“สมเด็จพระสังฆราช” มีพระบัญชาให้คณะสงฆ์ร่วมแก้ปัญหาธรรมกาย “ไพศาล”เผยระงับอธิกรณ์ธุระสำคัญที่พระเจ้าอยู่หัวทุกพระองค์ทรงอาราธนาไว้???

จากกรณีนายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงปัญหาวัดพระธรรมกาย และพระ 4 ท่าน คือ สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ (สมศักดิ์ อุปสโม) เจ้าอาวาสวัดพิชยญาติการาม เจ้าคณะใหญ่หนกลาง  พระพรหมมุนี (สุชิน อคฺคชิโน) พระเลขาสมเด็จพระสังฆราชฯวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร พระพรหมโมลี (สุชาติ ธมฺมรตโน) เจ้าคณะภาค 5 ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ท่านเจ้าคุณประยูร พระพุทธวรญาณ เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศ์ จะพูดคุยกับสำนักงานพระพทุธศาสนาแห่งชาติ หรือ พศ. รวมทั้งกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ล่าสุดวันนี้นายไพศาล พืชมงคล ผู้ช่วยกรรมการองนายกรัฐมนตรี(พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ)ได้เปิดเผยกรณีดังกล่าวด้วย โดยโพสต์ไว้ในเฟซบุ๊กส่วนตัว มีเนื้อหาทั้งหมดว่า

นี่คือการทำลายพุทธศาสนา!!!

การว่าจ้างคนต่างด้าว และชาวบ้าน จากต่างจังหวัด แม้กระทั่งคนเข็ญผักจากตลาดแถบนั้น ให้ปลอมเป็นพระ

โดยโกนหัวห่มเหลือง แล้วมาร่วมชุมนุมเพื่อปกป้องธัมมชโย

เป็นการกระทำของกบฏผีบุญ เป็นกบฏต่อแผ่นดิน เป็นการทำลายพระพุทธศาสนา

เป็นการชักนำ ให้เกิด พวกเดียรถีย์เข้ามาปลอมเป็นพระ ห่มจีวรก็ไม่เป็น อุปฌาย์ก็ไม่มี ไม่ได้เข้าพิธีบวชจริง ฉายาทางพระ ก็ไม่มี พิธีกรรมอะไรก็ทำไม่ได้

มีแต่จะสร้างแบบแผนอลัชชีเดียรถีย์ขึ้นในพุทธศาสนา

การกระทำเช่นนี้จึงเป็นหน้าที่ของรัฐบาลและคณะสงฆ์ที่จะต้องร่วมกัน แก้ไขจัดการ จึงจะเรียกว่าเป็นการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา

สำหรับคณะสงฆ์นั้นบัดนี้สมเด็จพระสังฆราชทรงมีพระบัญชาแล้วให้คณะสงฆ์ร่วมกันแก้ไขปัญหาธรรมกาย

ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่โดยตรง ของเจ้าคณะหน เจ้าคณะภาค เจ้าคณะจังหวัดและเจ้าคณะต่างๆ

โดยเฉพาะเจ้าคณะหนกลาง เจ้าคณะภาคกลางและเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ที่จะต้องร่วมกัน รับสนองพระบัญชาสมเด็จพระสังฆราชโดยตรงและแข็งขัน

วันนี้ก็ชื่นใจหน่อยนึง ที่ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ได้ปฏิบัติในทางที่เห็นได้ชัดว่าสนองพระบัญชาสมเด็จพระสังฆราช

เจ้าคณะอื่นอื่นก็ควรจะต้องรีบดำเนินการ

และจะต้องตระหนักว่าการระงับดับอธิกรณ์ในพระพุทธศาสนานั้นเป็นธุระสำคัญที่พระเจ้าอยู่หัวทุกพระองค์ทรงอาราธนาไว้ เมื่อครั้งที่ทรงพระราชทานตราตั้งให้ดำรงตำแหน่งต่างๆ ในสังฆมณฑล อย่าทอดธุระนั้นเสีย

บางรูปแม้เคยรับอามิสและอุปถัมภ์กันมา ก็รู้ๆกันอยู่ แต่เมื่อถึงวันนี้ สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว รัฐบาลได้ เอาจริงเอาจังในเรื่องนี้แล้ว

สมเด็จพระสังฆราชก็ทรงมีบัญชาพระบัญชาแล้ว

ดังนั้นถ้าหากยังทอดธุระอยู่ ก็เป็นความรับผิดชอบของพระเดชพระคุณซึ่งต้องไม่ลืมว่า ชาวพุทธเขาจับตามองกันอยู่

ขออาราธนาพระเดชพระคุณทั้งหลายได้ร่วมกัน ฟื้นฟูทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาโดยพร้อมเพรียงกันเถิด

เรียบเรียงโดย : ศิริพงศ์ สำนักข่าวทีนิวส์

ขอบคุณเฟซบุ๊ก : Paisal Puechmongkol