ถึงขึ้นอาบัติปราชิก!! อ.เจษฎ์ ชี้กรณี..เจ้าอาวาสวัดดัง ฝึกสามเณรปิดตาทายสี ทายเลข เผย..แค่เรื่องแหกตา หวั่นซ้ำรอย "โรงเรียนพลังจิต" (ชมคลิป)

 

             จากกรณีที่ เป็นกระแสอยู่ในขณะนี้ เกี่ยวกับ เจ้าอาวาสวัดดัง นครสวรรค์ สอนสมาธิสามเณรน้อยโดยมีการให้สามเณรปิดตาและทายสิ่งที่อยู่ตรงหน้าว่าคืออะไร หลังจากมีการเผยแพร่ข่าวสาร รวมถึงคลิปวิดิโอ ก็ได้มีชาวเน็ตและสังคมได้ตั้งคำถามถึงพฤติกรรมของเจ้าอาวาสวัดดังกล่าวว่า การกระทำดังกล่าวนั้น เป็นการอวดอุตริหรือไม่ และการกระทำดังกล่าวนี้ เป็นการทำผิดธรรมวินัย ขึ้นขั้นปราชิกได้เลย 

อ่านข่าวเพิ่มเติม : อวดอุตริหรือฝึกสมาธิ ?!! โซเซียลเสียงแตก กรณีวัดดัง ฝึกสามเณรนั่งสมาธิ จนเข้าถึงฌานมองเห็นวัตถุที่อยู่ตรงหน้าได้ (ชมคลิป) !!

 

 

 

              ล่าสุดทางเพจ อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ ได้เผยแพร่ข้อความแสดงความคิดเห็นได้อย่างน่าสนใจ ถึงกรณีที่เจ้าอาวาสวัดดังสอนสมาธิให้สามเณร และฝึกปิดตา ทายสี ทายของ โดยระบุข้อความว่า

 

            อันนี้เรื่องใหญ่นะครับ !! วัดหนึ่งที่นครสวรรค์ เจ้าอาวาสให้เณรมาฝึกปิดตา ทายของ ทายสี ทายเลขได้อย่างแม่นยำ โดยอ้างว่าเกิดจากญาณที่ได้จากการนั่งสมาธิ

             นี่มันเรื่องแหกตากันชัดๆนะครับ !! เณรทายถูกก็เพราะแอบมองลอดช่องของผ้าปิดตา ไม่ใช่ว่ามีญาณวิเศษอะไร ... เรื่องพวกนี้ ผมกับเพื่อนเคยเปิดโปงไปแล้วกับกรณี "โรงเรียนพลังจิต Power Mind Camp" หลายปีก่อน (ดูข่าว https://youtu.be/kKJzbTRWZRU)

             ข้อเสียมากๆ ของเรื่องนี้คือ เด็กเณรถูกทำให้เชื่อว่าตัวเองมีความสามารถพิเศษ และเมื่อรู้ตัวภายหลังว่าไม่จริง ก็จะสูญเสียความมั่นใจไป (ตอนเราทดสอบพิสูจน์น้องจาก power mind camp ด้วยการครอบถุงดำทั้งหัว แล้วน้องทำไม่ได้เลย ก็ร้องไห้กันใหญ่ น่าสงสารมาก)

              อีกเรื่องใหญ่คือ ในวินัยสงฆ์เนี่ย การอวดอุตริมนุสธรรมว่าตนเองมีคุณวิเศษหรือบรรลุธรรมอย่างสูงที่เกินปกติของมนุษย์สามัญโดยไม่มีในตนเนี่ย เป็นอาบัติขั้นปาราชิกเลยนะครับ ได้สึกกันระนาว

 

 

ทั้งนี้ก็ได้มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นถึงประเด็นนี้กันอย่างมากมาย

 

 

 

             

 

              สำหรับ กรณี Power Mind Camp หากย้อนไป เมื่อหลายปีก่อน เป็นค่ายที่เปิดรับเด็กในวัย 6-12 ปี เข้าฝึกฝนความสามารถพิเศษ เรียกหลักการนี้ว่า ทักษะในการใช้สมองส่วนกลาง โดยเจ้าของสถาบัน คือคุณ ตัน เคง ชวน ชาวจีน และภรรยาชาวไทย คุณดรุณี จันทกิจ หรือ ครูดาว ที่ร่วมมือกันเปิดโรงเรียนสอนพัฒนาสมองให้เหตุผลที่ว่า ต้องการให้เด็กมีพัฒนาการทางด้านจิตใจและสมอง ทำให้สมองส่วนซ้าย-ขวา สมดุลกันมากขึ้น

              เคยมีการพิสูจน์ ทดสอบปิดตาทายไพ่ 2 ใบที่ประกบกันไว้ เด็กๆที่เคยทดสอบในรายการทูไนท์ โชว์ ได้มีการแง้มไพ่ เพื่อดมกลิ่นรับคลื่นจากไพ่ ซึ่งคุณหมอเจเชื่อว่า การแง้มไพ่ทำให้เด็กเห็นตัวเลขได้ จึงขอเย็บแม็กซ์ที่ไพ่บริเวณตัวเลข เพื่อให้เด็กมองไม่เห็นตัวเลข ซึ่งเด็กที่ทำการทดสอบอ้างว่าเมื่อใช้แม็กซ์ที่ไพ่ ทำให้ไม่สามารถรับกลิ่นได้ การทดสอบนี้จึงไม่ผ่านเช่นกัน หลังจากนั้น ในการทดสอบปิดตาทายสีลูกปัดในถุงให้ถูกติดต่อกัน 5 ครั้งแทน หรือให้หยิบลูกปัดในถุงมาวางเทียบกับสีตัวอย่างข้างนอกให้ถูก 5 ครั้งติดต่อกันก็ได้ ก็เกิดปัญหาขึ้นอีก อาทิ การร้องขอให้เปลี่ยนสีลูกปัดที่ดูคล้ายกันออกไป โดยอ้างว่าลูกปัดที่มีอยู่สะท้อนแสงเกินไป และเป็นคริสตัล ทำให้คลื่นที่รับรู้กระจายออกไป พอสัมผัสแล้วก็เกิดความสับสนทายไม่ถูก ซึ่งท้ายที่สุดแล้วเด็กๆก็ไม่สามารถทำได้เหมือนตอนที่ออกรายการ

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : เพจ อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์

ขอบคุณคลิปจาก : https://www.youtube.com/watch?v=kKJzbTRWZRU&feature=youtu.be