- 11 พ.ค. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
การจะครองเรือนให้เป็นสุขนั้นไม่ว่าจะเป็นสามีหรือภรรยาก็ต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน ไม่ประทุษร้ายต่อกัน ซื่อสัตย์ต่อกัน มีความเอื้อเฟื้อซึ่งกันและกัน มีศีลธรรมเสมอกัน จึงจะทำให้ชีวิตคู่ดำเนินไปอย่างราบรื่นและเป็นสุข แต่ถ้าฝ่ายหญิงหรือชายไม่ให้เกียรติกัน ประทุษร้ายต่อกัน ไม่ซื่อสัตย์ ไม่เอื้อเฟื้อกัน มีศีลธรรมไม่เสมอกัน ก็ย่อมทำให้ชีวิตคู่ไม่เป็นสุข
อย่างไรก็ดีในคติความเชื่อทางพระพุทธศาสนา สำหรับในส่วนของภรรยานั้น พระพุทธเจ้าได้ทรงจำแนกไว้ ๗ จำพวก ดังปรากฏใน พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๓ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๕ อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต ข้อที่ [๖๐] ภริยาสูตร
http://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=23&A=1977&Z=2035
โดยขอสรุปใจความดังนี้
ครั้งหนึ่ง พระพุทธเจ้าได้ทรงเสด็จไปยังนิเวศน์ของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ในระหว่างนั้นเสียงอื้ออึงจากคนทั้งหลายก็ดังออกมาจากในนิเวศน์ ราวกับชาวประมงที่แย่งปลากัน พระพุทธเจ้าจึงได้ตรัสถามอนาถบิณฑิกเศรษฐี จึงได้รับคำตอบว่า เพราะนางสุชาดาผู้ที่ตนเองนำมาจากตระกูลมั่งคั่งเพื่อมาเป็นสะใภ้ในเรือนนั้น นางไม่ยอมเชื่อถือ แม่ผัว พ่อผัว สามี หรือแม้แต่พระผู้มีพระภาคเจ้านางก็ไม่เคารพนับถือ
พระผู้มีพระภาคทราบดังนั้น จึงตรัสเรียกนางสุชาดามา แล้วทรงถามว่านางเป็นภริยาจำพวกไหนในภรรยา ๗ จำพวก ได้แก่
ประเภทที่ ๑ ภริยาเสมอด้วยเพชฌฆาต หรือเรียกว่า "วธกาภริยา" เป็นภริยาผู้มีจิตประทุษร้าย ไม่อนุเคราะห์ด้วยประโยชน์เกื้อกูล ยินดีในชายอื่น ดูหมิ่นสามี พยายามจะฆ่าผัว
ประเภทที่ ๒ ภริยาเสมอด้วยโจร หรือเรียกว่า " โจรภริยา" เป็น ภริยาปรารถนาจะยักยอกทรัพย์ของสามีที่หามาได้
ประเภทที่ ๓ ภริยาเสมอด้วยนาย หรือเรียกว่า "อัยยาภริยา" เป็นภริยาที่ไม่สนใจการงาน เกียจคร้าน กินมาก ปากร้าย ปากกล้า ร้ายกาจ กล่าวคำหยาบ ข่มขี่ผัวผู้ขยันขันแข็ง
ประเภทที่ ๔ ภริยาเสมอด้วยมารดา หรือเรียกว่า "มาตาภริยา" เป็นภริยาที่อนุเคราะห์ด้วยประโยชน์เกื้อกูลทุกเมื่อ ตามรักษา สามีเหมือนมารดารักษาบุตร รักษาทรัพย์ที่สามีหามาได้ไว้
ประเภทที่ ๕ ภริยาเสมอด้วยพี่สาวน้องสาว หรือเรียกว่า " ภคินีภริยา" เป็นภริยาที่เป็นเหมือนพี่สาวน้องสาว มีความเคารพในสามีของตน เป็นคนละอายบาป เป็นไปตามอำนาจสามี
ประเภทที่ ๖ ภริยาเสมอด้วยเพื่อน หรือเรียกว่า “สขีภริยา” เป็นภริยาที่เห็นสามีแล้วชื่นชมยินดี เหมือนเพื่อนผู้จากไปนานแล้วกลับมา เป็นหญิงมีตระกูล มีศีลมีวัตรปฏิบัติสามี
ประเภทที่ ๗ ภริยาเสมอด้วยทาสี (ทาส) หรือเรียกว่า “ทาสีภริยา” เป็นภริยาที่สามีเฆี่ยนตี ขู่ตะคอก ก็ไม่โกรธ ไม่คิดพิโรธโกรธตอบสามี อดทนได้ เป็นไป ตามอำนาจสามี
ภริยาที่เสมอด้วยเพชฌฆาต ภริยาที่เสมอด้วยโจร ภริยาที่เสมอด้วยนาย ทั้ง ๓ จำพวกนั้น พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า ล้วนแต่เป็นคนทุศีลหยาบช้า ไม่เอื้อเฟื้อ เมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงนรก (นั่นคือการไปเกิดในภพภูมิต่ำ)
ส่วนภริยาที่เสมอด้วยมารดา ภริยาเสมอด้วยพี่สาวน้องสาว ภริยาที่เสมอด้วยเพื่อน ภริยาที่เสมอด้วยทาส ทั้ง ๔ จำพวกนั้น เมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงสุคติ (นั่นคือการได้ไปเกิดในภพภูมิที่ดี)
จากนั้น… พระพุทธเจ้าจึงทรงตรัสถามนางสุชาดาว่า "เธอเป็นภริยาจำพวกไหนใน ๗ จำพวกนั้น"
นางสุชาดา จึงตอบว่า “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ขอพระผู้มีพระภาค
โปรดทรงจำหม่อมฉันว่า เป็นภริยาของสามีผู้เสมอด้วยทาสี ฯ”
(สามารถศึกษา ภริยาสูตร ฉบับเต็มได้ที่ http://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=23&A=1977&Z=2035)
อ้างอิงข้อมูลจาก : พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๓ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๕ อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต ข้อที่ [๖๐] ภริยาสูตร http://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=23&A=1977&Z=2035
เครดิตภาพ : Napapawn






