เสียงกัมปนาทจากขวานวิเศษ!! เปิดตำนาน "มณีเมขลากับรามสูร" ปรากฏการณ์ฟ้าแลบ ฟ้าผ่า ด้วยการเนรมิตของนางฟ้าและเทวดาในร่างอสูร !!

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

 

           ในช่วงนี้เริ่มเข้าสู่ฤดูฝน เราจะได้เห็นฟ้าแลบ ได้ยินเสียงฟ้าร้อง ฟ้าผ่า ฟ้าลั่นครืนโครม เป็นธรรมดา เรื่องนี้เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติเกิดจากการถ่ายเทประจุไฟฟ้าบนก้อนเมฆ ที่ทำให้เกิดฟ้าผ่า ฟ้าร้อง นั่นเอง

 

เสียงกัมปนาทจากขวานวิเศษ!! เปิดตำนาน "มณีเมขลากับรามสูร" ปรากฏการณ์ฟ้าแลบ ฟ้าผ่า ด้วยการเนรมิตของนางฟ้าและเทวดาในร่างอสูร !!

 

            อย่างไรก็ตาม เมขลาและรามสูร คนไทยมีความเชื่อกันว่า เมขลาและรามสูรเกี่ยวกับปรากฏการณ์ฟ้าแลบและฟ้าร้อง โดยเล่าว่าเมขลามีแก้ววิเศษประจำตัว รามสูรเห็นดังนั้นก็พอใจในดวงแก้วและความงามของเมขลาจึงเที่ยวไล่จับ เมื่อจับไม่ทันก็เอาขวานขว้างแต่ไม่ถูก เนื่องจากนางใช้แก้วล่อจนมีแสงเป็นฟ้าแลบทำให้รามสูรตาพร่ามัวขว้างขวานไม่ถูก บ้างว่าเป็นเพราะรามสูร เมขลา และพระประชุนมาชุมนุมรื่นเริงกัน พระประชุนคือพระอินทร์ในสมัยพระเวทที่มีหน้าที่ทำให้เกิดพายุฝน พระอินทร์ในหน้าที่นี้เรียกว่า ปรรชันยะ หรือ ปรรชัยนวาต ไทยเรียกเป็นพระประชุน เมื่อมีการชุมนุมรื่นเริงกันของเทพแห่งฝน เมขลาผู้มีดวงแก้วและรามสูรผู้มีขวานจึงทำให้เกิดฟ้าแลบ ฟ้าร้อง ฟ้าผ่า

 

 

 

            สำหรับนางเมขลา เป็นนางฟ้าบนสวรรค์ มีแก้ววิเศษดวงหนึ่ง ด้วยเหตุที่เมขลามีแก้วเป็นของวิเศษ บางทีคนจะเรียกนางว่า "มณีเมขลา" หนังสือสมญาภิธานรามเกียรติ์ (คติพราหมณ์) ของพระสารประเสริฐ (ตรี นาคะประทีป) บอกลักษณะของมณีเมขลาว่า เป็นนางฟ้าเจ้าแม่มหาสมุทร, สีเมฆมอ มีดวงแก้ววิเศษ นอกจากนี้ในทางพระพุทธศาสนา ปรากฏในชาดกเรื่อง พระมหาชนก  ก็ถือว่า มณีเมขลา เป็นเทพธิดานางสมุทรเหมือนกัน มีหน้าที่ช่วยเหลือปกป้องสิ่งมีชีวิตที่บริสุทธิ์จากเรืออัปปาง โดยได้ช่วยพระโพธิสัตว์ (เจ้าชายมหาชนก) พ้นภัยในเหตุการณ์เรืออัปปาง

 

เสียงกัมปนาทจากขวานวิเศษ!! เปิดตำนาน "มณีเมขลากับรามสูร" ปรากฏการณ์ฟ้าแลบ ฟ้าผ่า ด้วยการเนรมิตของนางฟ้าและเทวดาในร่างอสูร !!

 

           ส่วนรามสูร เป็นอสูรเทพบุตร มีฤทธิ์เดชมาก สีกายเขียว มีขวานเพชรเป็นอาวุธ รามสูรอยู่สวรรค์ชั้นจตุมหาราชิกา เป็น ยักษ์จรจัดไม่มีวิมานอยู่เที่ยวอาศัยอยู่ตามกลีบเมฆ ขึ้นชื่อเรื่องเที่ยวเกะกะระรานเทวดา ("รามสูร" เลือนมาจาก "ปรศุราม" ในนารายณ์สิบปาง ปางที่ 6 กล่าวว่าปรศุรามเป็นพราหมณ์ ลูกฤษีชมทัศนีกับนางเรณุกา มีขวานเป็นอาวุธ ปรศุรามได้บำเพ็ญตบะจนบรรลุอริยผลหลายชั้นเหลือแต่ชั้นสูงสุดคือ ปรพรหม ปรศุรามโทโสร้ายจึงมีฉายาว่า "นยักษ์" แปลว่า ต่ำ รามสูร เคยรบกับอรชุนซึ่งเป็นเทวดานักรบ มีพระขรรค์เป็นอาวุธ ขณะท่องเที่ยวอยู่ในอากาศและแย่งกันชมนางฟ้า เทพอรชุนเสียท่าถูกรามสูรจับสองเท้าฟาดใส่เหลี่ยมเขาพระสุเมรุ จนเสียชีวิต นอกจากนี้ ยังท้ารบและรบแพ้พระราม แต่พระรามไม่ฆ่าด้วยเห็นว่าเป็นพราหมณ์ แต่ให้เลือกว่าจะให้แผลงศรไปทำลายมรรค (ทางดำเนินสู่อริยภูมิ) หรือ ผล (อริยภูมิที่จะบรรลุด้วยบำเพ็ญตบะ) ปรศุรามเลือกให้ทำลายผล)

 

เสียงกัมปนาทจากขวานวิเศษ!! เปิดตำนาน "มณีเมขลากับรามสูร" ปรากฏการณ์ฟ้าแลบ ฟ้าผ่า ด้วยการเนรมิตของนางฟ้าและเทวดาในร่างอสูร !!

 

            สำหรับตำนาน มณีเมขลากับรามสูรนั้น ครั้งหนึ่งเป็นเทศกาลวสันตฤดู เทวดาและอัปสรต่างจับระบำรำฟ้อนกันอย่างสนุกสนาน คราวนั้นรามสูรได้เข้ามาร่วมสนุก และได้พบกับนางเมขลา รามสูรพอใจในดวงแก้วและความงามของเมขลา จึงเที่ยววิ่งไล่จับนาง นางเมขลาก็เยาะเย้าทำท่าจะให้แก้ว  แล้วก็ไม่ให้  ผละหนีไปเสีย พอรามสูรตามใกล้จะทันก็โยนแก้วฉายแสงเข้าตารามสูรให้ตาฟางตามหานางไม่พบ  รามสูรก็โกรธ  พอหายมัวตา ก็ขว้างขวานเกิดฟ้าผ่า ดังเปรี้ยงๆ (บ้างก็ว่า  เมื่อจับไม่ทันก็ใช้ขวานขว้าง แต่ไม่ถูก เพราะเมขลาใช้แก้วล่อจนเป็นฟ้าแลบ แสงแก้วทำให้ตารามสูรมัวจึงขว้างขวานไม่ถูก)

          อย่างไรก็ตาม เรื่องเมขลารามสูร ที่ปรากฏในวรรณคดีเก่า เรื่อง เฉลิมไตรภพ กล่าวถึงเรื่องเมขลากับรามสูร แตกต่างกันเล็กน้อย โดยมีรายละเอียดว่า พระยามังกรการตนหนึ่ง จะไปไหนก็เอาดวงแก้วทูนศีรษะไว้ มังกรการได้แปลงเป็นเทวดาไปสมสู่กับนางฟ้า จนมีบุตรีชื่อ เมขลา เมื่อเจริญวัยขึ้นก็มีความงามยิ่ง มังกรการได้นำบุตรีและดวงแก้วไปมอบแก่พระอินทร์ (พระอิศวร) รามสูรเป็นเพื่อนกับพระราหู ผู้มีครึ่งตัวเพราะถูกจักรพระนารายณ์ตัด  เมื่อครั้งแปลงเป็นเทวดาไปดื่มน้ำอมฤต (จากพิธีกวนเกษียรสมุทร) รามสูรคิดจะขอพรจากพระอินทร์ให้พระราหูกลับมีร่างดังเดิม และบังเอิญที่นางเมขลาได้ขโมยเอาดวงแก้วของพระอินทร์ไป จึงจะจับนางไปถวายเพื่อให้ได้ความดีความชอบก่อน

 

เสียงกัมปนาทจากขวานวิเศษ!! เปิดตำนาน "มณีเมขลากับรามสูร" ปรากฏการณ์ฟ้าแลบ ฟ้าผ่า ด้วยการเนรมิตของนางฟ้าและเทวดาในร่างอสูร !!

 

        เมื่อเจอนางเมขลาก็ไล่จับ แต่เมขลาก็หลบหลีกโยนแก้วล่อหลอกรามสูร รามสูรจึงขว้างขวานเพชรไป แต่อำนาจดวงแก้ววิเศษคุ้มครองนางเมขลาไว้ จวบจนบัดนี้ รามสูรก็ยังไม่ได้ตัวนางเมขลาและพระอินทร์ก็ยังไม่ได้ดวงแก้วมณีคืน  เพราะยังเห็นแสงแก้วที่นางเมขลาฉายแสงเป็นฟ้าแลบแวบวับ และเสียงขวานของรามสูรเป็นฟ้าร้องเปรี้ยงปร้างอยู่ทุกวสันตฤดู แสดงว่า รามสูรยังติดตามเอาแก้วจากเมขลาอยู่จนทุกวันนี้

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.astroeducation.com

                          https://th.wikipedia.org/wiki/รามสูร

                          https://th.wikipedia.org/wiki/เมขลา

ขอบคุณภาพจาก : โอม รัชเวทย์