 3 และนัดที่ 4 ในช่วงฟีฟ่า เดย์ เดือนตุลาคม พบกับ ไชนีส ไทเป แบบไป-กลับ ในวันที่ 9 และ 14 ตุลาคม 2568 โดยจะมีการแจ้งรายละเอียดให้ทราบอีกครั้งในภายหลัง






