"Jewel Of Thailand" สุดอลังการ การออกแบบชุดประจำชาติ "น้ำตาล ชลิตา" ที่สุดของความประณีต ผสมผสานเทคโนโลยีล้ำสมัย !!!

 เปิดตัวกันไปเป็นที่เรียบร้อยสำหรับชุดประจำชาติ ที่สาว “น้ำตาล ชลิตา ส่วนเสน่ห์” มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2016 จะสวมใส่ในการประกวด Miss Universe ครั้งที่ 65 ที่ประเทศฟิลิปปินส์
      
อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าชุดประจำชาตินั้นมีชื่อว่า JEWEL of Thailand” ออกแบบโดย นายหิรัญกฤษฏิ์ ภัทรบริบูรณ์กุล ซึ่งเป็นผู้ประกวดแบบที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ 2 ปีซ้อน โดยเป็นผู้ที่ออกแบบชุด "ตุ๊กตุ๊ก ไทยแลนด์" ให้ "แนท อนิพรณ์" เมื่อปีที่แล้วด้วย และถือเป็น “งานศิลปะที่ รวมศาสตร์และศิลป์ในการผลิตและตัดเย็บชุดไทย” ที่รวมช่างศิลป์ไทยทุกแขนงมาทำงานร่วมมือกันมากที่สุดครั้งหนึ่ง ด้วยงานปักแบบเสื้อผ้าชั้นสูง Haute Couture (โอต์ กูตู) สร้างสรรค์ลายปักขึ้นใหม่แบบ Art Deco และ ประยุกต์จากงานออกแบบตกแต่งอย่างไทยในพระบรมมหาราชวัง และงานปักของ เลอซาจ (Lesage) คือการปัก ด้วยดิ้นทองผสมกับเพชรของ Swarovski นับแสนเม็ดบนชุดสีทอง เพื่อให้เกิดประกายแวววาวเมื่อกระทบแสงไฟ

 

      
ทั้งนี้นอกจากตัวชุดแล้วยังมีเครื่องประดับจำนวน 6 ชิ้น ประกอบด้วย รัดเกล้ายอด (เครื่องประดับศีรษะ) , ต่างหู, สร้อยคอ, พาหุรัด (เครื่องประดับต้นแขน), ปั้นเหน่ง (หัวเข็มขัด) และ สายเข็มขัด ซึ่งเครื่องประดับ ทั้งหมดผลิตด้วยวัสดุเงินแท้ชุบทองประดับเพชรคิวบิคเซอร์โคเนีย จากสวารอฟสกีทุกชิ้น ความพิเศษของเครื่องประดับที่สำคัญคือ “รัดเกล้ายอด” ซึ่งได้แรงบันดาลใจ การออกแบบจาก “รัดเกล้ายอดโบราณ” ปลายสมัยรัชกาลที่ 5

กำไลข้อมือ Swarovski คลิ๊ก
หินตาแมวหินไพฑูรณ์ คลิ๊ก

 

 

 

 

 

 

 

Jewel of Thailand จึงไม่เป็นเพียงชุดประจำชาติ แต่ยังเป็นความภาคภูมิใจที่ได้นำเสนอความสง่างาม ของชุดไทยพระราชนิยม เครื่องแต่งกายไทยที่สะท้อนคุณค่างานศิลป์ชั้นสูงในราชสำนักที่เปี่ยมด้วยความ ประณีตวิจิตรบรรจงที่ทรงคุณค่า และเป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าของประเทศไทย

 

รัดเกล้ายอด

 

ก่อนออกแบบได้ทำการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับศิราภรณ์/เครื่องประดับไทย จากครูบิ๊ก พีระมล ชมธวัช และความประทับใจ "รัดเกล้ายอดโบราณสมัยรัชกาลที่ 5" ตอนปลาย อายุกว่า 120 ปี ซึ่งเป็นยุคที่ศิลปะไทยรับอิทธิพลของศิลปะ Art Deco จากทวีปยุโรป งานเครื่องประดับไทยในยุคนั้นเริ่มมีการทอนรายละเอียดและโชว์โครงสร้างเป็นหลัก ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบสร้างสรรค์รัดเกล้ายอดชิ้นนี้ ให้มีความร่วมสมัย ผสมผสานกับงานสลักดุนโบราณแบบช่างสิบหมู่ โดยได้อาจารย์ชาติชาย คันธิก อาจารย์ประจำภาควิชาออกแบบเครื่องประดับ คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร เป็นผู้สร้างสรรค์ขึ้น ผสมผสานกับงานออกแบบเครื่องประดับด้วยเทคโนโลยีสามมิติ (3D CAD) และใช้การประกอบตัวเรือนด้วยช่างฝีมือที่ทำงานเครื่องประดับเพชรแท้ (fine jewelry)
รัดเกล้ายอดชิ้นนี้ออกแบบให้มีขนาดที่ใหญ่กว่าปกติโดยคำนึงถึงการใช้งาน/การนำเสนอในลักษณะ stage costume เพื่อให้สามารถมองเห็นแต่ไกล และสร้างอารมณ์ให้กับผู้ชมได้รู้สึกถึงความสง่างามและยิ่งใหญ่ของสถาปัตยกรรมในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ที่มีความ dramatic

 

 

 

 

 

ช้องผมและปิ่นดอกไม้ไหว

 

คือ เครื่องประดับที่ใช้ประกอบกับการรวบผมเป็นหางม้าที่บริเวณท้ายทอยประดับให้สวยงาม จึงออกแบบให้สอดคล้องกับรัดเกล้ายอดซึ่งใช้ประดับศีรษะคู่กัน โดยทอนลายไทยและอิงศิลปะ Art Deco เช่นเดียวกัน
 

 

 

ต่างหู

 

ใช้โครงสร้างของต่างหูแบบไทย แต่นำชิ้นส่วนต่างๆที่ได้ออกแบบไว้สำหรับเครื่องประดับทั้งหมด มาจัดเรียงประกอบเข้ากันใหม่ ให้มีความยาวพิเศษคล้ายกับต่างหูของชุดราตรี เพื่อเสริมให้ช่วงคอผู้สวมใส่เกิดความระหง

 

 

 

สร้อยคอ

 

ได้แรงบันดาลใจมาจากกรองพระศอในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ซึ่งออกแบบโดย Van Cleef & Arpels โดยนำโครงสร้างของลายกรวยเชิงของวัดใหญ่สุวรรณาราม มาใช้เป็นไอเดียในการออกแบบใหม่ และออกแบบให้มีขนาดใหญ่กว่าปกติเช่นเดียวกัน เพื่อการใช้งานในลักษณะ stage costume
 

 

 

 

พาหุรัด (เครื่องประดับต้นแขน)

 

ได้รับแรงบันดาลใจจากความงดงามของสุพรรณหงส์ ประกอบเข้ากับปีกและชิ้นส่วนเครื่องประดับไทยประยุกต์ โดยมีความพิเศษคือ ชิ้นศีรษะและปีกหงส์ใช้เทคนิคการสลักดุนลายแบบโบราณ และมีลูกเล่นที่ปีกหงส์สามารถขยับสั่นไหวได้
 

 

 

ปั้นเหน่ง (หัวเข็มขัด)

 

ออกแบบโดยนำชิ้นส่วนเครื่องประดับที่ออกแบบไว้มาประกอบรวมกันให้มีความงดงามในโครงสร้างของลายประจำยาม และทำให้มีขนาดใหญ่พิเศษ

 

 

 

แหวน

 

 

รองเท้า

 

 

   

โดยนอกจากการแสดงแบบชุดประจำชาติแล้วในครั้งนี้ยังได้มีการเปิดตัวชุดราตรี 3 ชุด ที่จะขึ้นแสดงบนเวทีประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2016 ด้วย ซึ่งชุดแรกเป็นผลงานการออกแบบและตัดเย็บจากห้องเสื้อ Surface โดยเป็น จัมป์สูท-กางเกง ปักเลื่อมทั้งตัว ด้านหนึ่งเป็นเลื่อมสีดำ อีกด้านหนึ่งเป็นเลื่อมสีทอง พร้อมผ้าคลุมไหล่ “ผ้าทอ ยกดอก ลำพูน” ซึ่งสั่งทอพิเศษขึ้นใหม่ ส่วนสร้อยคอเป็นเครื่องประดับที่จัดทำขึ้นใหม่โดยได้แรงบันดาลใจ จากกรองพระศอในพระสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ซึ่งทางน้ำตาลจะใช้ชุดนี้ในกิจกรรมที่ผู้เข้าประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2016 เข้าเยี่ยมคารวะประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ณ ทำเนียบมาลากันยัง และจะใช้ในงาน ประมูลของเพื่อการกุศลในตอนค่ำวันเดียวกัน

 

 

 

 

 

ชุดที่ 2 เป็นชุดราตรีผลงานการออกแบบและตัดเย็บโดย ฮุคส์ ประภากาศ (Hook’s Prapakas) เป็นชุดราตรีในรูปแบบชุดไทยสไบเฉียงเน้นความ Elegance และเรียบโก้ ตัดเย็บด้วยผ้าไหมไทยสีเหลืองมัสตาร์ด ชุดที่ 3 คือ ชุดราตรียาวผ้าไหมเนื้อเคปสีดำปักทั้งตัว ผลงานการออกแบบและตัดเย็บโดย อาซาวา (ASAVA) จุดเด่นอยู่ที่งานปักลายไทยทั้งชุด แต่ลดทอนลายให้มีความร่วมสมัยมากยิ่งขึ้น ประหนึ่งการผสมผสานระหว่าง แบบงานชุดฉลองพระองค์กับงาน แบบตะวันตกเพื่อให้เหมาะกับผู้สวมใส่ เพราะงานปักจะสื่อแสดงถึงอารยธรรม อันรุ่งเรืองและบ่งบอกความเป็นไทยในแบบสากล

 

 

 

      
ทั้งนี้การประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2016 จะมีขึ้น ณ มอลล์ออฟอารีน่า กรุงมะนิลา ประเทศสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ โดยมีสาวงาม 80 ประเทศ ร่วมชิงมงกุฎ โดยการประกวดชุดประจำชาติจะมีขึ้นในวันที่ 24 มกราคม 2560 ประกวดชุดราตรี (รอบ Preliminary) ในวันที่ 26 มกราคม 2560 และประกาศผลรางวัลชุดประจำชาติในวันประกวดรอบตัดสินในวันจันทร์ที่ 30 มกราคม 2560 ซึ่งสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีช่อง 3 ถ่ายทอดสดทางช่อง 3SD เวลา 07.00 - 10.00 น. แพร่ภาพอีกครั้งทางช่อง 3 ออริจินอลและ 3 HD ช่อง 33 เวลา 23.15 น. หลังรายการข่าว 3 มิติ

ติดตามเพิ่มเติม : ด่วน เริ่มวันนี้!!! เปิดโหวต "น้ำตาล ชลิตา" เป็น Miss Universe ได้ถึง 4 ช่องทางด้วยกัน (รายละเอียด)

 

 

 

เรียบเรียง : W Wannisa T-News