- 01 มี.ค. 2560
ติดตามเรื่องราวดีๆ อีกมากมายได้ที่ http://www.tnews.co.th
กรมหลวงชุมพรฯ ทรงเรียนวิชา “ระเบิดน้ำ” กับหลวงปู่ศุข
จากบันทึกของนายแพทย์สำนวน ปาลวัฒน์วิไชย ที่ออกสอบถามชาวบ้านคนเก่าแก่ที่มีชีวิตอยู่ เพื่อเขียนถึงการเรียนวิชาขมังเวทของเสด็จในกรมฯ กับหลวงปู่ศุข ได้บันทึกไว้เป็นใจความดังนี้
อันการเรียน “ระเบิดน้ำ” ของกรมหลวงชุมพรฯ นี้ นายแฉล้ม เอี่ยมรอด คนเก่าแก่ได้เล่าว่า (เล่าเมื่อวันที่ ๗ สิงหาคม ๒๕๒๑ และได้สอบถามเพิ่มเติมเมื่อวันที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๒๑) ได้มีการเรียนระเบิดน้ำกันในเดือน ๔ หลังจาก นายแฉล้ม บวชได้ประมาณ ๔ พรรษา ตกประมาณเดือนมีนาคม ๒๔๖๔
คราครั้งนั้น กรมหลวงชุมพรฯ ได้ฝึกเรียนระเบิดน้ำกับหลวงปู่ศุขที่โบสถ์น้ำหน้าวัด โดยเสด็จในกรมฯ นั่งบริกรรมอยู่บนโบสถ์น้ำพักหนึ่ง ก็กระโดดไปในน้ำตูมใหญ่ แต่กรมหลวงชุมพรฯ สามารถทนอยู่ใต้น้ำได้เพียง ๔ อึดใจใหญ่เท่านั้น แล้วพระองค์ก็ทรงโลดขึ้นมาบนผิวน้ำ จนผิวน้ำแตกกระจาย จากนั้นพระองค์ทรงกล่าวกับหลวงปู่ว่า “ทนไม่ไหว”
ผลการทดสอบเรียนระเบิดน้ำในวันแรกไม่อาจเป็นผลสำเร็จได้ ในวันรุ่งขึ้นกรมหลวงชุมพรฯ ได้ขอทดสอบผลการเรียนอีกครั้งหนึ่ง คราวนี้พระองค์มีความตั้งใจสูงแบบยอมตายถวายชีวิตกับวิชาพิเศษนี้ทีเดียว
ฝ่ายหลวงปู่ศุขก็เอาจริงเช่นกัน แต่ท่านก็มีความเสี่ยงเพราะศิษย์ท่านนี้มิใช่สามัญชน หากเป็นถึงโอรสของพระมหากษัตริย์ ทว่าศิษย์กับอาจารย์ต่างก็ “ใจถึง” ด้วยกัน โดยหลวงปู่นั้นถึงกับเตรียมไม้ถ่อค้ำเรือไว้อันหนึ่ง ไม้ถ่อนี้ท่านยืมมาจากเรือบรรทุกข้าวที่จอดอยู่หน้าวัด หลวงปู่บอกว่า “ถ้าโผล่ขึ้นมาอีกจะเอาไม้ถ่อค้ำคอ” ปรากฏว่าในการทดสอบครั้งที่ ๒ เสด็จในกรมฯ สามารถผ่านการทดสอบได้สำเร็จ คือทนอยู่ในน้ำได้ถึง ๓ ชั่วโมง แล้วจึงขึ้นบก
เช่าพระคลิ๊กที่นี่ เช่าพระที่นี่
เหรียญหลวงพ่อวัดศาลาลอยปี 2521 หนังสือพระเครื่องมหามงคล
ในบันทึกยังเล่าว่า หลวงปู่ศุขปลื้มใจมากที่ศิษย์เอกเรียนวิชานี้ได้สำเร็จ ท่านได้คุยให้ชาวบ้านและมัคนายก (มัคทายก) ฟังว่า การที่กรมหลวงชุมพรฯ เรียนครั้งนี้สำเร็จ เพราะได้ฝึกจิตได้สูงแล้วนั่นเอง
การเรียน “ระเบิดน้ำ” นี้ ทำในตอนกลางวัน หลังจากที่หลวงปู่ฉันเพลแล้ว โดยมีชาวบ้าน มัคนายก (มัคทายก) และพระเณรที่วัดร่วมดูอยู่ประมาณ ๒๐ - ๓๐ คน รวมทั้งพระภิกษุแฉล้ม (นายแฉล้ม เอี่ยมรอด) ผู้เล่าด้วย
ในบันทึกของนายแพทย์สำนวน ปาลวัฒน์วิไชย ยังกล่าวอีกว่า ได้มีโอกาสคุยกับนายเชื้อ แตงฉ่ำ บ้านหมู่ที่ ๕ ต.หาดท่าเสา อ.เมือง จ.ชัยนาท อายุ ๘๔ ปี ได้กรุณาเล่าให้ฟังว่า ตนเคยเห็นกรมหลวงชุมพรฯ เรียนระเบิดน้ำกับหลวงปู่ศุขด้วยตาตนเอง ดังนี้
ครานั้น ตัวผู้เล่ารู้ว่ากรมหลวงชุมพรฯ เสด็จมาที่วัดปากคลองมะขามเฒ่า เพราะผู้ใหญ่บ้านบอกเมื่อตนไปที่วัดก็เห็นกรมหลวงชุมพรฯ ซึ่งสักตามตัวจนดูดำไปหมด ได้ถือดอกไม้ธูปเทียนเดินตามหลวงปู่ไปที่แพโบสถ์น้ำ
เมื่อพิธีเริ่มขึ้นกรมหลวงชุมพรฯ ลงไปที่แพโบสถ์น้ำต่อหน้าหลวงปู่ศุข ผู้เป็นอาจารย์ซึ่งนั่งบริกรรมอยู่ ครั้นแล้วพระองค์ท่านได้กระโดดลงไปในน้ำ ดำผุดดำโผล่อยู่หลายครั้ง ครั้งสุดท้ายหลวงปู่จับพระเศียรกรมหลวงชุมพรฯ กดลงไปในน้ำ คราวนี้เสด็จในกรมฯ จมหายลงไปในน้ำนานมากเป็นชั่วโมง ๆ จนนายเชื้อเองคิดว่าเสด็จในกรมฯ ต้องสิ้นพระชนม์แน่คราวนี้
ทว่า ท่าทีสีหน้าของหลวงปู่มีแต่ความมั่นใจในตัวเองเป็นอย่างสูง ไม่ได้มีความวิตกกังวลแม้แต่น้อย เวลาผ่านไปจนพิธีเสร็จ กรมหลวงชุมพรฯ โผล่ขึ้นมาแล้วปีนขึ้นแพโบสถ์น้ำ ทำให้นายเชื้อ หายใจโล่งอก
หลวงปู่ศุขได้เดินขึ้นฝั่งไปที่กุฏิ มีเสด็จใจกรมฯ เดินตามและพากันขึ้นไปบนกุฏิ
ยังมีเรื่องการเรียนระเบิดน้ำของกรมหลวงชุมพรฯ อีกเรื่องหนึ่ง จะเป็นการเรียนระเบิดน้ำขั้นต้นหรืออย่างไรก็สุดจะสันนิษฐานได้ เพราะเป็นเรื่องของการ “แอบดู” และได้เห็นมา ดังนี้
นางหีบ สุขทอง เป็นผู้เล่าเมื่อวันที่ ๔ พฤษภาคม ๒๕๒๓ มีใจความว่า คราวนั้น นางหีบได้คลอดบุตรและกำลังอยู่ไฟในตอนกลางวัน สามีของตนชื่อนายยอด ได้ทราบจากผู้ใหญ่อุ่น ศุภรัตน์ ว่าตอนกลางคืนกรมหลวงชุมพรฯ จะเรียนระเบิดน้ำ จึงได้ชวนกันไปแอบดู
หลวงปู่ศุขและกรมหลวงชุมพรฯ ฝึกเรียนกันในตอนเที่ยงคืนวันเพ็ญเดือน ๑๒ มีทหารควบคุมทางเข้าทุกทางไม่อนุญาตให้ใครเข้าไปดู หลวงปู่เดินนำกรมหลวงชุมพรฯ ลงไปในน้ำตรงต้นมะเดื่อหน้าวัดทางทิศใต้ กรมหลวงชุมพรฯ ถือเทียน ๗ เล่ม พนมมือ หลวงปู่ศุขเอาบาตรครอบพระเศียรกรมหลวงชุมพรฯ แล้วกดลงไปในน้ำ
เสด็จในกรมฯ ทะลึ่งพ้นน้ำขึ้นมาถึง ๒ ครั้ง จนหลวงปู่ศุขต้องกล่าวว่า “จะไม่เอาหรือไง ตัดสินใจให้ดี” คราวนี้หลวงปู่กดบาตรที่ครอบพระเศียรลงไปนานมาก เสด็จในกรมฯ จึงโผล่ขึ้นเหนือน้ำและเทียนดับหมด
เรื่องนี้จะเป็นการเรียนวิชาอะไรไม่ทราบแน่นอน เพราะนายยอดเป็นผู้เล่าให้นางหีบฟัง
อันวิชา “ระเบิดน้ำ” นี้ ก็เป็นวิชาเดียวกับที่ไกรทองใช้ลงไปปราบชาละวัน จระเข้ใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ ในตำนานท้องถิ่นไทยนั่นเอง คือการจุดเทียนส่องลงไปใต้น้ำโดยเทียนไม่ดับ
ว่ากันว่า น้ำจะระเบิดเป็นช่องลงไปในบาดาล ผู้สำเร็จวิชานี้จะสามารถเดินไปในน้ำและหายใจดุจบนบก ไม่มีอันตรายใด ๆ
เป็นที่คาดกันว่า การที่กรมหลวงชุมพรฯ ต้องการเรียนวิชานี้เพื่อคิดช่วยชาติบ้านเมืองในยามคับขัน โดยใช้ยุทธวิธีลงไปในน้ำระเบิดเรือรบข้าศึก
ที่มา พระกรุ เกจิยุคเก่า
ศักดิ์ศรี ทีมข่าวปัญญาญาณ รายงาน


